รีวิว Canon EOS R รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้กับ Canon Mirrorless Full Frame

Yochuwa Samarom

6 years ago

รีวิว Canon EOS R รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้กับ Canon Mirrorless Full Frame ตั้งแต่ต้องตัวนี้เปิดตัวมาก็ทำให้หลายคนที่จับตามอง Canon EOS R มากขึ้น ว่าเป็นกล้อง Mirrorless ที่สเปคโหดและน่าใช้งานมากน้อยแค่ไหน เดี๋ยวเรามารีวิวเรื่องที่ต้องรู้กับ Canon EOS R กันดีกว่า กล้อง Mirrorless Full Frame ตัวแรกของ Canon

รีวิว Canon EOS R รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้กับ Canon Mirrorless Full Frame

สิ่งที่เราต้องรู้เกี่ยวกับกล้อง Canon EOS R

*รีวิว Canon EOS R, canon mirrorless, canon full frame, canon eos, กล้องถ่ายรูป, มิลเรอร์เลส – source : DPreview*

ในที่สุดเราก็เห็นการเปิดตัวจริงของ Canon จนได้กับกล้อง Mirrorless Full Frame ซึ่งมาพร้อมกับ Canon RF Mount ที่ได้ออกมาใหม่ พร้อมความสามารถตัวกล้องยังมี Dual Pixel CMOS และวีดีโอแบบ 4K นั่นเองครับ

แม้จะมีคำกล่าวอ้างมาบ้างว่า Canon EOS R ตัวนี้เป็น Canon 5D Mark IV ในรูปร่างของบอดี้ที่เล็กลง ไม่มีกระจกสะท้อนเหมือน Canon DSLRs แต่ว่ามันมีการพัฒนาออกมาสูงอยู่เหมือนกัน ที่ทำให้กล้องตัวนี้สามารถที่จะสู้คู่แข่งในตลาดได้พอสมควร แน่นอนว่าในตลาดตอนนี้มีคู่แข่งอย่าง Nikon Z6 และ Nikon Z7 รวมไปถึง Sony A7III ที่เป็นเจ้าตลาดนั่นเอง เดี๋ยวเราไปดูแบบละเอียดกันว่า Canon EOS R ตัวนี้มีจุดเด่นเรื่องอะไรบ้าง และมีเรื่องอะไรที่เราต้องรู้เกี่ยวกับกล้องตัวนี้บ้าง

อ่านบทความเปรียบเทียบมันส์ ๆ ก่อนหน้านี้

Canon EOS R มีความละเอียด 30 ล้านพิกเซล Full Frame Sensor

เรียกได้ว่าข้อนี้เป็นจุดเด่นที่สำคัญมากของกล้อง Mirrorless Full Frame ในตลาด ยิ่งเป็น Segment ระดับ Pro แล้วคงต้องมีความละเอียดที่เยอะ รวมถึงการถูกเปรียบเทียบกับกล้องตัวอื่นในตลาดด้วย ตาดว่านี่แหละเป็นเหตุผลที่ทำให้ Canon EOS R ตัวนี้มีความละเอียดที่เยอะพอสมควรเลย นอกจากนี้กล้องตัวนี้ยังใช้เซ็นเซอร์ตัวเดียวกับ Canon EOS 5D Mark IV พร้อมกับหน่วยประมวลผล DIGIC 8 นั่นเอง

Canon EOS R มี ISO มาตรฐานเดียวกับ Canon 5D Mark IV นั่นคือ 100-40,000

กล้องมิลเรอร์เลส Canon EOS R ตัวนี้มี Dual Pixel บวกกับ Canon 14-bit CRW RAW Format รวมถึง C-RAW ที่จะทำให้ไฟล์มีขนาดเล็กลงด้วย ทำให้ยืดหยุ่นกับงานหลาย ๆ แบบ

เม้าท์ใหม่ Canon RF Mount ที่มากับกล้อง Canon Mirrorless Full Frame

Canon EOS R เปิดตัวเม้าท์เลนส์รุ่นใหม่ น่าจะเป็นรุ่นที่ 4 ได้แล้วมั้งสำหรับกล้อง Full Frame ที่เป็นเม้าท์ใหม่นี้ ตั้งแต่ FL/D และ R ก็เปลี่ยนจาก FD มาเป็น EF จนถึงตัวนี้แหละล่าสุดเป็นเม้าท์ RF แน่นอนว่ามี Adapter ที่สามารถแปลงให้กล้องตัวนี้ใช้กับเลนส์พวก EF ได้

เลนส์ RF ชุดใหม่ใช้กับเม้าท์ EF-M ไม่ได้

เป็นเรื่องที่แอบตกในอยู่เพราะว่า Canon Mirrorless APS-C ที่เป็นเม้าท์ EF-M ไม่สามารถที่จะใช้เลนส์ RF Mount ได้ ทำให้กล้อง Mirrorless Full Frame และ Mirrorless APS-C อาจจะต้องแยกไลน์กันอย่างชัดเจน

หากดูในระยะยาวคนที่เล่น Canon Mirrorless ก็ควรเลือกเลยว่าจะไปเล่นสาย Canon EOS R แบบ Full Frame หรือจะเลือกเล่น Canon EOS M ให้ชัดเจน แต่ใน Long Term มันก็ยังอดระแวงไม่ได้อยู่ดีว่า Canon Mirorrless APS-C จะได้ไปต่อไกลแค่ไหน เพราะว่าแบรนด์น่าจะลงทุนไปทาง Full Frame Sensor มากกว่า แต่ยังไง Canon EOS M ทั้งหลายก็มี Adapter ให้ใช้กับ Mount EF ได้อยู่

Canon ปล่อย Adapter แปลง EF to EF-R ให้ใช้เลนส์ Full Frame DSLR ได้

ในทางกลับกันการเปลี่ยนเลนส์ EF ให้เป็น EF-R นั้นทำได้ง่ายมาก ก็เป็นข่าวดีสำหรับคนที่ใช้ Canon DSLR Full Frame ถ้าจะย้ายมา Canon EOS R ก็ทำได้สบายเลย เพราะมี Adapter แปลงเลนส์มาเรียบร้อย

จุดโฟกัส 5,655 จุด Dual Pixel CMOS AF

มันคลั่งมาที่กล้องตัวนี้ได้เผยถึงจุดโฟกัสแบบล้นโลกคือ 5,655 จุด คงเป็นเพราะเทคโนโลยี Dual Pixel นั่นแหละ เดาว่าจุดโฟกัสพวกนี้คงเยอะมานานแล้วเพียงแต่เพิ่งมาเผยตัวเลขทางการตลาด ประเด็นมันอยู่ตรงที่ Dual Pixel ทำงานได้ดีสมชื่อจริง ๆ ทั้งความแม่นยำในการโฟกัส ความสมูทเวลาโฟกัสในโหมดวีดีโอ แน่นนอนว่าพอเทคโนโลยีนี้มาอยู่ใน Canon EOS R ก็เลยเป็นอาวุธเด่นที่จะมาชน Mirrorless Full Frame ในตลาด

ประสิทธิภาพในการโฟกัส – Canon EOS R Focus Performance

จากสื่อ DPreview ที่ได้ไปทดสอบมาเขาบอกได้ว่าการโฟกัสมีความแม่นยำมาก รวดเร็ว และสามารถโฟกัสแบบ Continuous ได้รวดเร็วมากตราบเท่าที่เลนส์จะโฟกัสทัน จากภาพก็ยืนยันได้ดีว่ากล้อง Canon EOS R สามารถที่จะถ่ายภาพในงาน Event หรือว่าถ่าย Sport ได้บ้างถ้าดูตาม Spec Sheet แต่ที่แน่ ๆ คือกล้องตัวนี้ไปได้ไกลในระดับโปรแน่นอน

สิ่งที่เจ๋งคือมันมี Eye Focus Tracking ด้วย ทำให้สาย Portrait ทั้งหลายถูกใจแน่นอน เพราะดูจะเป็นความสามารถในการโฟกัสมาตรฐานที่ควรจะมีไปแล้ว

ความเร็วในการทำงาน การถ่ายภาพต่อเนื่อง

กล้องตัวนี้ทำงานได้รวดเร็วมาก เพราะเปิดเครื่องใช้เวลาแค่ 0.9 วินาที สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ที่ 8 เฟรมต่อวิยาที โดยมีการล็อกโฟกัส แต่ถ้าให้มีการโฟกัสต่อเนื่องก็ 5 ภาพต่อวินาที ถ้าอยู่ใน Tracking Priority Mode ที่ต้องการความแม่นยำมาก ๆ ก็ได้ 3 ภาพต่อวินาที

แม้ว่าดูสเปคแล้วกล้อง Canon EOS R จะไม่ใช่กล้องที่ไวระดับปีศาจขนาดนั้น แต่ก็เห็นที่ทาง DPreview บอกว่าไม่มี Blackout ในระหว่างการถ่ายภาพ และ AF Tracking ทำงานร่วมกับการถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 3-5 ภาพต่อวินาที มันก็มากพอที่จะทำงานได้สะดวกสบาย นอกจากนี้กล้องตัวนี้ยังใช้การ์ด USH-II ทำให้สามารถที่จะถ่ายภาพ JPEG ได้ 100 ไฟล์กว่าจะเต็ม Buffer ส่วน RAW ได้กว่า 47 ภาพเลยแหละ

อ่านบทความเปรียบเทียบมันส์ ๆ ก่อนหน้านี้

ดีไซน์ การจับถือ Canon EOS R ดีไหม จับถนัดหรือเปล่า ?

ดูหน้าตาแล้วก็ดูจะตรงใจกับทาง Nikon Z6 และ Nikon Z7 เพราะกล้อง Canon EOS R ได้ออกแบบให้เน้นการจับถือที่กระชับ ประสบการณ์เทียบเคียงกับ DSLR แต่มีบอดี้ที่เล็กลงมา การวางปุ่ม Dial ต่าง ๆ ก็จะทำให้คนที่ใช้กล้องโปรมาคุ้นเคยทันที

นอกจากนี้ยังมาพร้อม Battery Grip BG-E22 ที่เป็นอุปกรณ์เสริมสามารถทำให้กล้องตัวนี้ใส่แบตเตอรี่ได้ 2 ตัว ใช้งานได้นานขึ้นเป็นสองเท่า

ออกแบบมาให้ป้องกันเซ็นเซอร์ สร้างความสบายใจให้ผู้ใช้

กล้องตัวนี้เป็นตัวแรกที่ใส่ใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการให้ม่านชัตเตอร์ลงมาปิดตัวเซ็นเซอร์เมื่อกล้องปิดเครื่องอยู่ เลี่ยงความเสี่ยงในนการเกิดฝุ่นบนเซ็นเซอร์ Canon แนะนำให้เราปิดกล้องทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนเลนส์ และนั่นก็โอเคนะเพราะม่านมันป้องกันเซ็นเซอร์ในระดับนึง

กล้องตัวนี้ไม่มีกันสั่นในบอดี้นะ แอบเซ็ง

กล้อง Canon EOS R ไม่มีกันสั่นในตัวกล้อง คาดว่าก็เพื่อเน้นให้กล้องตัวนี้ใช้งานได้ดีกับเลนส์ตัวอื่น ๆ ก่อนหน้าที่ไม่ใช่เม้าท์ RF เพราะคงต้องการเน้นความเสถียร แต่ก็ต้องแลกกับข้อด้อยที่ Mirrorless Full Frame ค่ายอื่นอย่าง Sony A7III และ Nikon Z6 และ Nikon Z7 ก็มีกันสั่นในตัวกล้องกันหมดแล้วน่ะสิ

มีช่องใส่การ์ดแบบ UHS-II SD Card “แค่ช่องเดียว”

และถ้ามีสิ่งหนึ่งที่เราเรียนรู้มาจากการเปิดตัว Nikon Z6 และ Nikon Z7 จะรู้ว่า โคตรเซ็ง เพราะให้ช่องใส่การ์ดมาช่องเดียว อันนี้ก็ไม่แพ้กันคือ ให้มาช่องเดียว ยังดีที่ใส่ SD Card แบบ UHS-II ได้ ไม่ใช่แค่ XQD เหมือน Nikon ฮ่า ๆ

Viewfinder ความละเอียดสูง และมีหน้าจอ OLED ด้านบนด้วยนะ

ช่องมองภาพ Canon EOS R มีความละเอียด 3.69 ล้านจุด ละเอียดมากก และกำลังขยาย 0.76 เท่า และครอบคลุมการมอง 100% แต่แอบน้อยกว่า Nikon Z6, Nikon Z7 อยู่นิดหน่อย เพราะค่ายนั้นมีช่องมองที่ 0.8X

LP-E6N Battery

กล้อง Canon EOS R ใช้แบตเตอรี่ LP-E6 แบบเดียวกับ Canon DSLRs ตัวอื่น ๆ แต่ในรุ่น LP-E6N จะรองรับการชาร์จไฟผ่านตัวกล้อง USB-C Port และรองรับเครื่องชาร์จ PD-E1 ด้วย

การให้คะแนนแบตเตอรี่ของ EOS R จาก CIPA มีตั้งแต่ 330 ภาพ ถึง 560 ภาพต่อการชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้ง เทียบกับ 5D Mark IV อาจจะห่างหน่อยเพราะรายนั้นได้ถึง 850 ภาพ ถึง 900 ภาพ เลยทีเดียว

ความสามารถในการถ่ายวีดีโอ

Canon EOS R สามารถถ่ายวีดีโอแบบ 4K UHD ได้ที่ความละเอียดสูงสุด 3840×2160 พิกเซล ที่ 30p มีให้เลือก 24p 4K และ HD ที่ความเร็ว 60p และ 120p สำหรับการถ่าย High Speed ความละเอียดจะลดลงมาเหลือ 720p เมื่อใช้การตั้งค่าแบบละเอียดสุด EOS R จะมีอัตราบิตสูงสุดที่ 480 Mbps ซึ่งทำงานได้ประมาณ 8 นาทีในการบันทึกลงการ์ดความจุ 32GB และต้องใช้การ์ดแบบ V60-Rated Card

นอกจากนี้ Canon EOS R สามารถจับภาพ C-Log ภายในได้เช่นเดียวกับ Canon EOS 5D Mark IV ซึ่ง C-Log ตัวนี้เป็นไฟล์ 8-bit 4:2:0 MP4 หรือสามารถถ่ายแบบ 10-bit 4:2:2 C-Log ผ่านหน้าจอ HDMI

ปุ่มกด, Dial, Panel ต่าง ๆ

ในแง่ของการออกแบบปุ่มต่าง ๆ Canon EOS R ได้ผสมผสานระหว่างของเดิมและของใหม่เข้าด้วยกันน ทำให้สามารถที่จะควบคุมได้ง่าย และออกแบบให้ยืดหยุ่นต่อการปรับแต่งค่าด้วยตนเองง่ายขึ้น ซึ่งดูจากการออกแบบแล้ว Canon EOS R ตัวนี้คงจะเป็นกล้อง Mirrorless ที่ออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย ถนัด และพร้อมลุยจริง ๆ แหละ

Canon EOS R ราคาเท่าไหร่?

การเปิดราคาขาย Canon EOS R ราคา 2,290 ดอลลาร์ หรือประมาณ 75,000 บาท นี่ยังไม่รวมภาษีกับราคาขายในไทยนะ น่าจะมีเพิ่มอีก กับอีกราคานึงพร้อมชุดเลนส์ Canon EOS R + Canon RF 24-105mm F4L IS USM ราคา 3,399 ดอลลาร์ หรือประมาณ 111,000 บาท รอราคาไทยอย่างเป็นทางการน่าจะแพงกว่านี้