Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

5 ทริคที่ช่วยถ่ายภาพ LANDSCAPE ให้สวยขึ้น

5 ทริคที่ช่วยถ่ายภาพ LANDSCAPE ให้สวยขึ้น การถ่ายภาพแนววิวทิวทัศน์ เป็นที่นิยมสำหรับสายท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก อยากที่จะเก็บภาพถ่ายของสถานที่ตามธรรมชาติสวยๆเก็บเอาไว้ดูภายหลัง เสน่ห์ของภาพถ่ายวิวทิวทัศน์การได้มองเห็นความสวยงามที่เกิดขึ้นจริง แสงธรรมชาติ เสมือนเป็นภาพวาดชิ้นเอกที่เกิดขึ้นเพียงในชั่วพริบตา จึงทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการที่จะเก็บภาพที่อยู่ตรงหน้า เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นได้ออกมาท่องเที่ยว ออกมาสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม  เราจึงอยากให้คนที่รักการถ่ายรูปท่องเที่ยวแนวธรรมชาตินั้นมีภาพที่สวยงาม จึงมีวิธีการถ่ายภาพ landscape ให้ดีมากยิ่งขึ้นมานำเสนอในวันนี้ครับ

5 ทริคที่ช่วยถ่ายภาพ LANDSCAPE ให้สวยขึ้น

1. ถ่ายภาพในชั่วโมง golden hour 

การถ่ายภาพ landscape ที่จะช่วยให้ภาพของเรามีความโดดเด่นและเฉิดฉายนั้น ต้องอาศัยช่วงเวลาที่แสงนั้นตกกระทบได้อย่างสวยงาม ซึ่งจะต้องอาศัยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด คือ ช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน (Golden hour) นั้นเอง แล้วถ้ายิ่งเป็นช่วงหน้าหนาวที่มีหมอกบางๆ ทำให้แสงของดวงอาทิตย์นั้นทำให้ดูซอฟต์ลง แสงก็จะนุ่มนวลมากขึ้น

โทนของสีก็ซอฟต์ลงด้วย การใช้ประโยชน์จากแสงในช่วงเวลานี้นั้นจะคุ้มค่ามากที่สุด เพราะแสงถูกทำให้อ่อนลงโดยธรรมชาติ เป็นภาพที่มองแล้วสบายตาและใ้ห้ความผ่อนคลายมากๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีในการถ่ายภาพที่จะช่วยดึงดูดสายของผู้ชมง่ายมากขึ้นครับ 

2. เรียนรู้ที่จะเลือกใช้อัตราส่วนของภาพ

ทำไมจึงต้องเลือกอัตราส่วนของภาพ  การเลือกขนาดอัตราส่วนของภาพ เป็นการเลือกสรรสิ่งที่เราต้องการนำเสนอให้ผู้ชมนั้นเห็นจุดโฟกัสของภาพได้อย่างชัดเจน โดยอาจจะใช้การครอป สิ่งทีไม่ได้เกี่ยวข้องกับองค์ประกอบของภาพออก หรือ เป็นส่วนที่ไม่น่าดึงดูด เพื่อยังรักษาส่วนที่สำคัญของภาพให้เนื้อเรื่องไม่เสียไปหรือถูกบดบังเพียงเพราะส่วนหนึ่งของภาพนั้นไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่เราต้องการ 

การเลือกอัตราส่วนของภาพนั้นจึงเป็นทางเลือกที่สำคัญในการตัดสิ่งที่ไม่สำคัญออกจากเฟรมและให้การโฟกัสอยู่ที่ส่วนที่สำคัญที่สุดของภาพนั้นเองครับ อย่างเช่น ถ้าหากเราต้องการถ่ายรูปภูเขาที่ซ้อนกันเป็น layer แต่ในเฟรมของเรานั้นมีแสงของอาทิตย์ที่สว่างมากเกินไป จึงทำให้ต้องตัดส่วนของพระอาทิตย์ออก เพื่อให้เห็นแค่แสงที่นุ่มนวลที่ลอดผ่านหมอกเพียงแค่นั้น 

  3.  ไม่จำเป็นที่จะต้องถ่ายภาพท้องฟ้าเสมอไป

ถ้าพูดถึงการถ่ายภาพแนวธรรมชาตินั้น หลายคนคงนึกถึงแค่ท้องฟ้าภูเขาสวยๆ ที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปยังจุดสูงสุดหรือจุดชมวิวต่างๆ ถ้าบางครั้งสีของท้องฟ้าไม่เป็นใจ ก็ไม่ควรให้ปรากฎอยู่ในเฟรม ซึ่งจะทำให้เป็นการลดทอนคุณภาพของภาพถ่ายลง ตัวเลือกที่ดีที่นอกเหนือจากการถ่ายภาพติดท้องฟ้า ภูเขา ซึ่งอาจจะลองหัดถ่ายภาพน้ำตก ต้นไม้ ที่ทำให้เห็นอีกมุมหนึ่งของธรรมชาติที่น่าสนใจ เช่น การถ่ายภาพน้ำตกที่จะต้องใช้ทักษะการถ่ายภาพแบบ  long-exposure  ซึ่งจะทำให้สายน้ำนั้นฟุ้งสวยงาม เป็นอีกแนวทางในการถ่ายภาพธรรมชาติที่น่าสนใจครับ 

4. เลือกจุดโฟกัสของภาพให้เหมาะสม

การเลือกจุดโฟกัสของภาพถ่ายนั้นจะทำให้การโฟกัสของผู้ชมนั้นทำได้ง่าย ใช้ตัวแบบที่มีความโดดเด่นในตัวของมันเอง ที่เราคิดว่าสิ่งนี้จะชูโรงให้ภาพของเรานั้นโดดเด่นและมองเห็นได้ง่าย นอกจากนี้จุดโฟกัสนั้นยังสามารถใช้ตัวแบบรองอื่นๆ เพื่อดึงความสนใจไปยังจุดโฟกัสได้เช่นกัน เช่น แสงและสีของพระอาทิตย์หรือแสงเงาที่สร้างความแปลกตาที่จะสามารถดึงความสนใจไปยังตัวแบบหลักได้เช่นกัน ซึ่งถ้าหากขาดจุดโฟกัสของภาพไปนั้นจะทำให้ภาพไม่ครบองค์ประกอบ

5. ออกแบบเรื่องราวของภาพให้มี  story  ที่น่าสนใจ

ภาพถ่าย landscape เปรียบเหมือนเรื่องเล่าสั้นๆ ที่มีตอนเริ่มและตอนจบ ซึ่งเหมือนกับการถ่ายภาพที่มีทั้งฉากหน้า ฉากกลางและฉากหลัง ซึ่งเราเองต้องจัดองค์ประกอบเหล่านี้ให้ลงตัวและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน  จะมีโอกาสน้อยมากที่ทุกอย่างจะลงตัวโดยบังเอิญ การควบคุมเรื่องราวที่เกิดในภาพให้สัมพันธ์กันนั้น เป็นงานออกแบบที่ทำให้เห็นว่าช่างภาพนั้นใส่ใจรายละเอียดต่อภาพถ่ายชิ้นนี้

หวังว่าการทริคในการพัฒนาการถ่ายภาพแนว landscape นี้จะทำให้เพื่อนๆ มีศักยภาพและแรงบันดาลใจในการออกไปถ่ายภาพมากขึ้นนะครับ

อ่านบทความเพิ่มเติมก่อนเดินทางท่องเที่ยวได้ที่นี่

Exit mobile version