Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

เปรียบเทียบระหว่าง NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B จะเลือกไฟรุ่นไหนมาใช้งานดี?

เปรียบเทียบระหว่าง NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B จะเลือกไฟรุ่นไหนมาใช้งานดี? ความคล้ายคลึงหลัก ๆ ของ 2 ซีรีย์ คือเป็นไฟที่ให้กำลังไฟสูง ต่อเข้าใช้งานกับ Light Modifier หลายแบบด้วย Bowens Mount และมีเอฟเฟกต์ให้ใช้ในตัว ความแตกต่างของไลน์การผลิต FS จะมุ่งเน้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำงานหลักในสตูดิโอ จึงมีลักษณะการเชื่อมต่อที่ใช้ไฟบ้านเป็นหลัก และไม่มีกระเป๋าถือสำหรับรุ่นนี้

ส่วนไฟในซีรีย์ FZ จะตอบสนองการใช้งานของกลุ่ม Creator ที่ต้องใช้งานไฟนอกสตูดิโอ นอกสถานที่จึงมีส่วนที่สามารถต่อเพิ่มแบตเตอรี่เพื่อใช้งานทั้งไฟบ้านและแบตเตอรี่ได้ และมีกระเป๋าที่แยกส่วนจัดระเบียบ เพื่อการขนส่งเคลื่อนย้ายในการใช้งานได้สะดวกขึ้น และที่สำคัญชิปในการทำงานของไฟทั้ง 2 ซีรียส์ทำงานต่างกัน โดยในไลน์การผลิต FZ จะมีชิปที่ช่วยให้ความเข้มของแสงสว่างมากกว่าในรุ่นของ FS ดังนั้นไฟทุกรุ่นของ FZ จะสว่างกว่า ส่วนทางด้านราคา FZ ก็จะแพงกว่า FS ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการเลือกซื้อ  NANLITE FS300B vs NANLITE FZ300B จึงต้องคำนึงถึงลักษณะงานที่ต้องใช้ไฟด้วย    

เปรียบเทียบระหว่าง NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B จะเลือกไฟรุ่นไหนมาใช้งานดี? 

ความเข้มแสงและการปรับความสว่าง

NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B เป็นไฟสปอตไลท์ที่ให้ความสว่างสูงเพื่อเพิ่มความสว่างให้กับตัวแบบ ทำให้เห็นรายละเอียดที่มากขึ้น โดยไฟ NANLITE FS300B ที่อุณหภูมิสี 5600K และใช้งานกับ reflector ให้ความสว่างสูงสุดถึง 38720 ลักซ์ที่ระยะจากตัวแบบ 1 เมตร เมื่อเทียบกับ NANLITE Forza 300B  ในเงื่อนไขการทดสอบเดียวกันพบว่า NANLITE FS300B ให้ความสว่างได้สูงถึง 39180 ลักซ์ โดยทั้งสองรุ่นสามารถปรับความสว่างได้แบบ Dimming ตั้งแต่ 0-100% ซึ่งจากการออกแบบ และการสร้างไฟในซีรียส์ FS และ FZ จะเห็นได้ว่ามีชิปเซ็ตควบคุมพิเศษที่ทำให้ความสามารรถในการให้แสงสว่างในรุ่น FZ สูงกว่ารุ่น FS 

สรุป NANLITE FS300Bให้ความสว่างสูงสุด ได้น้อยกว่า NANLITE FZ300B

ความสามารถในการปรับเปลี่ยนสีสันของแสงเพื่อการปรับมู้ดและโทนในงานนิ่ง วิดีโอ และภาพยนตร์ 

NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B เป็นไฟสปอตไลท์สองสี ที่สามารถปรับสีของแสงแบบ CCT คือการปรับสีตามอุณหภูมิสีได้ตั้งแต่ 2700K-6500K ซึ่งให้สีได้ตั้งแต่สีโทนร้อนส้มเหลือง ไปจนถึงโทนเย็นสีขาวฟ้า เพื่อใช้ในการเลียนแบบสีสันในธรรมชาติ และการปรับโทนของภาพ การเปลี่ยนบรรยากาศ ไปตามสีสันของแสงไฟเพื่องานถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ โดยสามารถช่วยให้ Creator ทำงานได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องการใช้เจล หรือฟิลเตอร์เพื่อปรับโทนสีของแสง

สรุป NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B ปรับสีได้ตั้งแต่ 2700K-6500K

ความสามารถในการพกพา ความสะดวกในการเคลื่อนย้าย

NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B สามารถที่จะพกพาใช้งานนอกสถานที่ได้ทั้งคู่ เนื่องจากวัสดุทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระในการขนย้ายและการพกพาเคลื่อนที่ โดยน้ำหนักของ NANLITE FS300B มีน้ำหนัก 3.03 กิโลกรัม ส่วน NANLITE FZ300B มีน้้ำหนักเพียง 2.7 กิโลกรัม และพิเศษสำหรับซีรีส์ Forza จะมีกระเป๋าหิ้ว เพื่อให้เคลื่อนย้าย และเปลี่ยนสถานที่ทำงานได้ง่าย

สรุป NANLITE FS300B มีน้ำหนักมากกว่า NANLITE FZ300B ประมาณ 300 กรัม

ความแม่นยำในการเทียบเคียงสีในธรรมชาติ

ความแม่นยำของสีเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่สำคัญของไฟที่ใช้ในงานสตูดิโอ โดยสีผิว หรือสีของวัตถุที่ไฟส่องกระทบ จะให้สีที่ใกล้เคียงกับสีที่ได้ในธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งจะวัดจากค่า 

CRI และ TLCI โดยค่าที่เข้าใกล้ 100 จะเป็นค่าที่บอกว่าสีใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด โดย NANLITE FS300B มีค่าความแม่นยำสี CRI/TLCI 96/97 ส่วน NANLITE FZ300B CRI/TLCI 96/98 ซึ่งก็หมายความว่าไม่ว่าจะเป็นไฟตัวไหนก็ถ่ายภาพได้อย่างมั่นใจว่าจะอ้างอิงสีได้อย่างแม่นยำ

สรุป NANLITE FS300B มีค่าความแม่นยำสีสูง และมีค่า TLCI น้อยกว่า NANLITE FZ300B เพียง 1 ค่า

ความสามารถในการใช้งานต่อเข้าใช้งานกับอุปกรณ์เสริมไฟ และ Light Modifier 

NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B เป็นไฟที่มีเม้าท์แบบ Bowens จึงสามารถต่อใช้งานกับ Light Modifier หลายแบบเพื่อการปรับรูปแบบแสง และความนุ่มของแสงได้อย่างที่ต้องการ ทั้งนี้ไฟทั้งสองรุ่น จึงสามารถต่อเข้าใช้งานกับ Light modifier ที่ใช้อยู่ได้รวมถึงสามารถยึดเข้ากับขาตั้งไฟได้อย่างมั่นคง ด้วยเม้าท์ 5/8″ ทั้งยังปรับทิศทางแสงได้อย่างที่ต้องการ

สรุป NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B ต่อเข้าใช้งานได้กับ Light modifier ที่หลากหลายแบบ 

เอฟเฟกต์แสงแบบต่าง ๆ ที่มีมาให้ในตัว 

สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับไฟที่ใช้งานในสตูดิโอในปัจจุบัน คือความสามารถในการสร้างเอฟเฟกต์แสงเนื่องจากเอฟเฟกต์ที่ใช้จะกระตุ้นความน่าสนใจ ความสมจริง และความตื่นเต้น ทั้งกับงานภาพนิ่ง งานวิดีโอ และงานภาพยนตร์ โดย NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B มีเอฟเฟกต์เพื่อให้ Creator และ Filmmaker ใช้งานได้ถึง 12 แบบ 

สรุป NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B มีเอฟเฟกต์ให้เลือกใช้ 12 แบบ

ควบคุมการทำงานสะดวก เข้าใจง่าย และการควบคุมไร้สาย Satellite Control 

NANLITE FS300B และ NANLITE FZ300B เลือกการควบคุมได้ ทั้งจากการควบคุมการทำงานผ่านปุ่มควบคุมโดยตรงที่แผงควบคุมและการควบคุมแบบไร้สายผ่าน 2.4G, Bluetooth และ NANLINK APP ที่ควบคุมได้ผ่านมือถือ อย่างไรก็ตาม NANLITE FS300B ยังขาดความสามารถในการควบคุมแบบ DMX Control ที่มีในรุ่น FORZA 300B ดังนั้น Filmmaker จึงน่าจะถูกใจ FORZA 300B มากกว่า

สรุป NANLITE FS300B ควบคุมง่ายทั้งโดยตรงและไร้สาย แต่ยังขาดการควบคุมแบบ DMX Control ที่มีใน NANLITE FZ300B

พลังงานและการใช้งานแบตเตอรี่

NANLITE FS300B เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องกาทำงานในสตูดิโอ และลดการออกทำงานนอกสถานที่ โดยสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องด้วยการต่อพลังงานจากไฟบ้านผ่าน AC adapter แต่ NANLITE FZ300B เพิ่มคุณสมบัติที่สามารถต่อเข้าใช้งานแบตเตอรี่ 14.8V V-Mount batteries (จำหน่ายแยก) เพื่อที่จะใช้งานไฟได้ทุกที่ แม้ไม่มีแหล่งพลังงานจากไฟฟ้าก็ตาม 

สรุป NANLITE FS300B ต่อใช้พลังงานจากไฟบ้าน ส่วน NANLITE FZ300B ใช้พลังงานได้ทั้งจากไฟบ้านและแบตเตอรี่

นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย COB สามารถที่จะเป็นเจ้าของได้ที่ร้านกล้องและร้านแกดเจ็ดชั้นนำทั่วประเทศ

Exit mobile version