รีวิว FUJIFILM X-H1 จากสนามแข่งรถ ความไว และน่าเหลือเชื่อจากประสบการณ์ของ แอนดรูว์ ฮอลล์
รีวิว FUJIFILM X-H1 ในฐานะช่างภาพซึ่งเคยผ่านการใช้งานกล้องในตระกูลฟูจิฟิล์ม ซีรี่ส์ ตั้งแต่ตอนที่มีการแนะนำรุ่นยอดฮิตระดับไอคอน X100 ในปี 2011 ผมเคยเห็นกล้องแบบ Mirrorless ในตระกูล X Series ที่มีการพัฒนาระบบซึ่งแค่การเป็นคู่แข่งกับกล้องระบบดิจิตอล DSLR เท่านั้น แต่ยังมีตัวอย่างมากมายเกี่ยวประสิทธิภาพของกล้องรุ่นนี้
คุณภาพของภาพ, รูปทรงที่สวยงามของกระจกเลนส์ฟูจิน่อน และเทคโนโลยีที่มีการค้นพบใหม่สำหรับกล้องในตระกูล X Series ที่ทำให้ผมสามารถจับภาพได้ทั้งที่ก่อนหน้านี้ถ่ายไม่ทัน
ปัจจุบันผมใช้กล้องบอดี้รุ่น X-T2 และเลนส์ไพรม์กับเลนส์ซูมของ XF สำหรับการถ่ายภาพมอเตอร์สปอร์ต สำหรับรุ่น X-T2 ได้ผ่านการอัพเกรดเฟิร์มแวร์นับตั้งแต่ที่มีการวางจำหน่าย โดยการพัฒนายังคงมีอย่างต่อเนื่องซึ่งสิ่งที่สร้างความประทับใจแล้วก็คือระบบออโต้ โฟกัส ที่แม่นยำ และสมรรถนะโดยรวมที่ยอดเยี่ยม
ฟูจิฟิล์ม มีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะพัฒนา และสร้างความก้าวหน้าฟีเจอร์ของตระกูล X series โดยการพัฒนานี้ทำให้เกิดการควบคุมเกี่ยวกับข้อมูลที่เข้ามาจากช่างภาพที่อยู่ในสนามจริง เราได้สอบถามว่าฟีเจอร์แบบไหนในตระกูล X series ที่เราชอบและที่เราไม่ชอบ สิ่งที่เราอยากเห็นในอนาคต จากประสบการณ์ของผมที่เกือบได้ลองใช้ฟีเจอร์มาทุกชนิดทำให้ได้พบกับแนวทางใหม่ในตัวโมเดลของ X series และนี่เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญทำให้ช่างภาพยังคงยึดมั่นในการใช้แบรนด์ฟูจิฟิล์ม
ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมทดสอบรุ่น X-H1 และมันน่าตื่นเต้นสำหรับตัวบอดี้ใหม่ที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีซึ่งไม่เคยมีในบอดี้ของ X series รุ่นก่อน ๆ
สำหรับเจ้า X-H1 เพอร์เฟกต์มากๆ สำหรับการนำไปใช้ในกีฬามอเตอร์สปอร์ตที่เต็มไปด้วยความรวดเร็ว ผมใช้ X-H1 จับภาพการแข่งขันรถสปอร์ตคาร์ Bahrain 6hr และสมรรถภาพของมันก้าวไปไกลกว่ารุ่น X-T2
รุ่น X-H1 มีความละเอียดคมชัดของภาพมากๆ และมีระบบความไวแสง ไอเอสโอ สูงซึ่งมีความสามารถพอๆ กับรุ่น X-T2 พร้อมกับเพิ่มสมรรถภาพด้วยระบบโฟกัสอัตโนมัติ และความสะดวกสบายหลาดๆ ด้าน โดยเฉพาะระบบโฟกัสอัตโนมัติเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์มากๆ ทั้งเร็ว และแม่นยำพร้อมกับ 5 โหมดคัสตอม ผมสับเปลี่ยนระหว่างโหมดคัสตอมโดยขึ้นอยู่กับประเภทของการถ่าย ส่วนใหญ่ผมมักจะใช้โหมดเลือกโฟกัสเอง แต่บางครั้งก็เปลี่ยนมาใช้โหมด Zone Focus มันมีความยืดหยุ่นเพื่อที่จะปรับตัวให้เข้ากับระบบออโต้โฟกัสที่เป็นคุณลักษณะพิเศษซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้กล้องมีสมรรถภาพสูง
ตัวบอดี้ที่กว้างกว่ารุ่น X-T2 เนื่องจากมีกริบที่ใหญ่กว่าซึ่งมีหน้าจอแอลซีดีขนาดเล็กที่คล้ายกับรุ่น GFX 50s จอภาพแบบนี้เผยให้เห็นทุกอย่างๆ ที่เกี่ยวกับข้อมูลของกล้องทั้งการตั้งค่าและแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ซึ่งเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ สำหรับการอ่านค่าบนหน้าจอ ผมสามารถตรวจเช็คข้อมูลทุกอย่างบนหน้าจอแม้จะอยู่ในที่ที่มีแดดจัด
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังจับได้สบายมือเนื่องจากคุณสมบัติของตัวกริบในรุ่น X-H1 ให้ความรู้สึกไม่แตกต่างกับรุ่น X-T2 ของผมขณะที่ใช้งาน การสร้างคุณภาพด้วยมาตรฐานที่สูงมากเป็นสิ่งที่ผมคาดหวังจากกล้องในตระกูล X series ในส่วนของการซีลเพื่อรองรับสภาพอากาศที่ไม่ปกติเป็นเรื่องที่น่าประทับใจมากๆ กล้องรุ่น X-T2 ของผมพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันไว้วางใจได้ตลอดช่วงที่นำไปใช้ในการถ่ายภาพมอเตอร์สปอร์ต 2 ซีซั่นที่ผ่านมา ซึ่งสามารถถ่ายภาพได้ในทุก ๆ สภาพอากาศตั้งแต่ร้อนจัดไปจนถึงหิมะตก และผมมั่นใจว่ารุ่น X-H1 จะมีสมรรถภาพที่เหมือนกัน
สำหรับผมแล้วฟีเจอร์ถือว่าดีเยี่ยมในรุ่น X-H1ก็คือระบบบอดี้กันสะเทือน (IBIS) ซึ่งเป็นฟีเจอร์อันดับแรกในบอดี้ของตระกูล X Series
ระบบ IBIS หมายความว่าทุกๆ เลนส์ที่เป็นเลนส์ Kit ของผม ตอนนี้ภาพมีความเสถียรมากๆ เลนส์ที่มีระบบป้องกันการสั่นไหว เป็นเทคโนโลยีที่มีอยู่ในเครื่องมือที่ผมใช้ในการถ่ายภาพ จริงๆ แล้วตอนนี้ IBIS เป็นเลนส์ที่ผมชื่นชอบที่สุดสำหรับแนวทางที่ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ในการถ่ายรูปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเลนส์ XF16mmF1.4, XF23mmF1.4, XF56mmF1.2 และ XF90mmF2 ของผม ทั้งหมดนี้มันมีประโยชน์มาก ๆ
การแข่งขันสปอร์ตคาร์ที่ บาห์เรน เริ่มแข่งในช่วงบ่ายแก่ๆ และแข่งไปจนถึงมืด ที่สนามบาห์เรน อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มีแสงสว่างกำลังพอดี และจะเริ่มมีผลกระทบทันทีหลังจากอาทิตย์ตก แม้ว่าระดับของแสงสว่างในลู่แข่งจะเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับช่างภาพมากๆ พร้อมกับรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูง และมีแสงเงาจากทุกๆ พื้นที่ซึ่งสะท้อนมาจากตัวรถที่อยู่ภายใต้แสงไฟ
ประสิทธภาพของรุ่น X-H1 ถือว่าสุดยอดมากๆ โดยเฉพาะระบบออโต้ โฟกัส เราสามารถจับภาพการแข่งในบาห์เรนได้อย่างใกล้ชิด และระบบ IBIS ของ X-H1 ทำให้ผมมั่นใจว่าเลนส์ XF56mmF1.2 และ XF90mmF2 สามารถรับมือได้ในทุกๆ สถานการณ์ซึ่งผมมักจะลังเลในการถ่ายภาพก่อนหน้านี้ ผลลัพธ์ที่สุดยอด และคุณยังได้เห็นการทำงานที่หลากหลายของ IBIS ขณะที่ถ่ายภาพด้วย ! ส่วนช่องมองภาพของรุ่น X-H1ถือเป็นการแก้ปัญหาได้สุดยอดจากรุ่น X-T2 และนี่ยังทำให้การถ่ายภาพสะดวกยิ่งขึ้น
ในโลกการถ่ายภาพมอเตอร์สปอร์ต การใช้รุ่น X-H1 พร้อมกับระบบบอดี้กันสะเทือน โดยจะผลถึง 5 Stopจากการใช้ระบบกันสะเทือน นั่นหมายความว่าผมสามารถสร้างภาพที่สุดพิเศษ จากการจับภาพแบบรูปร่างนักขับแบบพอร์ทเทรตในที่มืดที่อยู่ในพิต ไปจนถึงการถ่ายภาพในสนามแข่งที่ให้ความไวชัตเตอร์ที่ช้ามากเวลาที่ผมใช้เลนส์ไพร์ม
พร้อมกันนี้ X-H1 เป็นไปตามแกนแท้ของปรัชญาของ ฟูจิฟิล์ม ที่ยังคงรักษาเอาไว้ในตระกูล X Series นั่นก็คือน้ำหนักเบา, คล่องตัว และให้ภาพที่เต็มไปด้วยคุณภาพคับแก้ว และการมีระบบ IBIS ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นซึ่งผมตั้งใจว่าจะตะลุยเต็มที่ในการถ่ายภาพการแข่งมอเตอร์สปอร์ตในช่วงปีนี้
ผมเป็นช่างภาพมาเกือบ 30 ปี ความปรารถนาของผมสำหรับการถ่ายภาพไม่เคยลดนน้อยลงเลย และการได้ใช้ฟูจิฟิล์ม ในตระกูล X Series ซึ่งทำให้ผมมุ่งมั่นมากขึ้นไปอีก ! สำหรับรุ่น X-H1เป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ แต่ผมรู้ว่า ฟูจิฟิล์ม คงไม่หยุดการพัฒนางานของพวกเขา และยังมีแรงกระตุ้นในการพัฒนา X Series ต่อไปในช่วงหลายๆ เดือน และหลายๆ ปีข้างหน้า ผมเป็นคนนึงที่ตั้งตาคอยที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางไปพร้อมกับพวกเขา
,Source : fujifilm-x.com