
EP.1 : Beginner So Easy มือใหม่แค่ไหนก็ถ่าย Videography ได้
พื้นฐานสำหรับคนที่เริ่มต้นจะถ่ายทำคอนเทนต์แบบวิดีโอ หรือการถ่าย Video ลง Channel ที่เรามีเพื่อให้เนื้อหาความรู้ที่เรามี ได้ให้คนอื่น ๆ ที่สนใจได้เห็นและติดตามมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันก็จะมีการถ่าย Vlog และการทำ Videography แบบจริงจังเลย ซึ่งจุดเริ่มต้นนั้นจะเรียกว่ายาก ก็ไม่ได้ยากอะไรมากครับ แต่จะว่าง่ายก็อย่างน้อยก็ควรจะมีความรู้และความเข้าใจก่อนที่จะเริ่มต้น เพื่อให้มือใหม่สามารถเริ่มต้นได้ง่ายและถูกต้อง ในวันนี้เรามาเรียนรู้เรื่องของพื้นฐานการถ่าย Video และการทำ Content ประเภท Video กันครับ ซึ่งเราจะมาเริ่มต้นแบบภาษามือใหม่กันเลยว่ามือใหม่นั้นควรจะรู้เรื่องอะไรบ้าง และทำยังไงเราถึงจะถ่ายวิดีโอแบบจริงจังได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย
มีวิดีโอสอนดูได้จากที่นี่เลย
การทำคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ คืออะไร ทำไมตอนนี้หลายคนถึงนิยมทำ Content แบบ Vlog และ Videography
เอาเรื่องของการ Vlog ก่อน ตั้งต้นเลยสิ่งนี้คือการถ่าย Video แบบ Log บันทึกไว้ในแต่ละวันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เราน่าจะเคยเห็นในภาพยนตร์กัน ซึ่งในหนังเขาจะตั้งกล้องถ่ายไว้ว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง หรือทำงานแล้วได้พบเจออะไรใหม่ เขาก็จะบันทึก Log ไว้เป็นแบบ Video กัน

แต่ด้วยที่ปัจจุบันด้านสื่ออย่าง YouTube และ Facebook เข้ามาสนับสนุนการทำวิดีโอมากขึ้น ทำให้ความนิยมการถ่ายวิดีโอแบบ Vlog มีการปรับตัวให้เข้ากับสื่อในปัจจุบันมากขึ้น จากเดิมแค่ถ่ายวิดีโอแบบ Vlog แต่ละวัน ก็มีการนำความรู้เรื่องการผลิตคอนเทนต์ให้น่าสนใจมาพัฒนางานในด้าน Video ซึ่งจะเป็นมากกว่าการ Vlog แล้ว หรือบางคนก็จะเรียก Videography ก็ได้ ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นการทำ Music Video ของตัวเอง หรือการถ่าย Cinematography ก็ถูกพัฒนาจากการถ่ายวิดีโอพื้นฐานจนกลายเป็นการผลิตคอนเทนต์ที่สเกลใหญ่ขึ้นด้วย ถึงกับมีคนทำเป็นอาชีพจริงจังกันแบบในปัจจุบัน แล้วรายได้ก็เยอะมากตามไปอีกต่างหาก

เหตุผลที่การถ่าย Videography นิยมนำมาใช้ทำคอนเทนต์ในปัจจุบัน
การทำคอนเทนต์ประเภท Videography และ Vlog ทำให้เราสามารถเปิดโลกของตัวเองให้คนอื่นได้รู้จักมากขึ้น มียอดการติดตามก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำโอกาสให้เรากับเราได้มากมาย ทั้งรายได้ และก็การเป็นที่รู้จักของแบรนด์ต่าง ๆ รวมไปถึงการทำงานเป็นอาชีพด้วย ซึ่งการผลิตคอนเทนต์ประเภทวิดีโอเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดี ๆ อีกมากที่จะเข้ามาในชีวิตเรา ทำให้เด็กหลายคนในปัจจุบันอยากจะเป็น YouTuber กันมาก ก็ด้วยเหตุผลเหล่านี้ครับ

การทำคอนเทนต์เก่งช่วยสร้างโอกาสอะไรให้กับเราได้บ้าง
ถ้าจะเจาะลึกเรื่องของโอกาสว่าการทำคอนเทนต์ช่วยให้โอกาสอะไรกับเราได้บ้าง พื้นฐานก็สามารถที่จะพัฒนาทักษะในด้านการทำคอนเทนต์ การทำสื่อวิดีโอ การถ่ายวิดีโอ และการวางแผนการทำงานด้าน Content Creator เป็นหลัก

แต่ก็ไม่ได้หมดแค่นั้น การถ่ายวิดีโอก็เปิดโอกาสให้แบรนด์ได้รู้จักเราและถ้าเรามี Content ที่น่าสนใจมากพอ มีผู้ติดตามที่มีคุณภาพและมากเพียงพอด้วย ก็เป็นที่ต้องการของแบรนด์ต่าง ๆ ที่เขาอยากจะทำการตลาดโดยสื่อสารผ่าน Influencer ซึ่งแน่นอน เราก็มีโอกาสที่จะได้ทำงานใหม่ ๆ และงานกลุ่มนี้รายได้ก็ไม่น้อย ยิ่งเราได้รับความนิยมเยอะ คอนเทนต์มีคุณภาพ ความก้าวหน้าด้านอาชีพในสายนี้ก็เปิดรออยู่เยอะเลย
เราจะเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์แบบ Video ได้ยังไงบ้าง?
เริ่มต้นเราต้องโฟกัสที่ตัวเองก่อนว่า เราสนใจเรื่องอะไร และถนัดที่นำเสนอเรื่องอะไร ยกตัวอย่างผมเองที่ทำ PhotoschoolThailand ผมรักและชอบที่จะนำเสนอเรื่องการถ่ายภาพเพื่อให้คนอื่นได้สนุกกับการถ่ายภาพแบบเรา ก็เลยทำคอนเทนต์สอนเป็นตอนสั้น ๆ ขึ้นมา เพื่อให้คนอื่นสามารถทำตามได้ และสนุกกับการถ่ายภาพอย่างที่เราตั้งใจไว้

เนื้อหาทุกอย่างเกิดขึ้นจากความชอบของเราเอง เราสามารถที่จะถ่ายด้วยอุปกรณ์ง่าย ๆ ด้วยตัวคนเดียว อย่างกล้อง Sony ZV-1, Sony A6400 และ Sony A7C ที่เป็นกล้องสำหรับคนที่เน้นทำงานคนเดียว และมือใหม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้มาโดยตลอด

เพราะงั้นสรุปในประเด็นนี้คือต้องโฟกัสในสิ่งที่เราอยากจะนำเสนอ และถ่ายทอดออกมาเป็นวิดีโอที่เข้าใจได้ง่าย และเราก็ควรจะมีอุปกรณ์ที่ช่วยให้เราผลิตเนื้อหาออกมาได้ง่ายด้วยเหมือนกัน
วางแผนการผลิตคอนเทนต์
ขั้นตอนต่อมาคือการวางแผนการผลิต เราควรจะมีขั้นตอนที่ชัดเจนเลยว่า เราจะพูดเรื่องอะไร มีลำดับเนื้อหาแบบไหน และใช้มุมกล้องอะไร เพื่อที่เราจะได้กำหนดถูกว่าเราจะต้องใช้อุปกรณ์แบบไหน ทำงานยังไง สถานที่ไหน ซึ่งถ้าใครยังคิดไม่ออกผมก็จะมีไอเดียคร่าว ๆ ให้ดังนี้ครับ
1. ตั้งชื่อเนื้อหาและสคริปท์เนื้อหา ว่าเราจะพูดเรื่องอะไร ทำเป็นบทความไว้
2. วางแผนการถ่ายทำ สถานที่ อาจจะเป็นที่บ้านก็ได้ และมุมที่เราต้องการจะใช้
3. วางแผนเรื่องอุปกรณ์ที่จะใช้ถ่าย เช่น กล้อง Sony ZV-1, Sony A6400, Sony A7C รวมถึงอุปกรณ์บันทึกเสียง
4. ถ่ายทำตามแผนที่วางเอาไว้
5. ตัดต่อตามสคริปท์ที่เราได้วางไว้
โดยหลักกระบวนการทำงานก็จะได้ประมาณนี้ เราก็สามารถที่จะผลิตคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้นแล้ว
อุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการถ่าย Videography มีอะไรบ้าง เรื่องนี้แหละที่มือใหม่ต้องรู้
ต่อมาสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเรื่องของอุปกรณ์ในการทำคอนเทนต์ ซึ่งในเนื้อหานี้ผมจะเจาะลึกเรื่องการทำวิดีโอแบบมีคุณภาพและเราสามารถทำได้คนเดียว โดยที่อยู่ในงบที่เหมาะกับคนเริ่มต้น และคนที่อยากจะจริงจังในระดับที่พอเหมาะ ไม่จ่ายสูงจนเกินไป ซึ่งสิ่งที่ต้องมีคือ ตัวกล้อง, ไมโครโฟนแยก, ขาตั้งกล้อง หรือถ้าใครมีงบสูงกว่านี้ก็อาจจะใช้ไฟสตูดิโอ หรือถ้าไม่มีงบขนาดนั้นเราก็สามารถใช้แสงธรรมชาติได้ครับ

1. คนเริ่มต้นจริง ๆ งบไม่เกิน 30,000 บาท
ใช้กล้อง Sony ZV-1 (ราคา 23,990 บาท) เป็นกล้องสำหรับคนเริ่มต้นที่ถ่ายได้ง่าย มีหน้าจอ Flip สำหรับถ่ายตัวเราเองได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ถ่ายวิดีโอได้ 4K และมีระบบ Focus ติดตามใบหน้า ดวงตา และมีฟีเจอร์ Product Show Case ซึ่งทำให้ระบบโฟกัสสามารถที่จะโฟกัสตัวสินค้าได้แม่นยำที่สุด เวลาที่เราถ่ายวิดีโอประเภทรีวิว โหมดนี้คือใช้ดีที่สุดสำหรับมือใหม่ และยังมีแค่กล้อง Sony ZV-1 สามารถทำได้รุ่นเดียว
นอกจากนี้ Sony ZV-1 นั้นยังสามารถที่จะใช้เป็นกล้อง Live โดยที่ไม่ต้องผ่าน Capture Card ด้วย โดยการใช้แค่ความสามารถ Plug & Stream ก็สามารถที่จะเปิดกล้องเพื่อทำการ Live ได้ทันที

เรียกได้ว่ากล้องรุ่นนี้จะให้ความคุ้มค่ามากสำหรับคนที่งบจำกัด ส่วนในงบที่เหลือ เราอาจจะแบ่งงบไปลงที่ไมโครโฟนเพิ่มก็ได้ เพื่อใช้ไมโครโฟนที่มีคุณภาพสูงขึ้น หรืออาจจะลงทุนกับขาตั้งดี ๆ สักตัว ก็พร้อมที่จะถ่ายวิดีโอได้แล้ว
2. คนเริ่มต้นที่อยากได้กล้องที่คุณภาพสูงขึ้นมาหน่อย งบ 35,000 – 45,000 บาท
ใช้กล้อง Sony A6400+16-50mm (33,990 บาท) สำหรับคนที่งบสูงขึ้นมาอีกหน่อย ซึ่งจะทำให้เราสามารถ ได้กล้องที่มีเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้นเป็น APS-C มีระบบโฟกัสใบหน้าและดวงตา ตัวกล้องสามารถที่จะเปลี่ยนเลนส์ได้ ทำให้เราสามารถที่จะเลือกมุมมองได้อิสระมากขึ้น โดยเฉพาะการต่อยอดเลนส์ที่เน้นละลายฉากหลังสวย ๆ ก็สามารถทำได้เหมือนกัน ยิ่งเป็นเซ็นเซอร์แบบ APS-C แล้วการละลายก็สวยขึ้นมากกว่าเดิม ถ่ายในที่แสงน้อยก็ดีกว่ามากด้วย

นอกจากนี้เรื่องของคุณภาพไฟล์วิดีโอก็สามารถถ่ายวิดีโอในระดับ 4K ได้ ให้ภาพคมชัดแน่นอน ส่วนงบที่เหลือก็ลองดูว่าจะเพิ่มไมโครโฟนและอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ อย่างขาตั้งและชุดไฟอีกก็ไม่เกินงบนี้แน่นอน
3. คนเริ่มต้นที่อยากจะจริงจังแบบมืออาชีพ อยากได้กล้องในระดับโปรที่ทำงานได้ง่ายเหมือนมือใหม่ งบไม่เกิน 75,000 บาท
กรณีสำหรับคนที่อยากใช้กล้องระดับ Professional แล้วงบเยอะหน่อย แล้วอยากจริงจังก็มีกล้อง Sony A7C+28-60mm ราคา 72,990 บาท เป็นกล้องที่อยู่ในระดับมืออาชีพเลย เซ็นเซอร์แบบ Full Frame ทำให้เราได้มิติภาพที่สวยงาม และกล้องตัวนี้สามารถทำงานได้ยาว ๆ บอดี้ออกแบบมาให้มือใหม่สามารถใช้งานได้ง่าย
จุดเด่นกล้องตัวนี้คือด้วยมิติที่เป็น Full Frame ทำให้ภาพดูสวยงาม โบเก้ก็สวย รายละเอียดวิดีโอทำได้ดีมาก ๆ เหมาะกับคนที่อยากได้กล้องแบบจริงจังมาใช้งาน แต่ก็แลกด้วยกับงบเริ่มต้นสูงหน่อยสำหรับมือใหม่ (แต่เป็นกล้องมืออาชีพที่ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดแล้ว)

นอกจากนี้ตัวเลนส์ในระยะนี้ที่ได้คือ 28mm ไปจนถึง 60mm ซึ่งจะทำให้เราสามารถที่จะได้มุมมองภาพทั้งมุมกว้างและมุมแคบตามที่เราต้องการ เรื่องของคุณภาพไฟล์ก็ยังทำได้ดีมาก ๆ เพราะตัวเซ็นเซอร์กล้องแบบ Full Frame นั้น มีขนาดใหญ่ จึงให้รายละเอียดภาพที่สูง และมีความคมชัด

ส่วนงบที่เหลือเราจะเพิ่มไมโครโฟนหรือขาตั้งก็สามารถเพิ่มได้ตามสะดวกครับ
เลือกใช้อุปกรณ์ให้ถูกต้อง และง่ายต่อการผลิตคอนเทนต์ของเรา
แนะนำว่าสำหรับคนที่เป็นมือใหม่ ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่เหมาะกับการทำงานของเราจริง ๆ นะ แม้ว่ากล้องในราคาสูงจะได้คุณภาพที่เหนือกว่า แต่ถ้าเรายังไม่ถนัดใช้ หรืองบยังไม่ถึง ก็ควรเลือกกล้องที่อยู่ในขอบเขตที่เราไหว และทำงานได้ง่าย จะช่วยให้เราลงทุนไม่สูง และยังสนุกกับการทำคอนเทนต์ด้วยครับ
ทริคการ Setup อุปกรณ์ ให้สามารถทำงานได้ง่ายด้วยตัวคนเดียว และสามารถที่จะถ่าย Video ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ควรเลือกกล้องที่มีขนาดเล็ก และมีพอร์ตไมโครโฟนแยกจากภายนอก รวมถึงพอร์ตหูฟังสำหรับ Monitor เสียงด้วยยิ่งดี จากนั้นเลือกใช้เลนส์ที่มีน้ำหนักเบา ขนาดเล็ก เพื่อให้เราสามารถที่จะ Setup กล้องแบบชุดเดียวใส่กระเป๋าได้เลยครับ

สิ่งสำคัญมาก ๆ คือหน้าจอแบบปรับถ่าย Selfie ได้ อันนี้ต้องมีเพื่อให้เราสามารถที่จะถ่ายวิดีโอตัวเองได้ในกรณีที่ทำงานคนเดียว เราสามารถที่จะเห็นมุมมองได้อย่างชัดเจน และจัดองค์ประกอบได้สวยงาม