รีวิว Fujifilm X-H1 ตัวนี้ได้นำประสบการณ์ของ เดนิซ เซย์แลน (Deniz Saylan) มาถ่ายทอดเรื่องราวการใช้งานกล้อง Fujifilm X-H1
ตอนที่ผมได้กล้อง Fujifilm X-H1 เพื่อใช้ในการทดสอบช่วงเริ่มต้นปรีซีรี่ส์ แล้วให้ผมแสดงความเห็นไปยังบริษัทฟูจิฟิล์ม (FUJIFILM) ฉะนั้นระบบทั้งหมดนี้ยังคงเป็นเรื่องใหม่มาก ๆ สำหรับผม หลังจากที่ผมใช้เวลาตลอดอาชีพของผมไปกับการถ่ายภาพร่วมกับกล้องแบบ DSLR และแบบ Medium Format แต่ผมก็ยังคงอยู่ในขั้นตอนในการค้นพบใหม่กับงานนี้
เหตุผลหลักที่ผมผมลองเปลี่ยนมาใช้กล้องรุ่นนี้เพราะอยากรู้ว่าระบบที่มีอยู่ในตัวกล้องรุ่นนี้เป็นยังไง ที่สำคัญตัวกล้องมีขนาดเล็กมาก น้ำหนักเบา ยิ่งทำให้ช่างภาพทำงานได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
มุมมองทางด้านกายภาพก็เป็นอีกเหตุผลนึง เพราะคุณไม่ต้องลากอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักเยอะๆ อีกต่อไป กล้องรุ่นนี้พกพาได้สะดวกสบายในยามท่องเที่ยว เพราะคุณไม่ต้องเสียเวลาโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่เมื่อคุณเข้าไปเช็คอินที่สนามบิน และต้องการนำอุปกรณ์ของคุณขึ้นไปเป็นสัมภาระติดตัวขึ้นไปบนเครื่องด้วย
สิ่งแรกที่ผมสะดุดตาเมื่อผมเอาเจ้ากล้อง Fujifilm X-H1 ออกมาจากกระเป๋าก็คือการสัมผัสได้ถึงความแข็งแรงของตัวกล้องใหม่รุ่นนี้ แม้จะไม่มีแบตเตอรี่กริป แต่เจ้า Fujifilm X-H1 ก็ยังคงจับถนัดมือคุณ ประโยชน์อีกอย่างที่ผมสังเกตเห็นก็คือช่องมองภาพที่กว้าง สิ่งนี้สามารถทำให้คุณคิดเทคนิคพลิกแพลงเวลาที่คุณทำงานร่วมกับกล้องแบบ DSLR
ขณะเดียวกันคุณภาพของช่องมองภาพมีความสำคัญมากๆ คุณจะรู้สึกได้ว่าเหมือนคุณใช้ช่องมองภาพแบบออปติคอล โดยรวมแล้วสิ่งที่ผมประทับใจตอนที่ผมใช้ช่องมองภาพแบบดิจิตอลก็คือคุณสามารถรับรู้ได้ว่าภาพจะเป็นยังไงก่อนที่คุณจะถ่าย อย่างในกรณีที่อยู่ในสภาวะแสงที่ใช้ถ่ายทำยังไม่เหมาะซึ่งมีความสว่างมากเกินไป ตัวอย่างเช่นคุณต้องถ่ายภาพขณะที่มีแสงแดดจัดๆ คุณจะได้ประโยชน์จากการตรวจสอบภาพที่คุณถ่ายผ่านช่องมองภาพแทนที่จะแสดงผลออกมาเลย
จอภาพเล็กแบบใหม่ทำให้ช่างภาพในรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่นระดับแบตเตอรี่, จำนวนที่เหลืออยู่ของเมมโมรี่ และอีกหลายๆ อย่าง ผมชอบมากๆ ที่มีออปชั่นหลากหลายตามความต้องการของผู้ซื้อที่เกือบจะทั้งหมดเป็นองค์ประกอบทั่วไปในการใช้งาน ตัวอย่างเช่นข้อมูลที่จะแสดงขึ้นบนหน้าจอและฟังค์ชั่นที่แตกต่างกัน อย่างการปรับหมุนระบบคำสั่งของปุ่มหมุนปรับทิศทาง และข้อมูลที่ขึ้นบนช่องมองภาพ
นี่คือการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ส่วนบุคคลสำหรับช่างภาพอย่างแท้จริง ผมคิดว่า ฟูจิฟิล์ม ได้สร้างตัวเลือกที่สุดยอดมากๆ พร้อมกับแนวคิดในการควบคุมฟังค์ชั่นสำคัญๆ ของกล้อง อย่างเช่นระบบความไวแสง ไอเอสโอ, สปีดชัตเตอร์ และรูรับแสงที่มาพร้อมกับการปุ่มหมุนแบบอะนาล็อค หากใครที่ชอบการตั้งค่าสปีดชัตเตอร์ และรูรับแสงด้วยปุ่มหมุนกล้องตัวนี้มีออปชั่นให้ทำแบบนี้ได้เลย ประโยชน์ของการมีปุ่มปรับแบบอะนาล็อคก็คือคุณสามารถเช็ค และปรับเปลี่ยนการตั้งค่าด้วยการชำเลืองเพียงแค่หางตาโดยที่ไม่ต้องหมุนตัวกล้อง สิ่งนี้ทำให้การทำงานมีความรวดเร็วและเป็นธรรมชาติ
ในส่วนของการทำงานของระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องถือว่ายอดเยี่ยมมาก ๆ ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพหรือถ่ายวีดิโอ ถ้าคุณเพิ่มตัวอุปกรณ์กิมบอลที่ช่วยควบคุมกล้องไม่ให้สั่นไหวมันยิ่งทำให้กล้องมีความนิ่งเหมาะกับการบันทึกวีดิโอ
ระบบการทำงานของออโต้โฟกัสมีความว่องไว และไหลลื่น จริงๆ แล้วเจ้ารุ่น Fujifilm X-H1 ยังทำให้คุณบันทึกภาพด้วยระบบ F-log ที่จะให้ความละเอียดเป็น 4 เท่าจากภายในซึ่งเป็นหนึ่งในฟังค์ชั่นสำคัญของรุ่นนี้ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บันทึกจากภายนอก
อุปกรณ์ที่สุดแสนเพอร์เฟกต์สำหรับการปรับคุณภาพสีภายหลังด้วยอุปกรณ์แบบการถ่ายหนังที่มีความเร็ว 200 เมกะบิตต่อวินาที ดังนั้นเจ้า Fujifilm X-H1 เปรียบได้กลับกล้องวีดิโอตัวใหญ่เลยทีเดียวอย่างเช่นกล้องถ่ายหนัง ARRI ของ Amira และนี่คือการผสมผสานอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
ฟีเจอร์อีกอย่างที่ดีมากๆ ก็คือการสร้างอุปกรณ์ตัวนี้ให้ง่ายต่อการทำงาน และกระตุ้นให้เกิดการอยากทดสอบด้วยฟังค์ชั่นการเล่นภาพสโลว์โมชั่นซึ่งสร้างความน่าประทับใจมากๆ ด้วยการแสดงผล 120 ภาพต่อวินาทีด้วยระบบแบบฟูลเอชดี
สิ่งที่ทำให้ผมต้องฉงนก็คือคุณภาพของภาพขนาดใหญ่ในวีดิโอ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโหมดถ่ายภาพ สิ่งที่ทำให้ต้องแปลกใจอาจจะมาจากการทำงานของเซนเซอร์ที่มีขนาดเล็กกว่า 3.5 มิลลิเมตรหรือมีประสิทธิภาพพอๆ กับกล้องของมือโปรเลยทีเดียว
เกี่ยวกับ Deniz Saylan ผู้ที่ได้ รีวิว Fujifilm X-H1 เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการถ่ายภาพบุคคลและภาพยานยนต์
เขาได้ตกหลุมรักการถ่ายภาพตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และเขาไม่เคยสัญเสียความสนใจไปกับงานฝีมือแบบนี้เลย เขาได้รู้สึกดึงดูดใจกับการถ่ายภาพ สิ่งที่มีค่าที่สุดในตัวเขาก็คือ ความปรารถนาที่จะเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ทั้งคน แล้วก็การอยากรู้อยากเห็น
Deniz เริ่มต้นการเป็นช่างภาพนิตยสารสำหรับ นิตยสารข่างต่างประเทศ ถ่ายทำสารคดีและภาพบุคคลทั่วโลก หลังจากบันทึกเหตุการณ์ 9-11 ในนิวยอร์ ไปจนถึงการถ่ายภาพสงครามด้วย และการเป็นช่างภาพ Jouralism ก็เดินหน้าต่อไปโดยมุุ่งเน้นที่การถ่ายภาพบุคคล ถ่ายภาพโฆษณา เขาเริ่มถ่ายภาพบุคคลศิลปินและนักการเมือง และผู้นำทางด้านเศษรฐกิจ รวมถึงลูกค้าในต่างประเทศด้วย
นอกจากนี้งานภาพวาดของนักดนตรีในเทศกาล Salzburg ก็ได้ทำให้เขาเข้าสู่โลกดนตรีคลาสสิค ชุดรูปแบบของนักร้องหญิงโอเปร่าสำหรับเทศกาล Salzburg ดึงดูความสนใจของ Daimler / Maybach ทำให้เขาได้ถูกทาบทามการถ่ายภาพรถยนต์ชิ้นแรกของเขาในปี 2005 สำหรับ Daimler และ Maybach และต่อมาก็เป็น Infiniti, Lamborghini, Rolls Royce, BMW, Porsche, Bechstein และอื่น ๆ
Deniz อาศัยอยู่ในกรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมันนี