8 เทคนิคการถ่ายภาพเงาสะท้อน เพื่อสร้างมุมมองการถ่ายภาพที่ไม่ซ้ำใคร ภาพเงาสะท้อนคือ การถ่ายภาพวัตถุที่ตั้งอยู่ แล้วสะท้อนลงบนผืนผิวน้ำ หรือพื้นผิวของกระจก การถ่ายภาพแนวนี้ไม่มีข้อจำกัดว่าจะใช้ได้กับภาพ landscape เท่านั้น ยังสามารถถ่ายภาพกับตึกอาคารสวย ๆ ในเมืองที่สะท้อนกับท้องฟ้าได้ หรือแม้การถ่ายภาพบุคคลก็ทำได้เช่นกัน และการถ่ายภาพเงาสะท้อนนั้น จะทำให้เรามองเห็นภาพถ่ายในมุมมองที่แปลกตาและสวยงามไปอีกแบบเลยครับ เราจะมาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพเงาสะท้อนที่ดีเป็นอย่างไร และจะเปลี่ยนมุมมองการถ่ายภาพของเราไปเลย มาลองฝึกไปด้วยกันเลยครับ
8 เทคนิคการถ่ายภาพเงาสะท้อน เพื่อสร้างมุมมองการถ่ายภาพที่ไม่ซ้ำใคร
1. ฝึกสังเกตและมองโลกให้แตกต่าง
ภาพเงาสะท้อนนั้นมีอยู่ทุกที่ ซึ่งเราต้องฝึกทักษะการสังเกตและมองหาสิ่งที่เราสามารถจะถ่ายภาพได้ คนส่วนมากมักจะคิดว่าต้องไปหาแหล่งน้ำที่สามารถมองเห็นเงาสะท้อนได้ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไปนะครับ กว่าจะถ่ายภาพสะท้อนบนผิวน้ำได้ ต้องหามุมกล้องที่เหมาะมาก ๆ ที่จะมองเห็นภาพสะท้อนที่สวยงาม ไม่ว่าจะถ่ายจากมุมสูง มุมต่ำ เพื่อเก็บรายละเอียดของภาพให้ได้มากที่สุดครับ ในชณะเดียวกันที่เรากำลังหามุมกล้องที่ดีที่สุดนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่อยากให้เสริมเข้าไปคือการใช้กฎสามส่วนเพื่อจัดองค์ประกอบของภาพ และการแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านรูปภาพของเรา ที่เราค้นพบมุมมองใหม่ด้วยตัวเอง
2. รู้จักสถานที่ วางแผนการเดินทางและมุมถ่ายภาพก่อน
การออกไปถ่ายภาพในสถานที่กลางแจ้งนั้น เปรียบเหมือนการคว้าเอาสิ่งที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว ซึ่งจังหวะเวลาและสถานที่นั้นสำคัญมากในการถ่ายภาพกลางแจ้ง ดังนั้งศึกษาสภาพอากาศ เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการถ่ายภาพ มุมสวยก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของแสงด้วยเช่นกัน การจัดมุมกล้องหน้างานนั้นอาจจะใช้เวลานาน เพราะแต่ละสถานที่มีความสะดวกไม่เหมือนกัน ยิ่งเป็นที่ตามธรรมชาติแล้วละก็ควรจะต้องเผื่อเวลาในการเซ็ตขากล้อง หามุมที่เราต้องการถ่าย เพื่อเป็นการไม่ให้เสียเวลา เราควรทำการบ้าน ศึกษาเส้นทางหรือตามอ่านรีวิวของผู้ที่มีประสบการณ์มาแล้ว และควรเผื่อเวลาในการเดินทางด้วยครับ
3. แสงเป็นปัจจัยหลักของภาพสวย
แสงเป็นปัจจัยหลักในการสร้างชีวิตชีวาให้กับภาพ ทั้งยังสร้างมิดีแสงเงาให้กับภาพด้วย การภาพเงาสะท้อนที่แสงตกกระทบลงบนผิวน้ำหรือผิววัตถุในเวลาที่ไม่เหมาะสม แสงจะสว่างจ้ามากเกินไป ควรเลือกช่วงเวลาที่แสงไม่แรง หรือไม่จัดมาก อย่างในช่วงเวลา Golden hour ในยามเช้าและก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ทั้งสีสันของแสงที่ได้ ช่วยสร้างอารมณ์ให้กับภาพได้อีกด้วยครับ หรือถ้าอยากให้เห็นสีสันที่สวยงาม ก็เลือกถ่ายตอนกลางคืน ก็จะให้แสงสีที่ดูสดใสแปลกตาไม่เหมือนในช่วงกลางวันครับ
–
4. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
เลือกใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับภาพที่ถ่ายนั้น เราต้องรู้ก่อนว่าเราจะออกไปถ่ายภาพแบบไหน เพื่อะได้เลือกอุปกรณ์ในการถ่ายภาพได้ถูกต้อง เช่น การถ่ายภาพเงาสะท้อนต้องใช้เลนส์ระยะไหน และมีอุปกรณ์เสริมที่จะต้องใช้ในการถ่ายภาพบ้าง
5. ทางยาวโฟกัสและรูรับแสงสร้างมิติเชิงลึกให้กับภาพ
ทางยาวโฟกัสที่แตกต่างกัน ทำให้ได้ภาพเงาสะท้อนที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเราถ่ายภาพจากเลนส์ไวด์ด้วยทางยาวโฟกัสที่สั้นนั้น จะทำให้ได้ภาพมุมกว้างจะเห็นทั้งภาพวัตถุที่สะท้อนเงา แต่ถ้าใช้ทางยาวโฟกัสที่ยาวเพิ่มขึ้นมาจากการถ่ายด้วยเลนส์เทเลโฟโต้นั้นจะโฟกัสที่ภาพเงาสะท้อนได้ดีกว่า
รูรับแสงที่กว้างจะให้ระยะชัดลึกที่แคบลงมา ทำให้พื้นหลังเบลอหรือที่เรียกว่าโบเก้ แต่ถ้าเราต้องการถ่ายภาพเงาสะท้อนควรใช้รูรับแสงที่แคบลงจะทำให้เห็นภาพตัวแบบและเงาที่สะท้อน
6. ปรับความเร็วชัตเตอร์ให้เหมาะสมเพื่อสร้างภาพสะท้อนในแบบที่ต้องการ
การปรับระดับความเร็วชัตเตอร์ขึ้นอยู่กับปริมาณแสงที่เราต้องการให้วิ่งผ่านเข้ามายังเซนเซอร์ ความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วจะหยุดการเคลื่อนไหวของวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่สำหรับภาพเงาสะท้อนที่พื้นผิวไม่ได้หยุดนิ่ง ส่วนความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงนั้นจะใช้กับตัวแบบที่หยุดนิ่ง และควรมีขาตั้งกล้องติดไปด้วย โดยเฉพาะการถ่ายภาพในช่วงเวลากลางคืน จึงเหมาะกับการถ่ายภาพเงาสะท้อนมากกว่าความเร็วชัตเตอร์ที่สูงครับ
7. ใช้ฟิลเตอร์ช่วยลดการสะท้อนจะได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น
โดยการใช้ฟิลเตอร์ทั้งแบบ circular polarizers หรือ ND filter นั้นจะช่วยลดปริมาณของแสงลง เพื่อเพิ่มโอกาสในการถ่ายภาพและเก็บรายละเอียดได้มากขึ้น โดยตัว circular polarizers จะช่วยลดแสงสะท้อน ส่วน ND filter ทำหน้าที่เหมือนแว่นกันแดดให้กล้องจึงทำให้สามารถสู้กับแสงแดดแรงได้
8. สร้างสรรค์ไอเดียที่แปลกใหม่ด้วยการคิดนอกกรอบ
ภาพของตัวแบบที่สมมาตรและสะท้อนบนผิวน้ำได้อย่างสวยงามเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม การคิดนอกกรอบ ทำให้เห็นถึงความเป็นจริงของภาพที่อยู่ตรงหน้าว่าบางครั้งเราควบคุมปัจจัยบางอย่างไม่ได้ โดยอาจจะปล่อยให้มีใบไม้ลอยผ่านหรือ อาจจะสร้างแรงกระเพื่อมโดยการโยนหินลงบนผิวน้ำเพื่อสร้างพื้นผิวและการตกกระทบที่แปลกใหม่ ก็ช่วยสร้างมุมมองที่แตกต่าง และเอกลักษณ์ให้กับภาพของเราได้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพได้ที่นี่เลย
- 9 ไอเดียถ่ายภาพ SELF-PORTRAIT อย่างมีสไตล์
- 5 ทริคที่ช่วยถ่ายภาพ LANDSCAPE ให้สวยขึ้น
- 5 วิธีการถ่ายภาพหุ่นนิ่งแบบมืออาชีพ
- 7 เทคนิคการถ่ายภาพท่องเที่ยวเพื่อให้ภาพสื่อสารเรื่องราวและถ่ายทอดอารมณ์ได้ดีขึ้น
- 6 วิธีการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนที่จะทำให้หน้าฟีดของคุณเปลี่ยนไป