ซื้อกล้อง Mirrorless รุ่นไหนดี คู่มือเลือกซื้อกล้องปี 2019 และสิ่งที่ต้องรู้ก่อนซื้อ
คู่มือเลือกซื้อกล้องปี 2019 อัพเดตเทรนด์รุ่นกล้องล่าสุด เรียงตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก ยกมาหมดทั้ง Canon, Nikon, Fujifilm, Sony, Olympus และ Panasonic
คู่มือเลือกซื้อกล้องปี 2019 อัพเดตเทรนด์รุ่นกล้องล่าสุด เรียงตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก ยกมาหมดทั้ง Canon, Nikon, Fujifilm, Olympus และ Panasonic แล้วก็เช่นเคยเราแบ่ง Segment ของกล้องให้ตรงกับโจทย์ของคนที่ใช้งานมากที่สุด สเปคที่ดีและการใช้งานที่ตอบโจทย์น่าจะเป็นสิ่งที่ให้คำตอบสำหรับทุกคนได้ว่ากล้อง Mirrorless ปี 2019 ควรจะมีอะไรให้เราบ้างนอกจากเรื่องของประสิทธิภาพและความสามารถของกล้องเพียงอย่างเดียว เดี๋ยวเราไปดูกันว่ากล้อง Mirrorless ในปี 2019 นี้เริ่มต้นเราจะต้องรู้เรื่องไหนก่อน และควรรู้ว่ากล้องตัวไหนเด่นเรื่องอะไร

1. เข้าใจโจทย์การใช้งาน สไตล์การใช้งานของเราก่อนเสมอ ไม่งั้นจะกำหนดงบ และเลือกกล้องที่ชอบไม่ได้
ในช่วงที่ผ่านมาหลายคนเลือกกล้องโดยที่มองตามประสิทธิภาพเป็นหลักซึ่งนั่นก็ดีครับ แต่จะดีกว่าถ้าหากว่าเราได้กล้องตรงตามสไตล์ของเรา เราควรแบ่งแยกให้ชัดเจนว่า กล้อง Mirrorless ที่เราต้องการนั้นจะต้องตอบโจทย์อะไรได้บ้าง มีตั้งแต่งบประมาณ งานภาพนิ่งที่ใช้จะเป็นลักษณะไหน ต้องการงานวีดีโอไหม ต้องการช่องเสียบไมค์โครโฟนแยกไหม น้ำหนักรับได้เท่าไหร่ และใช้งานเป็นหลักยังไงบ้าง พวกนี้ควรนำมาเป็นปัจจัยในการคิดด้วยครับ ซึ่งในบทความคู่มือกล้องมิลเรอร์เลส ปี 2019 ตัวนี้ ผมได้ใส่รายละเอียดแล้วแหละว่าควรดูอะไรบ้าง

2. ศึกษาข้อมูลกล้องรุ่นนั้น ๆ โดยละเอียดให้พร้อม รวมถึงความต้องการของตัวเอง เพื่อไม่ให้ลังเลเวลาถูกเชียร์ขายกล้องรุ่นอื่น
โดยปกติแล้วกล้องยุคนี้ความสามารถจะให้มาจัดเต็มและสูง ๆ ทั้งนั้นแม้ว่าจะเป็นกล้องระดับเริ่มต้นเองก็ตาม สิ่งสำคัญคือความเข้าใจว่ากล้องตัวที่เราจะซื้อนั้นควรจะเหมาะกับเราจริง ๆ เพื่อที่จะไม่เสียใจว่าซื้อกล้องตัวนี้แล้วไม่โอเค ไม่ถูกใจ ประมาณนั้น

ซึ่งส่วนใหญ่แล้วระหว่างที่เราไม่แน่ใจหรือลังเลนั่นแหละ ทำให้เราอาจจะถูกแนะนำการขายจากกล้องตัวเดิมเป็นกล้องรุ่นอื่นที่ถูกเชียร์ขายแทน ซึ่งมีให้เห็นเยอะครับ ดังนั้นเราควรเข้าใจรายละเอียดตัวกล้องที่เราต้องการให้ครบตามสิ่งที่เราอยากจะใช้ แล้วค่อยตัดสินใจไปดูตัวจริงที่ร้าน ถ้าถูกแนะนำกล้อง Mirrorless รุ่นอื่นมา ให้สอบถามอย่างแน่ใจก่อนว่ามันตอบโจทย์มากกว่ากล้องที่เราหาข้อมูลมาจริง ๆ ค่อยเลือกตัวเลือกใหม่ครับ ถ้าหากว่ายังไม่โอเค ก็ให้ยึดรุ่นกล้องตามความต้องการเดิมไว้
3. การรับประกันและการบริการหลังการขาย เก็บรายละเอียดมาให้พร้อม เสียซ่อมที่ไหน คุ้มครองเรื่องอะไรบ้าง ประกันซื้อเพิ่มได้ไหม
ทำไมต้องมีการสอบถามการรับประกัน และประกันหลังการขายมาด้วย ถ้าจะว่ากันตรง ๆ คือการประกันจากทางศูนย์ครอบคลุมแค่บางรายการ เช่น ความเสียหายที่เกิดจากการผลิต หรือการเสื่อมที่เร็วกว่ามาตรฐานบางอย่าง เราสามารถเคลมได้ครับ แต่การประกันเพิ่มเติมที่ผมว่าคือพวกประกันเครื่องตก เครื่องโดนน้ำ เครื่องหาย(โดนขโมย) ซื้อเพิ่มได้ไหม หรือถ้าเสียกรณีตกหล่น เลนส์แตก แล้วซ่อมที่ไหน ประมาณเท่าไหร่ เครื่องประกันศูนย์มี Offer พิเศษกว่าประกันร้านไหม? ระหว่างซ่อมมีเครื่องสำรองให้หรือเปล่า สิ่งพวกนี้สำคัญมากใน กล้องปี 2019 เพราะการบริการเป็นเรื่องสำคัญ ควรถามเขาไว้ด้วยครับ

4. ขนาดและน้ำหนักในการพกพาเข้ากับเราไหม ถ้ากล้องดีแต่หนักเกินที่เราจะพก อาจกลายเป็นภาระได้ เลือกกล้องที่เข้ากับเราที่สุด
กล้อง Mirrorless ปี 2019 ยังมีหนักด้วยเหรอ? มีสิ แต่ไม่ใช่ที่ตัวบอดี้นะ ส่วนใหญ่บอดี้น้ำหนักไม่เยอะหรอก แต่กล้อง Mirrorless พวก Full Frame Sensor ตัวเลนส์ในระดับโปรจะมีน้ำหนัก และขนาดที่เอาเรื่องเหมือนกัน ดังนั้น ควรประเมินน้ำหนักที่เราจะใช้ให้ดี เลือกตามความต้องการของเราที่สุดก่อน

นอกจากนี้เรื่องของงบประมาณ หรือราคากล้องที่เราลงทุนไหว ก็ควรดูไว้ด้วยว่าแบรนด์ที่เราเลือก มีเลนส์ในช่วงระดับราคาให้เราซื้อหรือเปล่า มีเลนส์นอกค่ายให้เลือกใช้ด้วยหรือเปล่า ประมาณนี้ จะทำให้เราได้กล้องที่ใช้งานสนุก และยืดหยุ่นกับตัวเราครับ
5. สำหรับมือใหม่ กล้องควรมีระบบกันสั่นและออกแบบฟังก์ชั่นให้เราถ่ายภาพได้ง่ายและสนุกที่สุดคือสิ่งสำคัญ นอกเหนือจากสเปค ความสามารถ และรูปร่าง
ยุคนี้จะมีกล้องรุ่นใหม่ที่ออกมาแล้วไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้องเหมือนกันนะ ซึ่งเขาออกแบบมาให้เฉพาะกับกลุ่มที่ใช้งานระดับค่อนข้างโปรละ แต่สำหรับมือใหม่ผมยังแนะนำว่ากล้อง Mirrorless ในปี 2019 นี้ ควรเลือกกล้องที่มีระบบกันสั่นในตัวเองครับ เพราะเดี๋ยวนี้กันสั่นทำงานได้ดีมาก แล้วช่วยเราได้เยอะเลยในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย

สิ่งสำคัญก็คือว่า เราต้องถ่ายภาพได้ง่ายด้วย บางกล้องมีโหมดถ่ายภาพระดับโปรให้แบบง่าย ๆ ยกตัวอย่างพวก AP Mode ของกล้อง Olympus หรือพวก Live Composite ทั้งหลาย, ของ Panasonic ก็มีพวก 4K Photo, Post Focus ที่เลือกจุดโฟกัสทีหลังได้แม้จะถ่ายภาพไปแล้วเป็นต้น กล้องพวกนี้ทำให้เราข้ามขีดจำกัดยาก ๆ ไปได้เยอะ แล้วเราได้กล้องที่ถ่ายภาพสนุก ๆ ด้วยครับ
คู่มือเลือกซื้อกล้องปี 2019 อัพเดตเทรนด์รุ่นกล้องล่าสุด เรียงตามพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เป็นหลัก ยกมาหมดทั้ง Canon, Nikon, Fujifilm, Olympus และ Panasonic
1. กล้อง Mirrorless ปี 2019 สเปคดี ราคาเริ่มต้นง่าย ๆ ถ่ายภาพแบบโปรได้ ชุดคุ้มสุด เลือกอ่านตามความชอบได้เลย
Canon EOS M50 กล้อง Mirrorless ตัวเด่นยอดนิยมตั้งแต่ปี 2018 มาจนถึงปี 2019 ก็ยังเป็นกล้องตัวคุ้มที่ลงตัวสุด ๆ อยู่ (อ่านรายละเอียดฟังก์ชั่นแบบละเอียดของ Canon EOS M50 ได้ที่ลิงก์)
ตั้งแต่เปิดตัวกล้อง Canon EOS M50 มา กล้องตัวนี้โดนใจสำหรับคนระดับเริ่มต้นมาก ๆ ถึงมากที่สุด ตั้งแต่ปี 2018 ก็ได้รับความนิยมมากละนะ ในปี 2019 นี้ก็ยังได้รับความนิยมมากอยู่ดี เพราะด้วยการออกแบบของตัวบอดี้ที่กระชับมือมาก น้ำหนักเบา สีสันมีให้เลือกทั้งสีขาว และดำ ดีไซน์เข้ากับคนรุ่นใหม่ สิ่งสำคัญเลยคือกล้องรุ่นนี้ไม่ได้กั๊กสเปคอะไรเลย แถมมีพอร์ทสำหรับช่องเสียบไมโครโฟนมาให้ด้วย

สำหรับทางด้านความละเอียดของกล้อง Canon EOS M50 ตัวนี้ เป็นเซ็นเซอร์ APS-C ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ใส่หน่วยประมวลผลแบบ DIGIC 8 Image Processor ซึ่งการใช้งานโดยรวมสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีหน้าจอ Monitor ที่รองรับ Touch Screen ขนาด 3 นิ้ว แล้วยังสามารถที่จะปรับมุมมองแบบ Selfie ได้ ทำให้การใช้งานเป็นไปได้สะดวก มีระบบ Dual Pixel ที่ทำให้การโฟกัสภาพแม่นยำและเป็นจุดเด่นที่ Canon ทำได้ดีมาตลอด สิ่งสำคัญคือรองรับวีดีโอ 4K ด้วยนะ
จุดเด่นของกล้อง Canon EOS M50 สำหรับการใช้งานกล้องในปี 2019, Canon EOS M50 ดีไหม?

- ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ซึ่งก็เยอะมากสำหรับการใช้งานในทุก ๆ แบบ แล้วกล้องระดับ Flagship ส่วนใหญ่ก็ความละเอียดประมาณนี้
- สามารถที่จะถ่ายงานภาพนิ่งได้ดี และตอบโจทย์งานวีดีโอได้ด้วย เพราะมีช่องเสียบไมโครโฟนมาให้ รองรับวีดีโอ 4K
- หน้าจอ Monitor สามารถสั่งงานด้วยระบบสัมผัสได้ สามารถที่จะควบคุมการทำงานด้วยหน้าจอมอนิเตอร์สบาย ๆ
- ระบบโฟกัสเป็น Dual Pixel ซึ่งมีความแม่นยำสูงมาก และให้การโฟกัสวีดีโอเราเนี๊ยบ นิ่มนวล นิ่งกริ๊บ
- มีระบบกันสั่นสำหรับงานวีดีโอ ทำให้การถือถ่ายวีดีโอนิ่งขึ้นกว่ากล้องที่ไม่มีระบบกันสั่นนี้
- การดีไซน์บอดี้สามารถจับได้กระชับมือมาก แล้วก็มีให้เลือกสองสีด้วย สีดำและสีขาว
- รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายทั้ง Wi-Fi, Bluetooth, NFC
รีวิว Canon EOS M50, Canon EOS M50 Review
ข้อสังเกต Canon EOS M50 ที่ควรจะต้องคิดก่อนซื้อกันนิดนึง
- Dual Pixel จะไม่ทำงานเมื่อถ่ายวีดีโอแบบ 4K (นั่นอาจจะเป็นเพราะเหตุผลทางการตลาด เพราะสเปคที่จัดเต็มมาแบบนี้ ถ้า 4K ใน Dual Pixel มาด้วย หลายรุ่นบน ๆ อาจจะถูกเลือกน้อยลง) แต่ก็ยังใช้ได้กับหลาย ๆ งานที่ไม่ได้เน้นการโฟกัสแบบรวดเร็วเยอะแยะครับ
- การถ่าย 4K บน Canon EOS M50 จะ Crop ภาพขนาด 1.7x ทำให้เราเสียช่วงกว้างไป
- Buffer ค่อนข้างน้อยสำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่อง
- แบตเตอรี่พอใช้ แต่ก็ไม่ถึงกับอึดมาก
กล้อง Canon EOS M50 รุ่นนี้เหมาะกับใคร
- เหมาะกับคนที่ต้องการกล้องระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางในงบที่จำกัด แต่การใช้งานครอบคลุมมากทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ในช่วงกล้องราคา 25,900 บาท รวมเลนส์ กล้องตัวนี้จะเป็นกล้องที่ค่อนข้างคุ้มที่สุดเท่าผมเคยเล่นมานะ อยู่ที่ความชอบแล้วว่าตัวนี้ถูกใจหรือเปล่า
Canon EOS M50 ราคา 25,900 บาท (ราคาประกันศูนย์)
Fujifilm X-T100 กล้อง Mirrorless ตัวเด่นระดับเริ่มต้นสำหรับค่าย Fujifilm ความผสมผสานระหว่าง Fujifilm X-T20 + Fujifilm X-A5 ในร่างน้องเล็ก (อ่านรีวิว Fujifilm X-T100 แบบละเอียดได้ที่ลิงก์ รวมถึง Preview ความสามารถโดยรวมด้วย)

กล้อง Fujifilm X-T100 เป็นกล้องที่ถูกวางในกลุ่มคนเริ่มต้นเล่นกล้อง ซึ่ง Fujifilm ในบ้านเราแบรนด์ได้รับความนิยมอันดับต้น ๆ เลย โดยจุดเด่นหลักกล้องตัวนี้จะใช้เซ็นเซอร์ APS-C ซึ่งคุณภาพถือว่าทำได้ดีมากสำหรับคนที่เริ่มต้นเล่นกล้อง เพราะขนาดนี้เหลือเฟือ

จุดเด่นอีกอย่างนึงก็คือเขามองเห็นว่าคนที่ชอบกล้อง Fujifilm X-A5 เนี่ย อาจจะได้อยากได้ดีไซน์แบบ Retro SLR เหมือน Fujifilm X-T20, Fujifilm X-T2 ก็เลยทำ Fujifilm X-T100 ในรูปร่างของ Retro SLR เลย แต่จะเพิ่มความสามารถขึ้นมาเหมือน Fujifilm X-A5 ก็ตรงที่สามารถพับหน้าจอมาใช้ Selfie ได้ ทำให้มันกลายเป็นกล้อง Retro SLR ที่ตอบโจทย์คนที่ชอบ Social ได้ดีเลยแหละ
จุดเด่นของกล้อง Fujifilm X-T100, Fuji XT100 ดีไหม?

- เซนเซอร์ APS-C CMOS แบบ Bayer ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
- ระบบโฟกัสแบบ Hybrid AF คือ Phase Detection และ Contrast Detection มีจุดโฟกัส 91 จุด
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 6 ภาพต่อวินาที
- ความเร็วชัตเตอร์กลไก (Mechanic Shutter) สูงสุด 1/4000 วินาที อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Shutter) 1/32000 วินาที
- จอแสดงผล 3 นิ้ว รองรับการแสดงผลแบบ Touch Screen สามารถพับมาด้านหน้าถ่าย Selfie ได้
- บันทึกวีดีโอแบบ 4K และ Full HD ได้
- มีฟังก์ชั่นการทำสีแบบกล้องฟิล์มที่โดดเด่นของ Fujifilm (Film Simulation) จบหลังกล้องได้เลย
- มีโหมดถ่ายวีดีโอ Frame Rate สูง
- สามารถถ่ายภาพแบบ Time Lapse จบได้ในตัวกล้อง
- มีช่องต่อไมโครโฟนสำหรับคนที่จะ Vlog จบในกล้องได้เลย
รีวิว Fujifilm X-T100, รีวิว Fuji XT100, Fuji XT100 รีวิว
เราเคยได้ทำการีวิว Fujifilm X-T100 ไว้เป็นบทความไว้แล้วสามารถเข้าไปชมที่บทความได้เลย หรือว่าใครอยากได้ดูรีวิวแบบวีดีโอสามารถดูตรงนี้ได้เลยครับ
ข้อสังเกตของ Fujifilm X-T100 หรือ ที่ควรคิดก่อนซื้อกันสักนิด
- ระบบ 4K ของ Fuji XT100 เป็นแบบ 15 FPS ออกแบบมาเพื่อใช้ทำการ Burst Shooting และ 4K Photo มากกว่าการเอามาใช้สำหรับการถ่ายวีดีโอแบบจริง ๆ จัง ๆ ถ้าจะถ่ายวีดีโอแนะนำถ่ายเป็น Full HD จะดีกว่า
- ช่องไมโครโฟนเป็นแบบ 2.5mm ถ้าจะใช้จริง ๆ ก็ต้องใช้ Adapter แปลงสำหรับหัวไมค์โครโฟน 3.5mm เป็น 2.5mm ถึงจะใช้ได้

กล้อง Fujifilm X-T100 รุ่นนี้เหมาะกับใคร?
- Fujifilm X-T100 รุ่นนี้เหมาะกับคนตั้งแต่ระดับเริ่มต้นเลย ไปจนถึงระดับเกือบ ๆ กลางเลยนะ เว้นแต่เราอยากจะอัพเกรดไป Fujifilm X-T20 อันนั้นอาจจะตัดสินใจข้ามรุ่นนี้ไปได้ แต่ถ้ามองในความคุ้มค่า รุ่นนี้สำหรับคนชอบ Fujifilm น่าจะโอเคสุด ๆ แล้ว
Fujifilm X-T100 ราคา 21,990 บาท พร้อมชุดเลนส์ 15-45mm ราคาประกันศูนย์
Olympus OM-D E-M10 Mark III กล้องรุ่นเล็ก เซ็นเซอร์ Micro 4/3 แต่เก่งรอบด้าน เหมาะสำหรับมือใหม่ พร้อมความสามารถในการถ่ายวีดีโอแบบ 4K และมีระบบกันสั่นในตัวกล้องที่โดดเด่น

กล้องรุ่นนี้แม้ว่าจะเป็นกล้องขนาดเล็กที่มีขนาดเซ็นเซอร์แบบ Micro 4/3 แต่ว่าด้วยการวางตลาดและคุณสมบัติที่ออกแบบมาซึ่งทำได้ดีนะ สอดคล้องกับความต้องการของมือใหม่อย่างมากสำหรับ Olympus OM-D E-M10 Mark III ตัวนี้ และน่าจะเป็นตัวที่ขายดีสุด ๆ สำหรับกล้อง Olympus เลย

ความละเอียดของกล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark III ตัวนี้มีถึง 16 ล้านพิกเซล ซึ่งส่วนตัวผมสัมผัสกล้องตัวนี้ด้วยตัวเองอย่างจริงจัง ทั้งการเอาภาพจากกล้องตัวนี้มาพิมพ์แล้วก็โพสต์ลง Facebook ด้วย ซึ่งบอกตามตรงว่ากล้องตัวนี้โอเคมากสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง โดยเฉพาะคนที่เดินทางท่องเที่ยว กล้องตัวนี้ทำได้ดี แม้ว่าแรก ๆ จะห่วงเรื่องขนาดเซ็นเซอร์ แต่เอาเข้าจริงกลับเป็นกล้องที่ดีมาก ๆ ในการถ่ายภาพเลยทีเดียว

นอกจากนี้ระบบกันสั่นในตัวกล้องของ Olympus OM-D E-M10 Mark III ทำได้ค่อนข้างดีมาก ๆ ทำให้มือใหม่ไม่ต้องเครียดเรื่องการตั้งค่า โดยเฉพาะการถ่ายภาพกลางคืน เราสามารถใช้กันสั่นกล้องชดเชยแสงได้เลย นอกจากนี้ยังมีพวก AP Mode สำหรับถ่ายภาพแบบ Advance ได้ง่าย ๆ เพราะเขาออกแบบโหมดนี้เพื่อช่างภาพมือใหม่ถ่ายภาพแบบมือโปรได้เลย

จุดเด่นของ Olympus OM-D E-M10 Mark III มีอะไรบ้าง Olympus OM-D E-M10 Mark III ดีไหม ?
- ใช้หน่วยประมวลผลแบบเดียวกับกล้อง Flagship รุ่นใหญ่ Olympus OM-D E-M1 Mark III ทำให้กล้องรุ่นนี้ประมวลผลภาพได้เร็ว ถ่ายต่อเนื่องได้เต็มที่
- จุดโฟกัส 121 จุด ทำให้การโฟกัสง่ายขึ้น ยุคนี้กล้องตัวเล็ก ๆ สามารถที่จะโฟกัสได้ง่าย แม่นยำแล้วด้วย ทำให้สามารถถ่ายภาพได้คมชัด โฟกัสวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ง่าย
- สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดแบบ 4K ได้ สำหรับคนที่เผื่อว่าจะถ่าย Footage Video เอามาทำ Vlog ลง YouTube ก็ทำได้สบาย
- AP Mode หรือ Advance Photo Mode เป็นโหมดถ่ายภาพระดับมืออาชีพ แต่ได้ออกแบบฟังก์ชั่นให้มือใหม่สามารถที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายได้ง่าย ๆ เลย มีโหมดตามนี้ Live Composite, Live Time, Multi Exposure, Panorama, HDR, Focus BKT, Silent Shootingm, Keystone Compensation
- มีโหมด Art Filter สำหรับถ่ายออกมาแล้วสามารถจบหลังกล้องแบบใช้สไตล์สี ไม่ต้องแต่งในคอม ซึ่งสีของ Olympus ทำออกมาได้สวยอยู่หลายสไตล์สีเหมือนกัน
- Grip ค่อนข้างใหญ่ในบอดี้ขนาดเล็ก ผู้ชายก็สามารถถือถ่ายได้ถนัดมาก
- ระบบกันสั่นทำได้ดีมากในกล้องรุ่นเล็ก ๆ ราคาเท่านี้ คือ Olympus เก่งเรื่องนี้มานานแล้วแหละ
รีวิว Olympus OM-D E-M10 Mark III
ข้อสังเกตของ Olympus OM-D E-M10 Mark III หรือสิ่งที่ควรรู้ก่อนซื้อสักนิด
- สำหรับคนที่คาดหวังการละลายหลังมาก ๆ ให้ลองไปทดสอบกล้องรุ่นนี้ที่หน้าร้านก่อนซื้อ ว่าเลนส์ที่เน้นละลายหลังของ Olympus OM-D E-M10 Mark III ได้เอฟเฟกต์ที่สะใจไหม เพราะเซนเซอร์ 4/3 อาจจะไม่ถูกใจในการละลายหลังสำหรับบางคน
- ถ้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซลแล้วทำให้ไม่สบายใจว่าจะได้ไฟล์ใหญ่สะใจไหม ให้ข้ามรุ่นนี้ได้เลย ผมคอนเฟิร์มนะว่าความละเอียดมากพอ แต่ถ้าไฟล์ไม่ใหญ่ตามความต้องการให้ขยับไปตัวสูงกว่านี้เลยครับ
- ไม่มีช่องเสียบไมโครโฟนสำหรับคนที่ต้องการถ่ายวีดีโอ
Olympus OM-D E-M10 Mark III รุ่นนี้เหมาะกับใคร ?

กล้องรุ่นนี้เหมาะกับมือใหม่ที่อยากจะเริ่มต้นเล่นกล้องง่าย ๆ แต่ได้ภาพที่สวย เหมาะสำหรับถ่ายวีดีโอบ้าง แต่ไม่ถึงกับเป็นตัวหลัก แต่ก็สามารถใช้เป็นตัวหลักได้ถ้าหากว่าเราสามารถประยุกต์การทำงานให้เข้ากับกล้องตัวนี้ได้ และคนที่ชอบถ่ายภาพพร้อมท่องเที่ยวไปด้วย กล้องตัวนี้จะตอบโจทย์มากครับ
Olympus OM-D E-M10 Mark III ราคา 29,990 บาท สำหรับช่วงนี้อาจจะมีโปรโมชั่นแถมแบตเตอรี่ดูครับ อาจจะต่อรองที่หน้าร้านได้ ลองดูครับ
Fujifilm X-T20 กล้อง Mirorrless สำหรับคนที่อยากได้กล้องกึ่งโปรในราคาใกล้เคียงกับระดับเริ่มต้น เหมาะสำหรับทั้งคนที่เริ่มต้นถ่ายภาพแต่อยากได้กล้องประสิทธิภาพดี ซื้อเผื่ออนาคต เล่นได้ไกล ฟังก์ชั่นเยอะ
กล้อง Fujifilm X-T20 เป็นกล้องน้องเล็กของ Fujifilm X-T2 ที่พูดแบบนี้เพราะว่าหลาย ๆ อย่างนี่เหมือน Fujifilm X-T2 เลย แต่ย่อสเปคลดลงมาให้คนที่มีกำลังซื้อกล้องระดับกลาง ๆ สามารถได้กล้องที่ราคาน่ารักและประสิทธิ์ยังเหนือกว่ากล้องระดับ Beginner อยู่

Fujifilm X-T20 เป็นกล้องที่ใช้เซ็นเซอร์ APS-C ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล การทำละลายฉากหลังเวลาใช้กับเลนส์ Portrait ให้รายละเอียดและคุณภาพไฟล์ที่ดีมาก ๆ เหมือนกับกล้องตัวท็อปของค่ายที่เป็น Fujifilm X-T2 เลยทีเดียว (แต่ตอนนี้ท็อปสุดเป็น Fuji XT3 นะ)
ระบบสีของ Fuji XT20 ตัวนี้โทนสีผิวจะนุ่มสวย แล้วก็มีฟังก์ชั่น Film Simulation สามารถทำโทนสีได้เหมือนฟิล์มสุด ๆ แล้ว และยังรองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K ด้วยครับ
รีวิว Fujifilm X-T20
จุดเด่นของกล้อง Fujifilm X-T20 มีอะไรบ้าง ? Fujifilm X-T20 รุ่นนี้ดีไหม ?

- ความละเอียดที่เยอะถึง 24 ล้านพิกเซล ทำงานได้หลากหลาย สามารถที่จะเอาไปถ่ายภาพ ท่องเที่ยว, Shutter Stock รับงานได้บ้าง
- มีวีดีโอความละเอียดแบบ 4K สามารถถ่ายทำรายการได้ ถ่าย Vlog ได้ จะทำ Channel YouTube เน้นทำรีวิว กล้องตัวนี้ทำได้หมด
- มีฟีเจอร์ Film Simulation แปลงรูปแบบไฟล์ภาพดิจิตอลให้ได้โทนสีแบบ Film ได้ดีที่สุดแล้ว
- หน้าจอสามารถปรับมุมมองได้ สามารถที่จะ Touch Screen เพื่อสั่งงานได้สะดวกมาก
- มี Port สำหรับต่อ Microphone สำหรับคนที่ต้องการถ่ายวีดีโอ ถ่าย Vlog ได้ เต็มที่
ข้อสังเกตของ Fujifilm X-T20 มีอะไรบ้าง ?
- ช่องมองภาพ EVF ค่อนข้างเล็กหน่อย ถ้าเทียบกับ Fujifilm X-T2, Fujifilm X-T3
- ตัวกล้องไม่มีระบบกันสั่น

Fujifilm X-T20 กล้องรุ่นนี้เหมาะกับใคร
- จริง ๆ กล้องรุ่นออกแบบมาให้เหมาะกับคนทุกแบบ เน้นที่ได้ภาพสวย ใช้งานง่าย
- คนที่ชอบกล้องความละกเอียดสูง แล้วเน้นการเดินทางท่องเที่ยวก็พกกกล้องได้สวย
Fujifilm X-T20 ราคา 30,000 บาท – 33,000 บาท แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่น และเป็นราคาประกันศูนย์ประเทศไทย
Fujifilm X-A5 กล้อง Selfie ตัวเก่งที่สามารถถ่ายภาพจริง ๆ จัง ๆ ได้เหมือนกัน

กล้อง Fujifilm X-A5 หลายคนมองว่าเป็นกล้อง Selfie แต่เอาจริง ๆ Selfie เป็นแค่จุดเดียวในกล้องตัวนี้เท่านั้นเอง (ใช่หรอกว่า Position มันเป็นกล้อง Selfie แต่ Performance มันไปได้ไกลกว่านั้น) กล้องตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นกล้องที่ Fujifilm ได้ลงทุนมากในการเปิดตัวเพราะใช้ BNK48 มาเป็นพรีเซ็นเตอร์กันเลย ทำให้ได้รับความนิยมมาก ๆ ในกลุ่มผู้หญิงคนไทย และกล้องดีไซน์ตรงกับคนสายท่องเที่ยวถ่ายรูปมาก ๆ

ความละเอียดของกล้อง Fujifilm X-A5 ตัวนี้อยู่ที่ 24.2 ล้านพิกเซล คือละเอียดมาก ๆ แล้วนะแทบจะเท่ากับกล้อง Flagship ของค่ายนี้เลย แล้วก็มีหน้าจอทัชสกรีน พร้อมทั้งปรับมุมมองแบบ Selfie ได้ แต่ไม่แค่นั้น กล้องตัวนี้ให้ระบบพวก 4K Burst มา ให้ถ่ายภาพในจังหวะเร็ว ๆ ได้ สำหรับใครถามว่ากล้อง Fujifilm X-A5 vs Fujifilm X-A3 อันไหนดีกว่า ถ้าเรื่องภาพรวมตอนนี้ Fujifilm X-A5 ทำได้ค่อนข้างตอบโจทย์มากกว่านะ เพราะรุ่นใหม่ แล้วมีการอัพเดต Firmware เรื่อย ๆ มาตลอดปีที่ผ่านมา ทำให้กล้องตัวนี้ปรับปรุงแก้ไขในสิ่งที่หลายคนแสดงความคิดเห็นมาก่อนหน้านี้จนจบเรียบร้อยไปละ
รีวิว Fujifilm X-A5
จุดเด่นกล้อง Fujifilm X-A5 มีอะไรบ้าง กล้อง Fujifilm X-A5 ดีไหม ?
- Fujifilm X-A5 เป็นกล้องที่ถ่ายรูปได้สนุก แล้วก็เป็นกล้องที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ชายผู้หญิง เพราะมัน Selfie ได้ ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล คือมากพอจะเอาไปถ่ายได้ทุกอย่างแหละ
- ระบบโฟกัสมีความแม่นยำมากกว่ารุ่นที่ผ่านมา
- มีโหมดหน้าเนียน สำหรับสายเที่ยว เน้น Selfie โพสต์ภาพไลฟ์สไตล์ลง Facebook, Instagram
- มีโหมด 4K Burst สำหรับถ่ายภาพที่เกิดเหตุการณ์เร็ว ๆ คือรัวได้เต็มที่
Fujifilm X-A5 รุ่นนี้เหมาะกับใคร ?

กล้องตัวนี้เป็นกล้องแนว Casual ที่เหมาะกับทุกคน สามารถที่จะใช้ถ่ายภาพ Portrait, Travel, Landscape ได้หมดครับ แล้วก็สามารถที่จะใช้ถ่าย Selfie สวย ๆ ได้อีกด้วย แล้วเซ็นเซอร์ตัวนี้เป็นแบบ APS-C สามารถถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายด้วย ถ้าใช้ร่วมกับเลนส์ Fujinon 35mm F1.4 ก็สวยเลยแหละ
Fujifilm X-A5 ราคา 21,990 บาท แต่ว่าถ้าช่วงจัดโปรโมชั่นจะเห็น Fujifilm X-A5 ราคา 19,990 บาท – ราคา 20,990 บาท เป็นระยะครับ ยังไงตรวจสอบราคาโปรโมชั่นก่อนเข้าไปซื้อก็ดีนะ
Sony A6300 กล้องรุ่นเก่าที่ราคาปรับลดลงมา พร้อมทั้งโปรโมชั่น มันเลยเป็นกล้องความสามารถระดับกลุ่ม Flagship ในราคาใกล้เคียงกับกล้องระดับเริ่มต้น

จริง ๆ กล้องรุ่นนี้เป็นกล้องรุ่นเก่าครับ เพราะรุ่นล่าสุดตอนที่ผมเขียนเนี่ย ยังเป็น A6500 ที่เป็น Flagship ของ Sony ในกล้องเซ็นเซอร์ APS-C นะ เพียงแต่จุดเด่นมันอยู่ตรงนี้ครับ กล้องตัวนี้รัวได้ 11 เฟรมต่อวินาที แล้วก็ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ในตอนที่ Sony A6300 เปิดตัวใหม่ ๆ มันเป็นกล้องที่ระบบโฟกัสที่รวดเร็วสุด ๆ ในตอนนั้นแล้ว ซึ่ง ณ ปัจจุบันผมก็กล้าบอกได้เลยว่ามันเป็นกล้องที่ยังโคตรคุ้มสำหรับมือใหม่ที่อยากได้กล้อง Performance สูงน้ำหนักเบา ถ้าคุณไม่แคร์ว่ามันเป็นกล้องรุ่นเก่าหน่อย

จุดเด่นอีกเรื่องคือระบบ Video มันก็ถ่าย S-Log ได้ ถ่าย Video 4K ได้ ถ่าย 120fps ได้ คือมันครบเครื่องมาก ๆ ในราคาโปรโมชั่นปัจจุบัน แต่ว่านะมันก็มีข้อเสียอยู่บ้าง ถ้าคุณรับมันได้มันก็ดีครับ คือ ถ้าถ่าย 4K กล้องมันร้อนง่ายมาก ถ่าย 4K กลางแดด 10 นาที เนี่ยต้องพักกล้องเลยเพราะมันจะฟ้องว่าร้อนครับ ซึ่งกล้องตัวนี้ผมรู้จักมันดี เพราะผมใช้มันอยู่ทุกวัน ถ้าไม่ได้จำเป็นจะต้องถ่าย 4K ตลอดเวลา แล้วล่ะก็ กล้องตัวนี้ผมบอกเลย ค่อนข้างจบมาก
รีวิว Sony A6300
จุดเด่นของกล้อง Sony A6300 มีอะไรบ้าง กล้อง Sony A6300 รุ่นนี้ดีไหม ?
- Sony A6300 รุ่นนี้ ถ่ายเก่งทั้งภาพนิ่งแล้วก็วีดีโอตามที่บอกไป ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
- กล้องรุ่นนี้ถ่ายรัวได้จับใจมาก 11 ภาพต่อวินาที กดมันส์สุด
- สามารถถ่ายวีดีโอแบบ 4K ได้ ถ้าเอาไว้เก็บ Footage เป็นระยะ ๆ กล้องรุ่นนี้ถือว่าทำงานได้ดีมาก คุ้มค่าตัว
- บอดี้น้ำหนักเบา รูปร่างเล็ก กินพื้นที่ในกระเป๋าน้อย
ข้อสังเกต Sony A6300
- ถ่าย 4K นานมากไม่ได้ กล้องร้อน
- ไม่มีระบบกันสั่น

กล้อง Sony A6300 รุ่นนี้เหมาะกับใคร ?
กล้องรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่าในปี 2019 นี้ แม้มันจะเป็นกล้องตกรุ่น แต่ประสิทธิภาพมันก็เกินพอสำหรับการถ่ายงานทุกแบบ เรียกว่าไงดี สภาพแวดล้อมมันไม่ได้อัพเกรดตามกล้อง เพราะงั้นกล้องตัวนี้ใส่เต็มมาทั้งระบบโฟกัส ความละเอียด รองรับการถ่ายวีดีโอ 4K แล้วราคาปรับลดลงมาเยอะ เป็นกล้องสำหรับคนที่งบจำกัดแต่อยากได้กล้องเทพ ๆ ซึ่ง Sony A6300 จะเป็นกล้อง Mirrorless ปี 2019 ที่คุ้มมาก ๆ ตัวนึง
Sony A6300 ราคา 35,900 บาท (ราคาโปรโมชั่นในช่วงนี้ จะมีการปรับขึ้นลงแล้วแต่โปรโมชั่นเดือน แต่ถ้าจะซื้ออยากให้ดูช่วงราคานี้ไว้ครับ)
กล้อง Sony A6500 รุ่นตัวคุ้มอีกรุ่นนึงที่ปรับราคาลงมาแล้วในปี 2019 แต่ประสิทธิภาพยังดีเยี่ยม เหมาะกับคนที่ชอบกล้อง Performance สูง มีกันสั่นในตัว Buffer เยอะ แต่ราคาปรับลดลงมาให้คุ้มกว่าเดิมแล้วนะ

รุ่นนี้ตอนที่ผมเขียนอยู่ ยังไม่มีตัวไหนมาแทน Sony A6500 นะ มันก็ยังเป็นกล้อง Flagship สำหรับเซ็นเซอร์ APS-C ในค่าย Sony อยู่ ความต่างระหว่าง Sony A6300 vs Sony A6500 ก็คือ เรื่องของ ระบบกันสั่นในตัวกล้อง, Buffer ของกล้อง A6500 ที่มีมากกว่า A6300, ถ่ายวีดีโอ 4K ได้นานกว่า A6300 อยู่หน่อย ๆ นอกนั้นจะเหมือน ๆ กันหมด ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาแม้ว่าไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่ในเวลารับงานสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่จำเป็นมาก ๆ โดยเฉพาะ Buffer ที่เยอะกว่าครับ

ทำไมต้องยกกล้องตัวนี้มาอยู่ในระดับมือใหม่ทั้ง ๆ ที่ราคามันค่อนข้างเกินงบสำหรับมือใหม่ไปแล้ว สำหรับคนที่อยากได้กล้อง Performance ดีจริง ๆ ในเซ็นเซอร์ APS-C ไม่ได้เอาไปรับงาน ผมว่ากล้องตัวนี้ถ้างบถึงสำหรับมือใหม่ มันเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างลงตัวมาก ๆ เลยนะ ยกเว้นเรื่องเดียวที่เคยบอก การถ่าย 4K ถึงจะทนความร้อนได้นานกว่า A6300 แต่ผมว่ามันก็ควรทำได้ดีกว่านี้อยู่ดี นอกนั้นจัดเต็มกว่า A6300 แทบจะทั้งหมด โดยเฉพาะ Buffer
ผมเข้าใจว่ามือใหม่ส่วนนึงที่เห็นกล้องรุ่นเก่าอย่าง Sony A6300 อาจจะรู้สึกคา ๆ ใจอยู่บ้างเรื่อง “มันไม่ใช่ตัวสุด” ผมก็แนะนำให้มาจบที่ A6500 ก็ได้ ถ้าคุณชอบ Sony Mirrorless และงบอยากได้ตัวสุดบนเซ็นเซอร์ APS-C ครับ
รีวิวกล้อง Sony A6500
จุดเด่นของกล้อง Sony A6500 มีอะไรบ้าง กล้อง Sony A6500 รุ่นนี้ดีไหม ?
- กล้องตัวนี้มีประสิทธิภาพสูง ทั้งความสามารถในด้านภาพนิ่งและวีดีโอ รวมถึงระบบกันสั่นที่ทำงานได้ดีในระดับนึงเลย อีกทั้งยังมี Buffer ให้เยอะมากสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง พวกงาน Sport ทั้งหลาย
- ความละเอียดกล้องตัวนี้ 24 ล้านพิกเซล ที่มากพอจะเอาไปถ่ายรับงานได้สบาย
- บอดี้น้ำหนักเล็ก เป็นจุดเด่นของกล้องรุ่นนี้ อีกทั้งยังน้ำหนักเบา ทำงานได้ดี
- การถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 11 เฟรมภาพต่อวินาที เลยทำให้การถ่ายงานหลาย ๆ รูปแบบ ทำได้ดีมาก
- ระบบโฟกัสทำงานได้อย่างรวดเร็ว มั่นใจได้ กดชัตเตอร์รัว ๆ เปิดระบบโฟกัสแบบ tracking ทำงานได้ต่อเนื่องชชิล ๆ เลย
- รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ S-Log2, S-Log3 สามารถเอาวีดีโอไปทำ Grading ได้สบาย
ข้อสังเกตของ Sony A6500
- กล้องรุ่นนี้ถ่าย 4K ไปสักพัก มีโอกาสที่จะร้อนเหมือนกับ Sony A6300
Sony A6500 ราคา 51,990 บาท (อันนี้ราคาเต็มนะ ถ้าหากไปถามโปรโมชั่นที่ร้าน มีลดเยอะกว่านี้แน่นอน เพราะราคานี้นานละ สามารถคุยราคาพิเศษที่หน้าร้านได้ตามสะดวก เขาน่าจะมีราคาที่ลดเยอะกว่านี้ให้ ปกติก็ต้องมีแล้วแหละกล้องออกมานานสักพักแล้ว)
Olympus OM-D E-M5 Mark II กล้องตัวคุ้มสำหรับคนอยากได้กล้องขนาดเล็ก ถ่ายวีดีโอได้ดี พร้อมกันสั่นในตัวแบบไม่ต้องพึ่ง Gimbal

กล้องตัวนี้เป็นกล้องที่ออกมานานสักพักใหญ่มาก ๆ เหมือนกัน แล้วก็ยังไม่ได้มีรุ่นใหม่ออกมา ทีนี้ Olympus จริง ๆ แล้วจุดเด่นเขามีนะ แต่ราคาตอนเปิดตัวแรงมากเลยทำให้หลายคนมองข้ามไป จนถึงจุดนึงที่ราคาเริ่มลดลงมาเยอะมากละ เลยทำให้กล้องบางตัวกลับมามีที่ยืนอีกครั้งอย่างกล้องตัวนี้

พูดถึงจุดด้อยจุดเดียวของกล้องตัวนี้ก่อนคือเรื่องวีดีโอ 4K ไม่ได้เพราะกล้องออกมานานสักพักละ ได้แค่ที่ Full HD แต่ที่เหลือดีหมดทุกอย่าง ตั้งแต่บอดี้เนี่ย Weather Sealed กล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II นี่ซีลมาดีมาก คุณภาพไฟล์รูปก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยแหละ มีโหมดความละเอียดสูงที่ถ่ายภาพได้ 40 ล้านพิกเซล แล้ว Dynamic Range ก็โอเคมาก
นอกจากนี้คือเรื่องของความพร้อมในการถ่ายวีดีโอ เพราะมีหน้าจอหมุนพับเข้าหาตัวเองได้ มีช่องเสียบไมค์โครโฟนและหูฟังอีกต่างหาก ดังนั้นกล้องตัวนี้เลยมีความครบเครื่องพอสมควรเลยแหละสำหรับคนที่งบประมาณจำกัด
รีวิว Olympus OM-D E-M5 Mark II
จุดเด่นของ Olympus OM-D E-M5 Mark II มีอะไรบ้าง ? กล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II ดีไหม?
- จุดเด่นตอนนี้คือเรื่องของภาพรวมที่ค่อนข้างสมส่วนกับราคาครับ เดี๋ยวอ่านต่อนะว่าจุดเด่นมีอะไรบ้างในด้านสเปค
- กล้องความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Micro 4/3 เหมาะกับคนที่ถ่ายภาพแล้วเน้นความเบาของไฟล์ รายละเอียดใช้ได้สำหรับถ่ายทั่วไป รีวิว ท่องเที่ยว งานอดิเรก
- มีโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง 40 ล้านพิกเซล จะถ่ายภาพ 8 ใบรวมมาไว้ในภาพเดียว ซึ่งได้ไฟล์ RAW ด้วยนะ ละความละเอียดสูงมาก Dynamic Range ก็ดีมากขึ้นด้วย เหมาะกับคนแนว ๆ ซีเรียสเรื่องความละเอียดแต่อยากได้กล้องเล็ก
- บอดี้มี Weather Sealed กันน้ำกันฝุ่น สามารถใช้กล้องตัวนี้ลุยหนัก ๆ ได้สบาย
- มีหน้าจอแบบหมุนพับได้ ทำให้สามารถที่จะถ่ายวีดีโอแบบ Vlog ได้
- มีช่องเสียง Microphone และหูฟัง ทำให้สามารถถ่ายวีดีโอได้เต็มที่แบบไม่กั๊ก
- กันสั่นในตัวกล้องของ Olympus OM-D E-M5 Mark II ถือว่าทำได้ดีมาก ๆ เลยแหละ เหมาะกับคนที่ต้องการถ่าย Vlog หรือถ่ายภาพแล้วอยากได้ความนิ่งของกล้องแบบเนี๊ยบ ๆ ตัวนี้จัดได้สบายมาก
ข้อสังเกต Olympus OM-D E-M5 Mark II
- ถ่ายวีดีโอ 4K ไม่ได้
- กล้องออกมาหลายปีแล้ว หลายคนอาจจะไม่ชอบ แม้ยังไม่มีรุ่นใหม่มาก็ตาม

Olympus OM-D E-M5 Mark II เหมาะกับใครบ้าง และดีมากแค่ไหน
จริง ๆ กล้องตัวนี้เหมาะกับการถ่ายภาพทั่วไป แล้วก็เหมาะกับคนที่ชอบเดินทางแต่ไม่อยากขนอะไรหนักมากเกินไป ต้องการกล้องที่ลุยได้ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา คุณภาพไฟล์ดีทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ กล้องตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมากพอสมควรเลย

Olympus OM-D E-M5 Mark II Body ราคา 37,990 บาท ลดเหลือ 24,000 – 26,000 บาท โดยประมาณ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นแต่ละเดือน และราคานี้เป็นราคาประกันศูนย์
Panasonic Lumix GF10 กล้องเซลฟี่ตัวคุ้มสำหรับผู้หญิง และคนที่ชอบกล้องเล็ก ๆ
กล้องเล็ก ๆ สำหรับคนที่ชอบถ่ายเที่ยว เซลฟี่ เน้นดีไซน์สวย ซึ่ง Panasonic Lumix GF10 จริง ๆ เป็นกล้องที่ดีมากเลยนะ แล้วก็ถ่ายแบบจริง ๆ จัง ๆ ได้อีกด้วย เพียงแต่รูปลักษณ์ภายนอกกับ Branding เขาไปทางแนว Selfie มากกว่า แต่เอาเข้าจริงก็ถ่ายได้ทุก ๆ อย่างเหมือนกล้องปกติเลยนี่แหละ

จุดเด่นที่ Panasonic Lumix GF10 ทำได้ดีมากตลอดเลยคือความสามารถด้านการออกแบบให้เป็นกล้องที่สวย น่ารัก แล้วเข้ากับคนที่ชอบ Selfie มีโหมดถ่ายภาพบิวตี้ หรือโหมดหน้าเนียนนั่นแหละ แล้วก็หน้าจอพับที่สามารถถ่ายเซลฟี่ได้สะดวก
นอกจากนี้แล้วการถ่ายภาพด้วยคำสั่งอื่น ๆ ยังเป็นเหมือนกล้อง Mirrorless แบบปกติทุกอย่าง จะเอาไปถ่าย Portrait หรือ Landscape ก็สามารถถ่ายได้ครับ เพียงแต่ปุ่มกดอาจจะน้อยไปหน่อยเพราะเขาเน้นใช้งานง่าย ถ้าอยากถ่ายซับซ้อนก็ต้องเข้าเมนูไปตั้งเองเอามากกว่า
จุดเด่นอีกเรื่องนึงก็คือโหมด 4K ทั้งหลายที่ Panasonic ทำได้ดีมาตลอดตั้งแต่กล้องรุ่นเล็กยันรุ่นใหญ๋ จะเป็นพวก 4K Selfie, 4K Photo กล้อง Panasonic Lumix ไม่พลาดที่จะให้กล้องรุ่นเล็ก ๆ ใช้ได้ แถมยังใช้ได้ดีอีกด้วย สามารถที่จะถ่ายภาพต่อเนื่องแบบรัว ๆ ได้โดยใช้โหมดนี้นั่นเอง ไม่เกี่ยวว่าเป็นกล้องรุ่นเล็กก็ยังถ่ายแบบโปร ๆ ได้แหละ
รีวิว Panasonic Lumix GF10
จุดเด่นของ Panasonic Lumix GF10 มีอะไรบ้าง ? กล้อง Panasonic Lumix GF10 ดีไหม?
- รูปลักษณ์ดีไซน์เน้นสำหรับสาย Selfie เลย ท่องเที่ยวได้สนุก ให้คุณภาพรูปที่สวย
- ความละเอียด 16 ล้านพิกเซลซึ่งเยอะพอสำหรับการถ่ายภาพหลากหลายแนว Portrait, Landscape อัพภาพลง Social Media ทั้งหลายก็ทำได้สบาย
- เซ็นเซอร์ไม่มี Low-Pass Filter ทำให้ภาพคมชัดมากขึ้น
- ความเร็วโฟกัสรวดเร็วมากใน 0.07 วินาที
- หน้าจอ 3 นิ้ว รองรับทัชสกรีน สามารถกดเลือกการปรับค่าได้ที่หน้าจอสบาย ๆ เลย
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 5.8 เฟรมต่อวินาที ถ้าใช้ Electronic Shutter จะได้ 10 เฟรมต่อวินาที
- โหมด 4K Photo, 4K Selfie ทั้งหลาย (แต่แบรนด์เขาใช้ชื่อ 4K Selfy อ่ะนะ)
ข้อสังเกต Panasonic Lumix GF10
- ด้วยที่เป็นกล้องเล็ก แบตเตอรี่เลยเล็กตามไปด้วย ทำให้การใช้แบตต่อวันอาจจะต้องใช้สัก 2-3 ก้อนสำหรับคนที่ถ่ายเยอะ ๆ นะ แนะนำซื้อแบตเตอรี่เพิ่ม
Panasonic Lumix GF10 ดีไหม เหมาะกับใคร ?

กล้องตัวนี้เป็นกล้องที่ดีตัวนึงเลยนะ สามารถที่จะถ่ายแนวเซลฟี่สนุก ๆ แล้วก็ยังสามารถที่จะถ่ายภาพแนวจริง ๆ จัง ๆ ได้ด้วย เพราะเซ็นเซอร์ขนาด Micro 4/3 ยุคนี้สามารถถ่ายภาพได้ดีทั้งภาพ Portrait, Landscape, Travel
แต่ด้วยฟีเจอร์และความเรียบง่ายจะออกไปแนว Selfie เยอะหน่อย อันนี้ต้องลองดูความชอบของเราว่าเราชอบไหม ส่วนโหมด 4K อื่น ๆ เรียกได้ว่ายังเก่งอยู่ ซึ่งจัดเต็มมาทุกอย่างแบบไม่กั๊กสเปคกันเลย
Panasonic Lumix GF10 ราคา 18,000 – 21,000 บาท แล้วแต่โปรโมชั่น แต่ให้ดูช่วงราคานี้ไว้ครับ อันนี้เป็นราคาประกันศูนย์นะ
Panasonic Lumix GF9 กล้องเซลฟี่ตัวคุ้มรุ่นเก่ากว่าหน่อย แต่ได้ราคาน่ารักกว่า

สำหรับคนที่อ่าน Panasonic Lumix GF10 แล้วอาจจะสู้ราคาไม่ไหว ให้ลดลงมาลองเล่นตัว Panasonic Lumix GF9 ก็ได้ครับ อาจจะยังมีขายในบ้านร้านอยู่ จริง ๆ ตัวนี้ก็เป็นตัวคุ้มอีกเหมือนกันสำหรับคนที่ไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ 4K ตัวใหม่ ๆ เหมือน Panasonic Lumix GF10 แต่ว่าในรุ่น Panasonic Lumix GF9 ก็ยังมีโหมด Selfie ทั้งหลายเหมือนเดิม แล้วดีไซน์ก็เหมือน ๆ กันครับ ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่
สำหรับคนที่ถามว่า Panasonic Lumix GF9 จะเอาไปถ่ายภาพแบบทั่วไปได้ไหม ก็ได้หมดครับ เพราะว่าความสามารถก็ไม่ได้ต่างกันกับกล้อง Mirrorless อื่น ๆ เลย เซ็นเซอร์เป็น Micro 4/3 แล้วก็สามารถใช้โหมดต่าง ๆ ได้เหมือนกับกล้องปกติ จะถ่ายภาพเที่ยว หรือวิวก็ทำได้สบาย ๆ
รีวิว Panasonic Lumix GF9
จุดเด่นของ Panasonic Lumix GF9 มีอะไรบ้าง ? กล้อง Panasonic Lumix GF9 ดีไหม?

- ความละเอียด 16 ล้าน เซ็นเซอร์ Micro 4/3 ไม่มี Low-Pass Filter
- ระบบ Auto Focus 49 จุด แบบ Contrast Detection
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 5.8 วินาที
- ชัตเตอร์แบบ Mechanic Shutter ได้ 1/500 สำหรับ Electronic Shutter ได้ 1/16000
- หน้าจอแสดงผล 3 นิ้ว พับ Selfie ได้ รองรับทัชสกรีน
- บันทึกวีดีโอแบบ 4K ได้สบาย ๆ พร้อม 4K Photo, 4K Panorama
ข้อสังเกต Panasonic Lumix GF9
- เป็นรุ่นเก่าแล้วหลายคนอาจจะไม่ชอบ และแบตเตอรี่เล็ก อาจจะต้องใช้ 2-3 ก้อนเพื่อใช้งานต่อวันสำหรับคนถ่ายภาพเยอะ

Panasonic Lumix GF9 ดีไหม เหมาะกับใครบ้าง
กล้องตัวนี้เป็นกล้องที่ดีตัวนึงอีกเหมือนกัน คล้าย ๆ กับ Panasonic Lumix GF10 รุ่นที่ใหม่กว่า แต่รุ่นนี้อาจจะไมได้อัพเดตบางความสามารถเรื่องการ Selfie แต่ภาพรวมแล้วก็ยังสามารถที่จะถ่าย Selfie ได้อย่างสนุกสนานเหมือนกัน เซ็นเซอร์ขนาด Micro 4/3 ยุคนี้สามารถถ่ายภาพได้ดีทั้งภาพ Portrait, Landscape, Travel
Panasonic Lumix GF9 ราคา 15,000 – 19,000 บาท ราคาประกันศูนย์นะ ให้เลือกดูโปรโมชั่นในแต่ละเดือนก่อนซื้อด้วยครับ บางร้านต่อราคาได้ ถ้าราคาเต็มตอนเปิดตัวจะสูงกว่านี้ (แต่ไม่รู้จะใส่ไปทำไมกล้องรุ่นเก่าอ่ะ)
Fujifilm X-A3 กล้องสาย Selfie สำหรับคนที่อาจจะไปไม่ถึง Fujifilm X-A5 ให้เลือก Fujifilm X-A3 แทนก็ได้
จริง ๆ Fujifilm X-A3 เป็นกล้อง Selfie ที่ดีนะ คุณภาพดีเลยแหละ แล้วก็มีการปรับโทนของ Skin Tone เวลาถ่าย Selfie ได้ดีขึ้นด้วยจาก Firmware ล่าสุด แล้วด้วยที่รุ่นล่าสุดเป็น Fujifilm X-A5 ก็ทำให้ Fujifilm X-A3 ปรับลดราคาลงมาให้เอื้อมได้ง่ายขึ้นสำหรับคนที่อยากได้กล้องราคาถูก คุ้ม ๆ แล้วได้ฟังก์ชั่นแบบเกินพอ

สำหรับกล้อง Fujifilm X-A3 เนี่ย เซ็นเซอร์ APS-C ซึ่งก็ใหญ่ในระดับกล้องกึ่งโปรเลยแหละ สามารถที่จะถ่ายภาพได้หลากหลายแนวทั้ง Portrait, Landscape แล้วดีไซน์เน้นท่องเที่ยว สวย เหมาะกับผู้หญิง อีกทั้งการผลิตของ Fujifilm ก็ยังเป็นเซ็นเซอร์ APS-C ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นไปจนถึงกล้องระดับโปรด้วย ก็เลยทำให้เรามีเลนส์ดี ๆ ให้ใช้เยอะเลยครับ
รีวิว Fujifilm X-A3
จุดเด่นของ Fujifilm X-A3 มีอะไรบ้าง ? กล้อง Fujifilm X-A3 ดีไหม?
- ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล เยอะมากพอจะถ่ายภาพหลากหลายแบบได้สบาย ๆ ทั้ง Portrait และ Landscape
- เซ็นเซอร์ขนาด APS-C สามารถที่จะถ่ายภาพละลายหลังได้ดี แล้วก็ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น
- หน้าจอ LCD 3.0 แบบทัชสกรีน และพับมาถ่าย Selfie ได้
- จุดโฟกัสแบบ Contrast Detection Auto Focus 77 จุด
- ชัตเตอร์แบบ Mechanic ได้สูงสุดที่ 1/4000 และ Electronic Shutter 1/32000
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 3 ภาพต่อวินาที
- ถ่ายวีดีโอได้แบบ Full HD 60 FPS
- รองรับการชาร์จผ่าน USB
ข้อสังเกต Fujifilm X-A3
- กล้องรุ่นนี้อาจจะเก่าหน่อย หลายคนอาจจะไม่ชอบมากนัก แต่เป็นกล้องที่ดีนะสำหรับคนที่งบจำกัดอยากได้กล้องแบบคุ้ม ๆ อาจจะต้องพิจารณาดู

Fujifilm X-A3 ดีไหม ยังน่าใช้หรือเปล่า
แม้ว่ากล้องรุ่นนี้อาจจะดูเก่าไปบ้าง แต่ถ้าหากว่าเราชอบที่จะถ่าย Selfie แต่ไม่มีงบสูงมาก การเลือกใช้กล้องรุ่นนี้ก็จะทำให้เราได้กล้อง Selfie ราคาประหยัด ได้ภาพสวย แล้วก็กล้องตัวนี้สามารถถ่ายภาพสนุกได้ในทุกแบบ ไม่ว่าจะถ่ายวิว ถ่ายตัวเอง ท่องเที่ยว และดีไซน์ก็ยังสวยอีกด้วย
Fujifilm X-A3 ราคา 16,000 – 19,000 บาท ประกันศูนย์ แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นหนัก ๆ ก็จะลดเยอะหน่อย
Panasonic Lumix G85 กล้อง Mirrorless ตัวเก่งสำหรับมือใหม่ที่ต้องการคอนเทนต์ Video และ Photo ในราคาสบายกระเป๋า

เป็นกล้อง Mirrorless ที่ออกมาสักระยะใหญ่ ๆ แล้วสำหรับ G85 จุดเด่นกล้องตัวนี้คือเป็นกล้องขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพราะใช้เซ็นเซอร์ขนาด Micro 4/3 แล้ว Position ที่ Panasonic ทำได้ดีมาตลอดทั้งกล้องเล็กและกล้องใหญ่ก็คือเรื่องของ Video กล้องตัวนี้ได้ใส่วีดีโอระดับ 4K มาให้ด้วย พร้อมกันสั่นภายในตัวกล้อง สำหรับคนที่ทำคอนเทนต์เที่ยวทั้งภาพนิ่งและวีดีโอน่าจะชอบกล้องตัวนี้มาก ๆ
ความละเอียดกล้องตัวนี้จะอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล ซึ่งมากพอสำหรับการใช้ทั่วไป ถ่ายภาพท่องเที่ยว รีวิวครับผม และเซ็นเซอร์กล้องตัวนี้ไม่มี Low Pass Filter ทำให้กล้องตัวนี้มีความคมมากขึ้นกว่ากล้องที่ีมี Low Pass Filter นั่นเองครับ
จุดเด่นอีกเรื่องที่กล้องตัวนี้มีก็คือเรื่องของกันสั่นแบบ 5 แกนภายในตัวกล้องเลยทำให้การถ่ายวีดีโอและภาพนิ่งโอเคมาก ๆ นั่นเองครับ ถ้าใครมีงบจำกัดแล้วอยากได้กล้องวีดีโอที่ถ่ายภาพนิ่งสวย ๆ ได้ด้วยก็ต้องตัวนี้เลย
รีวิว Panasonic Lumix G85
จุดเด่นของ Panasonic Lumix G85 มีอะไรบ้าง กล้องรุ่นนี้ดีไหม ?
- กล้องตัวนี้มีความละเอียดที่ 16 ล้านพิกเซล ซึ่งเพียงพอกับการใช้งานปัจจุบัน
- ใช้เซ็นเซอร์แบบไม่มี Low Pass Filter ทำให้ได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น
- ระบบกันสั่น 5 แกนในตัวกล้องทำงานค่อนข้างดีพอสมควร เพราะเซ็นเซอร์ 4/3 น้ำหนักเบา ทำให้กันสั่นทำงานได้นิ่งมาก โดยเฉพาะการถ่ายวีดีโอนี่สามารถทำคอนเทนต์ดี ๆ ได้เลย
- รองรับวีดีโอแบบ 4K ทำให้สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงเอามาทำวีดีโอท่องเที่ยวรีวิวได้สบาย
- มีระบบโฟกัสหน้าและตา Face Detection และ Eye Detection
- บอดี้่ออกแบบเน้นการใช้งาน แต่ว่าน้ำหนักเบามาก เหมาะกับการเดินทางท่องเที่ยว
- หน้าจอปรับมุมมองได้อิสระ ทำให้สามารถที่จะถ่าย Video LOG (VLOG) ได้สบายมาก
- มีความสามารถ Focus Stacking ซึ่งสะดวกมากกับการถ่ายภาพสินค้าหรือถ่าย Macro
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 9 ภาพต่อวินาที
- มีช่องเสียบไมโครโฟนสำหรับการต่อไมค์แยก เพิ่มคุณภาพการรับเสียงที่ละเอียดขึ้น
ข้อสังเกต Panasonic Lumix G85
- กล้องรุ่นนี้ออกมาสักระยะแล้ว หลายคนอาจจะไม่ชอบ ส่วนความคุ้มค่า ค่อนข้างเยอะเลย

กล้อง Panasonic Lumix G85 รุ่นนี้เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการกล้องสำหรับงานผลิตคอนเทนต์วีดีโอครับ เพราะว่ากล้องตัวนี้ไปทางนั้นจริง ๆ แล้วต้องการถ่ายภาพนิ่งบ้าง จะทำให้คุณได้กล้องที่คุ้มราคาครับ ที่สำคัญ กล้องตัวนี้สามารถที่จะต่อไมค์แยกและมีระบบกันสั่นในตัวกล้องที่ทำงานได้โอเคในงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัดครับ
Panasonic Lumix G85 ราคา 37,900 บาท (ประกันศูนย์) แต่คิดว่าตอนนี้ถูกลงกว่านี้เยอะครับ ดูโปรโมชั่นตามร้านต่าง ๆ ดูได้เลย
Panasonic Lumix GX9 กล้องแนวสตรีทเรโทร สำหรับคนที่ชอบเที่ยวและดีไซนืเน้นสาย Street

กล้องอีกรุ่นที่น่าสนใจสำหรับสายท่องเที่ยวครับ เพราะ Panasonic Lumix GX9 ตัวนี้มีการออกแบบเน้นไปที่ความสบาย เรียบหรู ไม่เตะตา ทำให้กล้องตัวนี้เป็นหนึ่งกล้องที่ได้รับความนิยมสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพแนว Street Photography
นอกจากเรื่องความสวยงาม และความสามารถในการถ่ายภาพนิ่งแล้ว กล้องตัวนี้ยังได้ใส่ระบบ 4K มาแบบจัดเต็มอีกด้วย เอาตรง ๆ ก็คือกล้องตัวนี้ไม่ได้มีดีแค่การถ่ายภาพ Street หรือการถ่ายภาพนิ่งเพียงอย่างเดียวครับ
รีวิว Panasonic Lumix GX9
เราได้เคยรีวิวกล้อง Panasonic Lumix GX9 แบบละเอียดมาแล้ว สามารถที่จะอ่านรีวิว Panasonic Lumix GD9 ที่นี่ได้เลยครับ สำหรับสายสตรีทห้ามพลาดเลยแหละ
จุดเด่น Panasonic Lumix GX9
- การออกแบบให้มีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นที่ผ่านมา แล้วก็ดีไซน์แนวย้อนยุคครับ อารมณ์กล้อง Range Finder
- 4K Photo ถ่ายภาพต่อเนื่อง 30 ภาพต่อวินาทีเป็นเทคโนโลยีที่โดดเด่นของ Panasonic ซึ่งสามารถใช้ถ่ายภาพแบบจริงจังได้สบายครับ
- ระบบกันสั่นภายในตัวกล้องแบบ 5 แกน เป็นระบบ Hybrid Stabilization System
- หน้าจอแสดงผลรองรับการสั่งด้วยระบบสัมผัส ใช้งานง่ายเหมือน Smartphone แล้วก็การตอบสนองรวดเร็ว
- ภายในตัวกล้องออกแบบให้มีแฟลชภายในตัว สามารถใช้งานได้ดีในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องใช้แฟลชหัวกล้อง
- การโฟกัสรวดเร็วมาก 0.07 วินาที ถือว่าเร็วมาก ๆ สำหรับกล้องระดับนี้ครับ
- เซ็นเซอร์มีความคมที่มากขึ้น เนื่องจากได้ทำการถอด Low-Pass Filter ออก เพื่อให้ได้ภาพที่คมกริบที่สุด และเซ็นเซอร์แบบไม่มี Low-Pass Filter นี้จะมีอยู่ในกล้องระดับโปร ที่คาดหวังคุณภาพรูปที่สูง
- หน้าจอ EVF (Electronic View Finder) ถูกออกแบบมาให้ปรับมุมมองได้เหมือน Panasonic Lumix GX8 ซึ่งเป็นดีไซน์สไตล์กล้องสาย Street เลย
- ความละเอียดถือว่าที่สุดของเซ็นเซอร์ในระดับนี้คือ 20.3 ล้านพิกเซล บนเซ็นเซอร์ขนาด Micro Four Third

ข้อสังเกต Panasonic Lumix GX9
สำหรับคนที่ไม่ได้ชอบกล้องทรง Retro อาจจะดูว่ามันไม่โดดเด่นเท่าไหร่ครับ เพราะมันดูเรียบหรูมากกว่า

Panasonic Lumix GX9 กล้องรุ่นนี้เหมาะกับใคร
จะว่าตามตรงกล้องรุ่นนี้ก็เหมาะกับคนที่รู้ตัวเองอยู่แล้วว่าชอบถ่ายอะไร เพราะกล้องตัวนี้จะออกแบบมาเน้นเบา ง่าย เรียบหรู เน้นไปท่ีการเดินทางท่องเที่ยวของเรามากกว่าครับ สำหรับคนที่รักกล้องตัวนี้ก็จะตัดสินใจเลือกได้ไม่ยากเลย ส่วนเรื่องภาพนิ่งและวีดีโอทำได้ดีพอสมควร สามารถดูรีวิว Panasonic Lumix GX9 ได้นะครับ
Panasonic Lumix GX9 ราคา 33,990 บาท (ถ้าช่วงโปรโมชั่นในปี 2019 จะลดเยอะกว่านี้บ้าง สามารถสอบถามตามร้านต่าง ๆ ได้ครับ)
กล้อง Canon EOS M10 กล้องระดับเริ่มต้นสำหรับคนชอบถ่ายภาพง่าย ๆ เน้นท่องเที่ยว สบายกระเป๋าทั้งน้ำหนักและราคา

เรียกได้ว่ากล้องตัวนี้ก็มีการพูดถึงเป็นระยะ แต่ไม่ได้ดังอะไรมากตั้งแต่ออกมาจนมาถึงปี 2019 แล้วแหละ เอาจริง ๆ มีคนพูดถึงกล้องตัวนี้อยู่นะ แต่จะเป็นกลุ่มที่เขาไม่ได้ต้องการกล้องที่ใหม่ล่าสุดมาก และเน้นที่ราคากับคุณภาพคุ้มค่าจริง ๆ
ความละเอียดกล้องตัวนี้อยู่ที่ 18 ล้านพิกเซล ซึ่งถือว่าโอเคสำหรับการใช้งานท่ัวไปแล้วแหละ มาพร้อมเลนส์คิต 15-45mm เรียกได้ว่าระยะทั่วไปสำหรับการถ่ายภาพ ถ่ายภาพสวย ๆ ได้ไม่ต้องห่วงครับสำหรับกล้องตัวนี้ จุดเด่นคือกล้องตัวนี้มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบามากสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวสามารถที่จะพกพาไปไหนต่อไหนก็ได้ครับ
ระบบโฟกัสกล้องตัวนี้จะใช้ Hybrid CMOS AF II จุดโฟกัสที่ 49 จุด ซึ่งก็เหมาะกับกล้องระดับมือใหม่นั่นเองครับ
รีวิวกล้อง Canon EOS M10
จุดเด่นกล้อง Canon EOS M10 ดีไหม มีอะไรน่าสนใจบ้าง
- ความละเอียดที่ 18 ล้านพิกเซลบนเซ็นเซอร์ APS-C ให้ความละเอียดที่ดี และทำภาพละลายหลังได้ค่อนข้างดีมาก
- บอดี้ออกแบบได้น่ารัก มีขนาดเล็ก เหมาะกับการพกพา เดินทางท่องเที่ยว
- เป็นกล้องที่ราคาน่ารักสำหรับมือใหม่ที่อยากได้กล้องง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน
- หน้าจอ Monitor พับไว้ถ่าย Selfie ได้สะดวก
ข้อสังเกตกล้อง Canon EOS M10
กล้อง Canon EOS M10 เป็นกล้องที่ออกมาสักระยะใหญ่ ๆ แล้วครับ เลยทำให้ไม่ได้รับความนิยมมาก อันนี้ต้องลองชังน้ำหนักส่วนตัวดูว่ารับได้ไหมกับเรื่องนี้ครับ
Canon EOS M10 ราคา 12,000 – 18,000 บาท (ประกันศูนย์) ต้องดูช่วงโปรโมชั่นครับ ปี 2019 นี้น่าจะมีลดกระหน่ำเยอะ ๆ พอสมควร
Canon EOS M5 กล้องระดับกึ่งโปรในภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับมือใหม่
กล้องตัวนี้เป็นกล้องที่อยู่ในระดับกึ่งโปรถ้ามองจากสเปคที่ให้มานะ แต่ด้วยความ Friendly ของกล้องตัวนี้ก็เลยทำให้มือใหม่หลายคนเลือกใช้เหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ขยับจาก DSLR มาทาง Mirrorless เลยทำให้กล้องตัวนี้มีจุดเด่นอย่างเห็นได้ชัดเจน

การออกแบบกล้องตัวนี้จะเป็นทรง SLR ครับ แต่ตัวเขาเป็น Mirrorless ครับ เหตุผลที่ต้องเป็นบอดี้แบบนี้ก็เพื่อการจับถือที่มั่นคงนั่นเอง ความละเอียดกล้องตัวนี้อยู่ที่ 24.2 ล้านพิกเซลซึ่งเยอะในกล้องระดับกลางของ Canon กันเลย พร้อมระบบกันสั่นแบบดิจิตอลที่มีมาให้ไว้สำหรับงานวีดีโอครับ
รีวิว Canon EOS M5
จุดเด่น CANON EOS M5 กล้องรุ่นนี้ดีไหม
กล้อง Canon EOS M5 เป็นกล้อง Mirrorless ที่สามารถถ่ายภาพได้หลากหลาย สามารถที่จะถ่ายภาพแบบมืออาชีพได้เลย เพราะว่าให้ความละเอียดมาที่ 24.2 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ขนาด APS-C – สามารถที่จะใช้เป็นกล้องถ่ายวีดีโอได้ เพราะว่าความละเอียดแบบ Full HD ให้ภาพต่อเนื่องแบบ 60fps – น้ำหนักเบา ดีไซน์ SLR เน้นการถ่ายภาพได้สนุกมาก – หน้าจอปรับมุมมองได้
ข้อสังเกต CANON EOS M5
- ไม่มี 4K มาให้ครับ เจ็บปวดกับตรงนี้พอสมควร ไม่น่ากั๊กเล้ยยยย จริง ๆ

ใครที่เหมาะกับ CANON EOS M5
เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายภาพ แล้วอยากได้กล้องสบาย ๆ ทำได้รอบด้าน ทรง SLR ไม่ได้เน้นวีดีโอเป็นหลักแต่ก็สามารถถ่ายได้ดี กล้อง Canon EOS M5 เหมาะกับมือใหม่มากครับ
Canon EOS M5 ราคา 36,000 บาท (ประกันศูนย์) ต้องดูกระแสชั่วงนี้ครับน่าจะถูกลง
Sony A5100 นกฟีนิกซ์ ไม่ว่าจะกี่ปีก็ยังเอากล้องตัวนี้มาเทียบเหมือนเดิม
เอาจริง ๆ นะ ผมงงกับการที่กล้องตัวนี้ติดอันดับการเอามาเทียบเหลือเกิน เพราะเห็นหลายปีมาก ซึ่งตอนนี้กล้องรุ่นนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก แต่ว่ากระแสของการถามว่ากล้องรุ่นนี้ดีไหมยังมีอยู่ ก็เลยเอาใส่มาครับ คำถามคือ กล้องตัวนี้ดีไหมล่ะ?

รุ่นนี้ดีพอสมควรครับ เหมือน Sony มือลั่นใส่สเปคมาแรงเผื่อใช้หลายปีเลย ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล เล่นเท่ากล้อง Mirrorless ตัวเก่งของยุคนี้เลย แถมเซ็นเซอร์ APS-C ด้วย คือใช้ถ่ายจริงจังได้ แต่พี่แกดันสามารถที่จะถ่าย Selfie ได้อีกต่างหาก แถมถ่ายสวยด้วยนะ ก็เลยกลายเป็นกล้อง Overall ที่แบบลุยได้หมดครับ
ส่วนวีดีโอจะทำได้ที่ระดับ Full HD เท่านั้น อันนี้คือเพราะเปิดมานานแล้วแหละในยุคที่ 4K ไม่ได้นิยมเท่าปัจจุบัน ก็กลายเป็นว่ามีจุดที่ต้องสังเกตกันตรงนี้ไปครับ
รีวิว Sony A5100
จุดเด่นกล้อง Sony A5100 ดีไหม มีอะไรน่าสนใจบ้าง
- ความละเอียดสูง 24.3 ล้านพิกเซล มันเยอะเท่ากับกล้องรุ่นใหม่เลย
- ระบบโฟกัสเทพมาก 179 จุด Phase Detection
- มีโหมดหน้าเนียน
- หน้าจอพับ Selfie ได้สบาย
- สามารถเชื่อมต่อ NFC, WiFi
- โปรโมชั่นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะว่ากล้องหลายปีแล้ว
ข้อสังเกต Sony A5100
- กล้องหลายปีแล้วครับ เทคโนโลยีบางอย่างเก่า เช่น วีดีโอ เพราะถ่าย 4K ไม่ได้ เป็นต้น
Sony A5100 เหมาะกับใครบ้าง
ตอนนี้ถ้าจะแนะนำกล้องตัวนี้กับเพื่อนผมจริง ๆ ผมจะให้เลือกตามราคาเป็นหลักครับ ถ้าในระดับราคาเนี่ยถือว่าน่าสนใจอยู่กับสเปคที่ได้ แต่มีข่าวแว่ว ๆ ว่า Sony A5100 รุ่นใหม่น่าจะมา (น่าจะในชื่อ A5300,A5500 หรือเปล่าไม่แน่ใจ) ไว้ข่าวมาอีกทีจะแจ้งให้ทราบครับ
Sony A5100 ราคา 15,000 – 19,000 บาท (ประกันศูนย์) อันนี้แล้วแต่เจอช่วงราคาพิเศษนะครับผม
2. กล้อง Mirrorless 2019 ระดับโปร สำหรับสายภาพนิ่งเป็นหลัก
ในส่วนของเนื้อหานี้ผมจะเน้นไปที่กล้องระดับโปรสำหรับงานภาพนิ่งเป็นหลักซึ่งจะมีกล้อง Full Frame, APS-C และ Micro 4/3 ด้วย ซึ่งผมจะเรียงตามแบรนด์เพื่อความง่ายในการจัดเรียงนะครับ สำหรับกล้อง Mirrorless 2019 สำหรับสายภาพนิ่งก็มีตามนี้
Sony A9 เรียกว่าสุดของจริงสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง
กล้องตัวนี้แม้เวลาจะผ่านไปสักระยะนึงใหญ่ ๆ มาแล้วแต่ Sony A9 ก็ยังเป็นกล้องระดับสูงที่หลายคนอยากจะไปให้ถึงให้ได้ ซึ่งความละเอียดกล้องตัวนี้อยู่ที่ 24.2 ล้านพิกเซล ดูจะไม่ได้ตื่นเต้นอะไรมากแต่พี่แกดันถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 20 เฟรมในวินาทีเดียว แถมเซ็นเซอร์ Full Frame อีก แถมช่องมองภาพที่ไม่มี Blackout เป็นสวรรค์ของคนใช้ Mirrorless เลยทีเดียวเชียว

ยังไม่พอแค่นั้นเอาจุดโฟกัสเติมไปอีกที่ 693 จุด เรียกได้ว่า “โคตรแม่น” มันคือที่สุดของที่สุดในความเป็นศักดิ์ศรีของ Sony ละ ที่เหลือก็กันสั่น 5 แกน กับการถ่ายภาพแบบ 4K คือมัน Overall มาก ๆ นะ สำหรับกล้องตัวนี้
รีวิว Sony A9 – Real World Review
จุดเด่นกล้อง Sony A9
- ภาพเนี๊ยบ รัวได้ 20 เฟรมต่อวินาที ความละเอียดเหลือเฟือกับการใช้งานระดับโปร
- ไม่มี Flicker เวลาถ่ายภาพด้วย Electronic Shutter
- จุดโฟกัสคลุม 93% ของทั้งเฟรม คือมันโหดมาก
- มีระบบกันสั่น 5 แกน ใช้งานได้จริง
- วีดีโอ 4K เผื่อว่าใครอยากเอาไปถ่ายวีดีโอจริง ๆ ก็ใช้งานได้ดีเหมือนกัน
- มันถูกออกแบบมาให้ใช้งานหนักได้สบายมาก คือรับงานอะไรกล้องตัวนี้ก็ไปได้ไหม
- ไม่มี Blackout (กล้องมิลเรอร์เรสเวลาถ่ายภาพมันจะมีจังหวะที่กล้องลั่นชัตเตอร์เกิดภาพดำขึ้น ทำให้เสียจังหวะการถ่าย)

จุดสังเกตกล้อง Sony A9
ราคายังอยู่ในระดับพระเจ้าอยู่(โดยเฉพาะอย่างผมคนงบไม่หนักมาก) ซึ่งเป็นกล้องที่หลายคนยังจดจ่อกับกล้องรุ่นนี้ แต่ก็ต้องรอกำลังทรัพย์ไปให้ถึง
Sony A9 ราคา 149,990 – 129,990 บาท แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นนะ ต้องรอจังหวะให้ดีอาจจะได้ของดีราคาคุ้มนะคร้าบ
Sony A7R III ตัวสุดด้านความละเอียดและความเร็วที่ผสานกันได้อย่างลงตัว
กล้องที่ผสานความละเอียดและความเร็วมาอย่างลงตัวมาก ๆ อย่าง Sony A7RIII ทำไมรุ่นนี้ถึงมีความสนใจมากขนาดนั้น ก็ตรงที่กล้องตัวนี้ให้ความละเอียดมาที่ 42 ล้านพิกเซลสำหรับคนที่รักความละเอียดเป็นพิเศษ นอกจากนี้แล้วเขาถูกอัพเกรดความเร็วขึ้นเยอะกว่ารุ่นก่อน สามารถถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 ภาพต่อวินาทีได้ด้วย ทำให้กล้องตัวนี้กลายเป็นจุดแข็งของแบรนด์นี้ที่ตีตลาดคนรักกล้องความละเอียดสูง และมีความเร็วรองลงมาจาก Sony A9 นั่นเอง

เสียงชัตเตอร์รุ่นนี้เพราะมากขึ้น ใช้สนุก มันส์มือมาก กันสั่นทำงานได้ดีขึ้นจากรุ่นก่อนประมาณนึง ที่สำคัญคือมีความสามารถ Pixel Shift คือเอาภาพมาซ้อนกัน เป็นเทคโนโลยีในการขยับเซ็นเซอร์ จากนั้นจะได้ภาพที่ละเอียดมากขึ้นโคตร ๆ นอกจากนี้ VDO 4K ก็ไม่ได้กั๊กนะ ถ่าย S-Log 3 ได้ด้วย สามารถใช้ทั้งงานวีดีโอแล้วก็งานภาพนิ่งได้สบาย ๆ เลยจ้า
รีวิว Sony A7RIII
Sony A7R III ดีไหม มีจุดเด่นอะไรบ้าง
- ความละเอียด 42.2 ล้าน ที่มาพร้อมความสามารถ Pixel Shift ที่ให้รายละเอียดมากขึ้นเท่าเดิม โดยจะถ่ายภาพ 4 ภาพ รวมเป็นภาพเดียว ซึ่งดีเทล์ดีขึ้นเยอะเลย
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 10 ภาพต่อวินาที ทำให้จังหวะในการถ่ายภาพดีขึ้นมากเลยแหละ
- ถ่ายวีดีโอ 4K มี S-Log3 ทำ Grading สีได้มากขึ้น เหมาะกับคนที่อยากได้กล้องละเอียดและแอบเอาไปถ่ายวีดีโอได้
- จุดโฟกัสเพิ่มเป็น 425 จุด เยอะมากแล้วแหละ
- แบตเตอรี่เป็นรุ่นใหม่ของทาง Sony อึดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยทีเดียว
ข้อสังเกต Sony A7RIII
ไฟล์ใหญ่มาก เวลารัว ๆ ต้องใช้เวลาเลือกภาพนานนะ (Post Process) และก็ต้องเตรียมตัวเผื่อพื้นที่เก็บข้อมูลมากพอสมควรเลยแหละ

Sony A7R III ราคา 99,990 บาท – 89,990 บาท (ประกันศูนย์) จากราคาเปิดตัว 114,990 บาท ตอนนี้มีโปรดันตัวนี้เยอะขึ้น ใครชอบกล้องคุ้ม ๆ ต้องลองหาช่วงเวลาโปรมาซื้อกล้องตัวนี้นะครับ
Sony A7 III เขาว่ากล้องระดับเริ่มต้น แต่สเปคเทพมาแต่ไกล กินเรียบทั้งตลาดกล้อง Full Frame ระดับเริ่มต้น
กล้อง Sony A7 III เรียกได้ว่าเป็นกล้องที่ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ทั้งด้านการรับงานและสำหรับคนที่เริ่มจะ Start กับกล้อง Full Frame ก็มักจะมาจบที่ตัวนี้เพราะว่าเขาวาง Spec และ Position กล้องตัวนี้ได้คุ้มค่ามาก ๆ

ความละเอียดของ Sony A7 III อยู่ที่ 24.2 ล้านพิกเซล บนเซ็นเซอร์ขนาด Full Frame ซึ่งเยอะพอที่จะใช้ในทุก ๆ งานได้อย่างสบาย ๆ แล้วก็ความสามารถในการถ่ายวีดีโอแบบ 4K ก็เหลือ ๆ จุดโฟกัสที่ให้มา 693 จุดแบบ Phase Detection และ Contrast Detection อีก 425 จุดนั่นเอง นอกจากนี้รองรับทั้ง UHS-II และถ่ายวีดีโอแบบ S-Log 3 ได้ด้วย เอาไว้เกรดดิ้งงานเทพ ๆ เลย
รีวิว Sony A7III
จุดเด่นกล้อง Sony A7III รุ่นนี้ดีไหม มีอะไรน่าสนใจบ้าง
- เซ็นเซอร์ Full Frame ที่ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล ที่ใช้ได้กับหลาย ๆ งานในปัจจุบัน
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 ภาพต่อวินาที ซึ่งเยอะพอจะเอาไปรัวงานแต่งได้สบาย ๆ
- จัดการ Noise ได้ดีมาก แม้ว่าจะใช้ ISO สูงก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไฟล์สวย
- ระบบโฟกัสยอดเยี่ยมมาก 4D Focus 693 จุด และ Contrast Detection 425 จุด
- ถ่ายภาพความละเอียดแบบ 4K 30FPS และ Full HD 120FPS
- ช่องใส่การ์ด 2 ช่อง รองรับ UHS-II Memory Card ซึ่งเร็วมาก
- แบตเตอรี่อัพเกรดใหม่จากรุ่น Sony A7II ทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้น อึดขึ้นกว่าเดิม

ข้อสังเกต Sony A7III มีอะไรบ้าง
ตอนนี้กล้องรุ่นนี้ยังเป็นตัวที่หาข้อติยาก เพราะราคากับคุณภาพสมดุลกันค่อนข้างมาก เป็นจุดเด่นของ Sony ที่ทำให้ยอดขายดีเลยแหละ แต่ถ้าจะติจริง ๆ คงเป็นเรื่องของบอดี้ทรง SLR จะจับได้ถนัดมือมากกว่าครับ
Sony A7III ราคา 68,000 – 59,000 บาท (ประกันศูนย์) แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นว่าจะเจอโปรลดขนาดไหนนะ ลองหาดูครับ
Sony A7R II กล้องตัวคุ้มสำหรับสาย Photo ความเร็วปานกลาง แต่ความละเอียดจัดเต็มที่ 42 ล้านพิกเซล แถมราคาถูกลงกว่าเดิมเยอะ
กล้อง Sony A7R II เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นตัวคุ้มมาก ๆ สำหรับคนที่เน้นสาย Photo โดยเฉพาะ ต้องการไฟล์ละเอียดยิบ ๆ ราคาคุ้มที่สุดในช่วงเวลานี้ แถมด้วยการถ่ายวีดีโอ 4K ได้อีก สำหรับกล้องตัวนี้จริง ๆ แล้วมีความโดดเด่นเรื่องความละเอียดไม่แพ้ A7R III รุ่นล่าสุดเลย แต่ต่างกันตรงที่ความเร็วของการถ่ายต่อเนื่องจะน้อยกว่าเท่านั้น

ด้านความละเอียดอยู่ที่ 42 ล้านพิกเซล เยอะแล้วล่ะ เยอะพอจะทำให้ Memory Card ของท่านเต็มกันได้แบบง่าย ๆ เลย ฮ่า ๆ ส่วนการถ่ายวีดีโอมีความสามารถในการถ่ายความละเอียดระดับ 4K ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถที่จะต่อ Microphone แยก สำหรับคนที่อาจจะต้องเลือกถ่ายวีดีโอกันจริง ๆ จัง ๆ บ้างครับ ซึ่งกล้องตัวนี้เป็นอีกตัวหนึ่งที่คุ้มค่ามาก แนะนำเลยถ้าใครถ่าย Landscape ไม่ได้รัวภาพมากมาย ตัวนี้ลงตัวสุดละ
รีวิว Sony A7R II
จุดเด่น Sony A7R II มีอะไรบ้าง รุ่นนี้ดีหรือเปล่า
- ความละเอียด 42 ล้านพิกเซล เหมาะกับคนที่ชอบงานละเอียด ถ่ายภาพในสตูดิโอ งานแต่งที่ไม่ได้เน้นความเร็วมากมาย หรือการถ่ายภาพ Landscape
- ราคาถูกลงเพราะมีรุ่นใหม่กว่ามาแล้ว และระยะเวลากล้องตัวนี้นานหน่อย ๆ คุ้มแน่นอน
- ถ่าย 4K S-Log 2 เอามาทำสีได้ดีพอสมควร ใครที่ถ่ายวีดีโอแล้วอยาก Grading ด้วย แนะนำเลยจ้า
- มีกันสั่น 5 แกน ใช้กับงานวีดีโอได้ดีประมาณนึง จะดียิ่งขึ้นถ้าใช้กับ Gimbal Stabilizer
- จุดโฟกัส Phase Detection 399 จุด เยอะพอที่จะโฟกัส Tracking อะไรที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ อย่างนก หรือว่ารถ (แต่ด้วยความเร็วของการถ่ายภาพต่อเนื่องกล้องไม่ได้เหมาะไปทาง Sport เท่าไหร่เน้อ)
- มีช่องเสียบไมโครโฟนแยก สำหรับการถ่ายวีดีโอที่เน้นคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น หรือการใช้ไมโครโฟนแบบไร้สาย
ข้อสังเกต Sony A7R II
กล้องตัวนี้ไม่ได้แบตอึดเหมือนรุ่นใหม่ อาจจะต้องยอมรับตรงนี้ครับ

Sony A7R II รุ่นนี้เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับคนที่ถ่ายภาพเน้นความละเอียดเป็นหลัก และไม่ได้แคร์เรื่องการถ่ายภาพต่อเนื่องที่มากมายนัก อาจจะเอาไว้รับงานถ่ายปริญญา ถ่ายงานแต่งได้ จริง ๆ ถ้าไม่แคร์เรื่องการถ่ายภาพต่อเนื่องมากมาย กล้องตัวนี้ถ่ายได้หมดแหละ
Sony A7R II ราคา 69,990 – 59,990 บาท (ประกันศูนย์) แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นนะว่าจะเจอราคาเท่าไหร่ แต่ราคาช่วงนี้ครับ
Sony A7II กล้อง Full Frame ระดับเริ่มต้นที่น่ามอง ราคาคุ้มค่า
กล้องตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นตัวคุ้มสุดอยู่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มมาจับ Full Frame นะครับ เพราะว่าสเปคที่ให้นี่ก็เพียงพอที่จะทำให้เราได้ถ่ายภาพโดยได้มิติ Full Frame ความละเอียดที่มากับตัวกล้อง Sony A7 II ตัวนี้คือ 24.2 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดในระดับที่โอเคเลย

นอกจากนี้ยังถ่ายวีดีโอได้ดีในระดับนึง คือ Full HD 1920×1080 (60p/60i/30p/24p) ซึ่งโอเคครับ เป็นกล้อง Full Frame ระดับ Basic ที่หลาย ๆ คนสามารถเอื้อมถึงได้ง่าย ๆ แล้ว นอกจากนี้ยังต่อไมโครโฟนแยกได้อีกด้วย
รีวิว Sony A7II
จุดเด่น Sony A7II ดีไหม มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
- ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล เยอะพอจะถ่ายอะไรก็ได้ในตอนนี้ แล้วเป็น Full Frame ด้วยนะ
- ถ่ายวีดีโอความละเอียดระดับ Full HD สูงสุดที่ 60FPS
- ต่อไมโครโฟนแยกภายนอกได้ สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มคุณภาพเสียง
- เป็นกล้อง Full Frame ที่ราคาลดลงมาเยอะมาก ๆ เลยทีเดียว
ข้อสังเกต Sony A7II
กล้องรุ่นนี้ไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด เพราะงั้นเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างบางคนอาจจะรับไม่ได้ เช่น 4K ถ่ายไม่ได้ (แต่บางคนก็บอกไม่จำเป็น อันนี้แล้วแต่คนแหละ) แล้วก็มีเรื่องของแบตเตอรี่ เพราะใน Sony Alpha Series Gen2 แบตเตอรี่ยังเป็นแบบเก่าอยู่ครับ บางคนอาจจะหงุดหงิดเรื่องแบตเตอรี่

Sony A7II กล้องรุ่นนี้เหมาะกับใครบ้าง
กล้องรุ่นนี้เหมาะกับคนที่อยากจะเริ่มกับกล้อง Full Frame ในราคาที่ไม่ได้สูงไปมากนัก และมีทุกอย่างให้ใช้แบบคุ้ม ๆ แหละ ทั้งด้านภาพนิ่งและการถ่ายวีดีโอครับ
Sony A7II ราคา 43,000 – 39,000 บาท (ประกันศูนย์) อันนี้อิงจากช่วงที่เคยเห็นราคาโปรโมชั่นในงานนะครับ
Sony A6500 กล้องสายความเร็วที่แม้่เซ็นเซอร์ APS-C แต่ความสามารถยังระดับโปรอยู่เลย
กล้องตัวนี้ติดอันดับกล้องโปรด้วยเหรอ ผมยกให้ติดครับ แม้ว่าด้านบนจะบอกว่าเป็นกล้องมือใหม่ด้วย แต่สำหรับคนรับงานก็เข้าข่ายเหมือนกัน เพราะว่ากล้องตัวนี้เหมาะกับการที่จะถ่ายถาพรับงานได้ดี น้ำหนักเบา จริง ๆ ผมมองว่าเป็นกล้องสองสำรองถือว่าโอเคมาก ๆ จุดเด่นคือ Sony A6500 มีความละเอียด 24 ล้านพิกเซลครับ แล้วก็ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 11 เฟรมต่อวินาที ทำให้มันรัวได้หนักหน่วงมาก แถมมีระบบกันสั่นภายในตัวเอง เลยเหมาะกับการเป็นกล้องสาย Speed สำหรับคนที่ไม่ได้ซีเรียสเรื่องขนาดเซ็นเซอร์่ว่าต้อง Full Frame เพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้กล้องตัวนี้ถ่ายวีดีโอที่ 4K ได้ แล้วก็มี S-Log ให้ใช้ด้วย ต่อไมโครโฟนแยกก็ได้อีกต่างหาก คือเป็นกล้องที่ครอบคลุมในการใช้งานที่สุด ๆ ตัวนึง เพียงแต่เป็นเซ็นเซอร์ APS-C เท่านั้นเองครับ
รีวิว Sony A6500
จุดเด่น Sony A6500
- กล้องตัวนี้มีประสิทธิภาพสูง ทั้งความสามารถในด้านภาพนิ่งและวีดีโอ รวมถึงระบบกันสั่นที่ทำงานได้ดีในระดับนึงเลย อีกทั้งยังมี Buffer ให้เยอะมากสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง พวกงาน Sport ทั้งหลาย
- ความละเอียดกล้องตัวนี้ 24 ล้านพิกเซล ที่มากพอจะเอาไปถ่ายรับงานได้สบาย
- บอดี้น้ำหนักเล็ก เป็นจุดเด่นของกล้องรุ่นนี้ อีกทั้งยังน้ำหนักเบา ทำงานได้ดี
- การถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 11 เฟรมภาพต่อวินาที เลยทำให้การถ่ายงานหลาย ๆ รูปแบบ ทำได้ดีมาก
- ระบบโฟกัสทำงานได้อย่างรวดเร็ว มั่นใจได้ กดชัตเตอร์รัว ๆ เปิดระบบโฟกัสแบบ tracking ทำงานได้ต่อเนื่องชชิล ๆ เลย
- รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ S-Log2, S-Log3 สามารถเอาวีดีโอไปทำ Grading ได้สบาย

ข้อสังเกต Sony A6500
กล้องรุ่นนี้เวลาถ่าย 4K กลางแดดจะร้อนง่ายมากถ้าถ่ายต่อเนื่อง เป็นข้อเสียของกล้องที่ทำให้เซ็งเอามาก ๆ ครับ
Sony A6500 กล้องรุ่นนี้เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่อยากได้กล้องที่เน้นความเร็ว ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สบาย ๆ ในราคาที่ไม่ได้สูงมาก ตอนนี้ราคาปรับลดมาถูกแล้ว และระบบโฟกัสของ Sony ในรุ่นนี้ไว้ใจได้แน่นอน
Sony A6500 ราคา 50,990 บาท (ประกันศูนย์) แต่ราคาโปรโมชั่นน่าจะถูกกว่านี้เยอะพอสมควร แนะนำติดตามโปรโมชั่นเอาไว้ด้วยนะ
Canon EOS R กล้อง Mirrorless Full Frame ตัวแรกของทาง Canon ที่มีหลายอย่างน่าสนใจมาก ๆ โดยเฉพาะ Dual Pixel จุดโฟกัส 5 พันกว่าจุดที่ใช้ได้จริง
กล้อง Canon EOS R ผมยกให้เลยว่าเป็นกล้องที่มีความโดดเด่นมาก ๆ แม้จะมีเสียงบางส่วนพูดถึงการกั๊กสเปคบางอย่าง แต่ Canon EOS R มีจุดยืนของตัวเองค่อนข้างชัดเจน และตอบโจทย์งานได้ดีประมาณนึง ถ้าให้เปรียบก็เหมือน 5D Mark IV ที่เป็นสาย Mirrorless และถูกอัพเกรดขึ้นให้เก่งกว่าเดิม

กล้อง Canon EOS R เป็น Mirrorless Full Frame ที่บอดี้ออกไปทาง SLR เต็ม ๆ ซึ่งผมบอกเลยว่าดีสำหรับคนรับงาน เพราะจับได้เต็มมือมาก แล้วน้ำหนักเบา นอกจากนี้ยังใส่ระบบโฟกัส Dual Pixel มีจุดโฟกัส 5,655 จุด (อ่านไม่ผิดหรอก ห้าพันจุด) เรียกได้ว่าถ้าเอาจุดโฟกัสมาเคลมเรื่องการตลาดนี่ Canon ไปอวกาศได้เลย เยอะมาก แล้วก็ใช้ได้ดีจริง ๆ เพราะเป็น Dual Pixel นั่นเองครับ
ความละเอียดของ Canon EOS R อยู่ที่ 30.3 ล้านพิกเซล อันนี้เยอะพอที่จะถ่ายภาพได้ทุกแนวแล้วล่ะ นอกจากนี้มีระบบ Eye AF หรือ Eye Focus Tracking ที่เราคุ้นเคยกัน มันแม่นยำมาก ขนาดว่าเลือกล็อคโฟกัสตาซ้าย หรือตาขวาได้ตามความต้องการกันเลย
ทางด้านการถ่ายวีดีโอนั้น Canon EOS R รองรับการถ่ายวีดีโอระดับ 4K ครับ ที่ 30P และ 25P มีระบบกันสั่นแบบ Electronic ให้ครับ (แบบ Mechanic ไม่มีเน้อ)
รีวิว Canon EOS R
จุดเด่น Canon EOS R รุ่นนี้ดีไหม มีอะไรน่าใช้งานบ้าง
- เซ็นเซอร์ Full Frame ความละเอียด 30.3 ล้านพิกเซล ละเอียดโหดมากพอสมควร ทั้ง ๆ ที่ Segment กล้องไม่ใช่สายความละเอียดสูง
- จุดโฟกัส 5,655 จุด โคตรเยอะ เยอะจนยุคนี้ไม่ต้องมาคุยเรื่องจุดโฟกัสกันละว่ามีกี่จุด
- ระบบโฟกัสตาที่ใช้งานได้จริง หายห่วง กดโฟกัสเป็นเข้าเป้าแน่นอน แถมเลือกตาซ้ายขวาได้ด้วย
- ถ่ายวีดีโอระดับ 4K ได้สบาย ที่ 30FPS/25FPS
- สกินโทนสไตล์ Canon สำหรับสาย Portrait ที่ใคร ๆ ก็ชอบ
- บอดี้ทรง SLR กระชับ แน่นถนัด เน้นรับงานได้เต็มที่ น้ำหนักเบาสบาย
- มีพอร์ทต่อไมโครโฟนและหูฟังให้พร้อมเรียบร้อยสำหรับงานวีดีโอ
ข้อสังเกต Canon EOS R
กล้องตัวนี้ไม่มีระบบกันสั่นแบบ Mechanic มาให้ ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายมาก แล้ว 4K บางคนบอกอยากได้ที่ 60FPS อันนี้แล้วแต่คนนะ ฮ่า ๆ อันนี้ที่หนักจริงคือ มันดันใส่เมมได้ช่องเดียว โอ้ววว กั๊กทำม๊ายยยย

Canon EOS R รุ่นนี้เหมาะกับใครบ้าง
สำหรับคนที่รับงานทุก ๆ แบบครับ กล้องตัวนี้อยู่กลาง ๆ เราจะเอาไปถ่ายอะไรก็ได้หมดเลยตอนนี้ ถ้ารัก Canon ก็สามารถลุยได้เลยจ้า
Canon EOS R ราคา 82,900 บาท (ประกันศูนย์) สำหรับตัวบอดี้ครับ ใครสนใจก็สามารถที่จะเลือกซื้อตามร้านกล้องใกล้บ้านได้เลย
Nikon Z7 กล้อง Mirrorless Full Frame ตัวสุดของทาง Nikon ที่หลายคนรอมาอย่างยาวนาน
เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่ทุกคนรอคอยอย่างมากกับ Nikon Z7 กล้อง Mirrorless Full Frame ของทาง Nikon ในตอนนี้ที่หลายคนฝันอยากจะได้มันมา สำหรับกล้องตัวนี้จุดเด่นเลยคือเรื่องของ Ergonimic เพราะการออกแบบเขาเน้นให้จับได้ถนัด กระชับมาก เข้ามือสุด ๆ ไม่รู้จะหาคำไหนมาเทียบละ เอาจริง ๆ Nikon เก่งเรื่องนี้มามากละเรื่องของการจับถือได้อย่างถนัดมือ

มาดูเรื่องของ Performance กันบ้าง กล้องตัวนี้ก็โหดในแบบมือโปรเลยแหละ ความละเอียด 45.7 ล้านพิกเซล ใส่มาเหลือ ๆ จุดโฟกัส 493 จุด ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 9 ภาพต่อวินาที รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K ได้ที่ 30 เฟรมต่อวินาที ซึ่งดีพอสมควรเลยล่ะ
นอกจากนี้บอดี้เป็นแมกนีเซียมอัลลอยด์ แล้วน้ำหนักเบากว่าเดิม มี Adapter สำหรับแปลงเลนส์ AF-S ให้ใช้กับกล้องตัวนี้ได้ ตัวนี้ใช้ Z Mount ตัวใหม่ ซึ่งเลนส์ยังมีไม่เยอะมากนัก
รีวิว Nikon Z7
จุดเด่น Nikon Z7 ดีไหม รุ่นนี้เก่งเรื่องอะไรบ้าง
- ความละเอียด 45.7 ล้านพิกเซล
- จุดโฟกัส 493 AF จุด
- การถ่ายภาพต่อเนื่อง 9 FPS
- หน้าจอแสดงผล Touch Screen LCD
- ระบบกันสั่น 5-axis Stabilisation
- Hybrid PDAF
- การถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K UHD 30p, FHD 120P
- โปรไฟล์สีวีดีโอ N-Log colour profile 4:2:2 10-bit HDMI output
- บอดี้ Weather Sealed
- การ์ดที่รองรับ XQD ความละเอียดสูงมาก
ข้อสังเกต Nikon Z7
บางคนเซ็งที่ไม่มี Eye Focus Tracking อันนี้น่าเซ็งอยู่ครับ เข้าใจเลยแหละ ถ้าใครรับเรื่องนี้ได้ก็จัดเลย

Nikon Z7 เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับมือโปรที่ชอบ Brand Nikon อยู่แล้ว แม้จะไม่ที่สุดในด้านสเปค แต่เรื่องการออกแบบ คุณภาพไฟล์ Dynamic Range ก็โหดสไตล์ Nikon อยู่แล้วครับ นอกจากนี้การ์ด XQD แรงจริง รัวได้สบาย ๆ ครับ สเปคด้านภาพนิ่งและวีดีโอก็โหดเพียงพอสำหรับโปรที่จะรับงานนะ
Nikon Z7 ราคา 119,990 บาท (ประกันศูนย์) เฉพาะ Body นะครับ ถ้าโปรโมชั่นต้องรอช่วงเวลาหน่อย เพราะเป็นกล้องออกใหม่ ยังไม่น่าปรับราคาลดพิเศษอะไรในช่วงนี้
Nikon Z6 กล้อง Mirrorless Full Frame ตัวรองของค่าย Nikon ที่เรียกได้ว่ารวดเร็ว คุ้มค่า ถูกใจแฟน ๆ Nikon อีกเช่นกัน
อีกหนึ่งกล้องที่มีความสามารถตามมาติด ๆ กับ Nikon Z6 ตัวนี้เป็นเหมือนตัวที่เน้นความเร็วมากกว่า Nikon Z7 ครับ ความละเอียดจะปรับลดลงมา โดยความละเอียดอยู่ที่ 24.5 ล้านพิกเซล จุดโฟกัสมี 273 จุด มีอัตราการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 12 เฟรมภาพต่อวินาทีสามารถใช้ ISO ได้ 100-51200 สามารถถ่ายวีดีโอได้แบบ 4K UHD

กล้อง Nikon Z7 และ Nikon Z6 นั้นเป็นบอดี้แบบแมกนีเซียมอัลลอยด์ สามารถลุยได้ทุกสภาพอากาศ มีช่องเสียบไมโครโฟนมาให้, มีพอร์ท HDMI, USB-C สำหรับชาร์จไฟ และมีการโอนถ่ายข้อมูลและพอร์ต MiniDisplay แต่แอบเสียใจหน่อย ๆ ที่ทั้งสองรุ่นมีช่องเสียบการ์ดเพียงช่องเดียว แต่ว่ารองรับการ์ดความเร็วสูง XQD
รีวิว Nikon Z6
จุดเด่น Nikon Z6 ดีไหม มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
- ความละเอียด 24 MP ล้านพิกเซล
- จุดโฟกัส 273 จุด
- การถ่ายภาพต่อเนื่อง 11 FPS
- หน้าจอแสดงผล Touch Screen LCD
- ระบบกันสั่น 5-axis Stabilisation
- Hybrid PDAF
- การถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K UHD 30p, FHD 120P
- โปรไฟล์สีวีดีโอ N-Log colour profile
- 4:2:2 10-bit HDMI output
- บอดี้ Weather Sealed
- Wi-Fi, Bluetooth
- รองรับ XQD Memory Card
ข้อสังเกต Nikon Z6
เหมือน ๆ กับ Nikon Z7 เลยครับ เพราะยังไม่มีระบบ Eye Focus Tracking ที่หลายคนยังรอคอย

Nikon Z6 เหมาะกับใครบ้าง
กล้องตัวนี้เหมาะกับคนที่ชอบ Nikon อยู่แล้ว หรืออยากได้กล้อง Mirrorless Full Frame ที่จับถือได้อย่างกระชับ กล้องมีสเปคสูงระดับโปร หายห่วง จะเอาไปรับงาน หรือถ่ายภาพตามอย่างที่เราชอบก็ได้เลย
Nikon Z6 ราคา 69,900 บาท (ประกันศูนย์)
Fujifilm X-T2
Fujifilm X-T2 แม้ว่าจะรุ่นเก่าแล้ว เพราะล่าสุด Fujifilm X-T3 ออกมา แต่ว่าด้วยความสามารถที่มีอยู่ยังทำได้ดีนะ ที่สามารถจะใช้งานจริง ๆ จัง ๆ ได้ (อย่าลืมว่าแม้ไม่ใช่รุ่นล่าสุดแต่เขาก็ยังเป็น Flagship ที่ประสิทธิภาพสูงอยู่ดี)

ความละเอียดกล้องตัวนี้อยู่ที่ 24 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดที่ 14 ภาพต่อวินาที พร้อม Phase Detection 325 จุด เป็นกล้องที่มีความสามารถแบบสาย Sport จัดเต็มเลยแหละ นอกจากนี้การออกแบบเขาเป็นสไตล์ SLR Retro ทำให้การควบคุมสามารถทำได้ถนัดมากเลยทีเดียว สิ่งที่ยังเจ๋งก็คือการออกแบบมันดูหล่อ ๆ ย้อนยุคหน่อย ๆ นอกจากจะเอาไว้ถ่ายภาพจริงจังแล้วจะเอาไว้ถ่ายภาพสไตล์เที่ยวก็ยังทำได้ดีมากอยู่เลยครับ
รีวิว Fujifilm X-T2
จุดเด่น Fujifilm X-T2
- จุดเด่นแรกที่ยกมาตอนนี้คือ Flagship ที่ราคาถูกลงมาแล้วครับ
- ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดที่ 14 ภาพในหนึ่งวินาที
- Fujifilm ชำนาญเรื่องการทำเลนส์ APS-C นะ และราคาเลนส์เกรดโปรมันก็ไม่ได้สูงมากจนเกินเอื้อมเลย
- ดีไซน์ขาดมาก คือเด็ดจัด มันหล่อ น่าใช้งาน ใช้สนุก กล้องน้อยตัวที่จะดูโปรแล้วดูหล่อที่จะพกไปเที่ยวทุกวันได้ กล้องตัวนี้ให้ได้หลายอย่างมาก
- ถ่ายวีดีโอแบบ 4K ได้ ความละเอียดก็เนี๊ยบเหมือนกัน
- มีความสามารถพวก Film Simulate ใครอยากไปสายโทนฟิล์มนิยมไม่ต้องเหนื่อยเลย มันมีให้ในกล้อง
ข้อสังเกต Fujifilm X-T2
กล้องตัวนี้ไม่มีระบบกันสั่นในตัว และก็ไม่ใช่รุ่นใหม่ล่าสุด

กล้อง Fujifilm X-T2 เหมาะกับใครบ้าง
กล้องตัวนี้เหมาะกับคนที่อยากได้กล้องโปรเซ็นเซอร์ APS-C อีกสักตัวไว้รับงานถ่ายภาพ แล้วสไตล์การออกแบบให้ความรู้สึกเหมือนกล้อง SLR มีระบบโฟกัสที่ดี ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เยอะ ไฟล์สวย มีเลนส์ให้เลือกใช้เยอะ กล้องตัวนี้ค่อนข้างโอเคครับ
Fujifilm X-T2 ราคา 69,990 บาท (ประกันศูนย์) ตอนนี้ลดลงเยอะแล้วครับจากราคานี้นะ ถ้าช่วงตามงานกล้อง 2019 หรืองาน Photo Fair 2019 ต่าง ๆ สามารถที่จะลดลงได้เยอะกว่านี้อีก
Fujifilm X-T3
Fujifilm X-T3 เป็น Flagship อีกตัวนึงที่ได้ออกมาก่อนที่จะมี X-H1 ออกมา ซึ่งเรียกได้ว่าการออกแบบสไตล์ SLR Retro เหมือนกัน ได้มีการขยับความละเอียดสูงขึ้นที่ 26 ล้านพิกเซล เยอะกว่ารุ่นเดิมนิดหน่อย

นอกจากนี้กล้อง Fujifilm X-T3 มีระบบโฟกัส Face Detection และ Eye Detection ได้ดียิ่งขึ้น สามารถถ่ายวีดีโอ 4K 10 bit ได้ มีพวก Zebra ให้เราใช้สำหรับการถ่ายวีดีโอ นอกจากนี้บอดี้ก็ยังเป็นแมกนีเซียมอัลลอยด์ ช่องใส่การ์ดมี 2 สล็อตและเป็น UHS-II
รีวิว Fujifilm X-T3
จุดเด่น Fujifilm X-T3 มีอะไรบ้าง– เซ็นเซอร์ BSI X-Trans CMOS 4 ขนาด 26 ล้านพิกเซล
- ระบบ Hybrid Focus 425 จุด
- Auto Focus มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทั้ง Face Detection และ มี Eye Detection ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 20 ภาพต่อวินาที พร้อม Auto Focus ด้วยนะ
- สามารถถ่ายภาพได้ 11 ภาพต่อวินาทีเมื่อใช้ Mechanical Shutter
- ถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ 30 ภาพต่อวินาทีในโหมด 1.25x Crop ‘Sport Finder Mode’
- หน้าจอแสดงผล Electronic View Finder (EVF) มีความละเอียด 3.69 ล้านจุดหน้าจอ Two-Axis Tilting รองรับการสั่งงาน Touch Screen
- วีดีโอบันทึกความละเอียดแบบ 10 บิต 4:2:0 H.265 Internal Video Capture (4:2:2 over HDMI)
- UHD/DCI 4K/60p จะครอปภาพ 1.18x – UHD/DCI 4K/30p จะใช้พื้นที่เต็มเซ็นเซอร์แบบไม่ครอป
- Internal F-Log Capture หรือว่ารองรับการถ่ายวีดีโอแบบ Log
- มีช่องใส่เมมโมรี่การ์ด Dual UHS-II SD Card จำนวน 2 ช่อง
- USB Type-C Connector ใช้สำหรับชาร์จแบตเตอรี่
- ช่องเสียงไมโครโฟน และหูฟัง มีมาให้ครบเลย
ข้อสังเกต Fujifilm X-T3
ยังไม่มีระบบกันสั่นเหมือนเดิม
กล้อง Fujifilm X-T3 เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับคนที่อยากได้กล้อง Flagship Performance สูงหน่อย ไม่เกี่ยงว่าเป็นเซ็นเซอร์ APS-C แล้วก็ไม่เกี่ยงว่าเป็นกล้องที่ไม่มีกันสั่นด้วยนะ ฮ่า ๆ นอกนั้นความสามารถอื่น ๆ กล้องตัวนี้มีจุดเด่นที่ดีแล้วครับ สามารถถ่ายภาพรับงานได้สบาย ๆ
Fujifilm X-T3 ราคา 67,990 บาท (ประกันศูนย์)
Fujifilm X-H1
อันนี้แหละ Flagship ตัวโหดของ Fujifilm ของจริง เพราะตัวนี้ได้ถูกพัฒนาระบบกันสั่นมาเอาไว้ในกล้องเรียบร้อยแล้ว จากที่เคยบ่นมานานว่า Fujifilm ทำไมไม่มีกันสั่นมาให้เลย นอกจากนี้กันสั่นก็ยังทำได้ดีอีกด้วย

แล้วก็ที่เด็ดไปกว่านั้นคือกล้องตัวนี้มีบอดี้ใกล้เคียงกับ Fujifilm GFX-50S ซึ่งเป็นกล้อง medium format ของค่ายนี้ครับ บอดี้จะดูบึกบึน จับถนัด กระชับมือ ใช้แล้วสนุกมากเลยแหละ
รีวิว Fujifilm X-H1
Fujifilm X-H1 ดีไหม มีจุดเด่นอะไรบ้าง
- ความละเอียดของกล้อง 24 ล้านพิกเซล บนเซ็นเซอร์ APS-C X-Trans™* CMOS III & X-Processor Pro
- มีระบบกันสั่นภายในตัวกล้องที่สามารถใช้งานได้จริงทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
- มี Film Simulation นอกจากนี้ยังมีสีใหม่ล่าสุดเพิ่มขึ้นมาคือ ETERNA
- บอดี้มีการออกแบบให้กันน้ำกันฝุ่นเรียบร้อย
- หน้าจอแบบ Tilt 3 ทิศทางแบบ GFX รองรับการ Touch Screen ด้วย
ข้อสังเกต Fujifilm X-H1
ด้วยราคาในช่วงนี้ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกว่าจะไปกล้อง Full Frame ของ Sony ในราคาที่ใกล้เคียงกันครับ อันนี้ต้องดูว่าผู้ใช้ต้องการแบบไหน
Fujifilm X-H1 ราคา 61,990 บาท (ประกันศูนย์) เฉพาะบอดี้ ถ้าเจอช่วงโปรโมชั่นลงเยอะพอสมควรครับ
Panasonic Lumix G9
กล้องระดับโปรแต่เซ็นเซอร์ขนาด Micro 4/3 จะไม่พูดถึงก็ไม่ได้ เพราะมีการใช้งานลักษณะเฉพาะของบางกลุ่มอยู่แม้ว่าเซ็นเซอร์จะเล็กลงมาหน่อย ซึ่ง Panasonic Lumix G9 นี้จะโดดเด่นเรื่องความสามารถของการถ่ายภาพโดยเฉพาะ และมีรองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K

ในส่วนของบอดี้นั้นมีน้ำหนักเบามากกว่า Panasonic Lumix GH5 ที่เป็นตัว Flagship ซะอีก เป็นกล้องที่เหมาะกับการใช้ลุย ๆ แล้วไม่อยากได้กล้องที่น้ำหนักเยอะไป นอกจากนี้ระบบกันสั่นของ Panasonic ตอนนี้ทำได้ดีมาก ๆ แล้ว เรียกได้ว่าไปถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอนอกสถานที่นี่ไม่ต้องถือ Gimbal ไปก็ยังเอาอยู่ได้สบาย
ความละเอียดโดยพื้นฐานกล้องตัวนี้อยู่ที่ 20.3 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพได้เร็วสุด 60 ภาพต่อวินาที ถ้าเป็นถ่ายภาพแบบ Focus Tracking จะได้ที่ 20 ภาพต่อวินาที มีโหมด High Resolution Shot ที่ 80 ล้านพิกเซลอีกด้วย
รีวิว Panasonic Lumix G9
กล้อง Panasonic Lumix G9 ดีไหม มีจุดเด่นอะไรบ้าง
- ความละเอียด 20.3 ล้านพิกเซล บนเซ็นเซอร์ Micro 4/3 มีโหมดความละเอียดสูง 80 ล้านพิกเซล
- ถ่ายวีดีโอ 4K ได้
- ตัวกล้องสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 60 ภาพในหนึ่งวินาที, แต่ถ้า Tracking ได้ 20 ภาพในหนึ่งวินาที ไม่มี Black Out, Mechanic Shutter ได้ 9 ภาพต่อวินาที
- ตัวบอกดี้ออกแบบสำหรับทำงานจริงจัง
- เหมาะสำหรับคนที่ถ่ายรับงาน หรืองานอดิเรกที่คาดหวังประสิทธิภาพสูง
ข้อสังเกต Panasonic Lumix G9
กล้องตัวนี้เป็นเซ็นเซอร์ Micro 4/3 ซึ่งข้อจำกัดของมันมีค่อนข้างมากเวลาที่เจอพื้นที่แสงน้อย ๆ อาจจะต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการควบคุมการถ่ายภาพในพื้นที่แสงน้อยบนเซ็นเซอร์ Micro 4/3 เยอะหน่อยครับ เช่น ใช้ Shutter Speed ที่ช้าลงเพื่อให้แสงเข้าเยอะขึ้น อะไรแบบนี้

Panasonic Lumix G9 เหมาะกับใครบ้าง
เหมาะกับคนที่ต้องการกล้องดีไซน์ SLR น้ำหนักเบา แต่บอดี้ใหญ่หน่อย เอาไว้ทำงานจริงจังนอกสถานที่ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ เพียงแต่ต้องเข้าใจเรื่องข้อจำกัดของเซ็นเซอร์ Micro 4/3 บ้างครับ
Panasonic Lumix G9 ราคา 69,990 – 89,990 บาท อาจจะมีถูกกว่าช่วงนี้ต้องดูโปรโมชั่นครับ
Panasonic Lumix GH5
กล้อง Mirrorless Panasonic Lumix GH5 เรียกได้ว่าเป็น Flagship ของ Panasonic เลย เพราะตัวนี้ทำได้ครบเครื่องมาก ๆ ตั้งแต่การถ่ายภาพ ไปจนถึงการถ่ายวีดีโอ ว่ากันด้วยเรื่องรายละเอียดของเซ็นเซอร์ก่อน แน่นอนว่าเป็นเซ็นเซอร์ขนาด Micro 4/3 และมีความละเอียดที่ 20.3 ล้านพิกเซล แบบไม่มี Low Pass Filter นอกจากนี้ การถ่ายภาพต่อเนื่อง ยังทำได้ 12 ภาพต่อวินาที ในด้านของการถ่ายวีดีโอทำรายละเอียได้ระดับ 4K ที่ให้รายละเอียดขั้นสุดเลยคือรายละเอียดสีแบบ 4:2:2 10-bit ซึ่งเรียกได้ที่สุดแล้วในตอนนี้ นอกจากนี้ตัว Stabilizer ของ Panasonic Lumix GH5 ยังนิ่งมากพอที่จะออกทริปถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอโดยที่ไม่ต้องใช้ Gimbal อีกด้วย

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือการออกแบบตัวบอดี้จับได้กระชับมือมาก แล้วก็บอดี้ใหญ่ที่จะเอาไว้ลุยหลาย ๆ งาน ซึ่งกล้องตัวนี้จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับการทำงานโดยใช้ทีมเล็ก ๆ แต่ต้องการคุณภาพงานที่ค่อนข้างมาก ซึ่ง Panasonic Lumix GH5 เอาจริง ๆ มีหลายคนนำไปใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนต์จริง ๆ จัง ๆ กันเลย แต่ภาพรวมน้ำหนักจะไปทางวีดีโอมากกว่าภาพนิ่งนะ
รีวิว Panasonic Lumix GH5
จุดเด่นของ Panasonic Lumix GH5
- Panasonic Lumix GH5 เป็นกล้องที่ทำงานได้ดีตั้งแต่ภาพนิ่งและวีดีโอกันเลย
- ความละเอียด 20.3 ล้านพิกเซล ซึ่งเยอะพอสำหรับการถ่ายภาพนิ่งได้หลากหลายงาน
- ระบบกันสั่นนิ่งมาก สามารถทำงานวีดีโอได้โดยที่ไม่ต้องมี Gimbal Stabilizer เลย
- ความละเอียดวีดีโอ 4K 4:2:2 10bit เป็นความละเอียดที่ดีมาก มีกล้องไม่กี่ตัวที่ทำได้แบบนี้ เหมาะกับสายวีดีโอหนัก ๆ เลยในการทำงานกับสี
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 12 ภาพต่อวินาที
- บอดี้ Weather Sealed กันน้ำกันฝุ่น
- เป็นกล้องที่ให้พอร์ทมาครบ ๆ สามารถต่อไมโครโฟนแยกได้
Panasonic Lumix GH5 ดีไหม เหมาะกับใครบ้าง
ถ้าจะแนะนำจากใจคือเหมาะกับคนที่ใช้งานผสมระหว่างวีดีโอและภาพนิ่ง ซึ่งจะหนักไปทางวีดีโอมากกว่า เพราะว่าภาพนิ่งเพียงอย่างเดียวมีตัวเลือกอื่น ๆ เยอะกว่าครับ แต่ถ้าคุณไปทางงานผสมระหว่างภาพนิ่งและวีดีโอผมแนะนำเลยตัวนี้ไม่เสียใจแน่นอน
**Panasonic Lumix GH5 ราคา 87,990 บาท ถ้่าช่วงราคาโปรโมชั่นจะถูกลงกว่านี้ **
Olympus OM-D E-M1 Mark II
กล้อง Olympus OM-D E-M1 Mark II ตัวนี้จะเป็นกล้องที่อยู่ในสไตล์เดียวกับ Panasonic Lumix GH5 แต่น้ำหนักไปทางด้านสาย Photography มากกว่า Video จุดเด่นด้านการถ่ายภาพของ Olympus OM-D E-M1 Mark II ก็คือเรื่องของ System เพราะเซ็นเซอร์เป็น Micro 4/3 แล้วก็ Olympus เนี่ยเก่งเรื่องการทำบอดี้ขนาดใหญ่มาก่อน พอไปทำกล้อง Body ขนาดเล็ก เชื่อไหมว่าฟังก์ชั่นทุกอย่างยังมีครบทั้งหมด

นอกจากนี้แล้วความอึดของกล้องตัวนี้เรียกได้ว่าสุดยอดมาก ลุยได้ทั้งความชืิ้น ฝุ่น แล้วก็อุณหภูมิหนาวจัด นอกจากนี้ยังถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 18 ภาพต่อวินาที ความละเอียดกล้อง 20 ล้านพิกเซล และมีระบบกันสั่นที่ดีมากคือ 6.5 Stop ทำให้การถ่ายภาพนิ่ง ๆ นี่สบายมาก
ถ้าใครยังคิดว่าความละเอียดยังไม่สะใจพอ Olympus OM-D E-M1 Mark II มีโหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง High Resolution Shot ที่ 50 ล้านพิกเซลซึ่งความละเอียดสูงมากสำหรับการถ่ายภาพนิ่ง
ทางด้านการถ่ายวีดีโอกล้อง Olympus OM-D E-M1 Mark II รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K ทำให้สามารถที่จะได้รายละเอียดดี ๆ ได้เลย
รีวิว Olympus OM-D E-M1 Mark II
จุดเด่น Olympus OM-D E-M1 Mark II
- ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด High Resolution Shot ที่ 50 ล้านพิกเซล บนเซ็นเซอร์ Micro 4/3
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 18 ภาพต่อวินาที
- ระบบกันสั่นทำงานได้ดีมาก สูงสุดที่ 6.5 Stop ที่ใช้งานได้เวิร์คมาก
- ถ่ายวีดีโอแบบ 4K ได้ เมื่อใช้งานร่วมกับกันสั่นเนี่ยก็ตัวสุดเลยแหละ
- บอดี้ Weather Sealed กันน้ำกันฝุ่น
- System เล็ก ไปไหนก็สะดวก เพราะว่าเลนส์เซ็นเซอร์ Micro 4/3 มีขนาดเล็ก ระบบเลนส์ก็เล็กเหมือนกัน
ข้อสังเกต Olympus OM-D E-M1 Mark II
กล้องตัวนี้เซ็นเซอร์มีขนาดเล็ก และราคาของกล้องตัวนี้ไปแตะกับกล้องเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ค่ายอื่น ทำให้คนซื้อมีทางเลือกที่จะเลือกกล้องเซ็นเซอร์ใหญ่กว่านี้ได้ อันนี้ต้องเลือกดูว่าชอบ Sensor Size หรือว่าชอบที่ System ขนาดเล็กครับ
Olympus OM-D E-M1 Mark II ราคา 76,990 บาท แต่ระหว่างนี้ Olympus ออกโปรโมชั่นค่อนข้างบ่อย มีให้เห็นลดที่ 10-25% เป็นระยะครับ
3. กล้อง Mirrorless 2019 ระดับโปร สำหรับสาย Video
ชุดนี้จะเป็นกล้องที่เน้นสำหรับงานวีดีโอโดยเฉพาะเลยครับ สำหรับใครที่กำลังมองหากล้องที่ใช้ในงานวีดีโอ สามารถดูได้ตามรายการนี้เลยครับ
Sony A7S II
กล้องสายวีดีโอที่สุดของที่สุด เพราะออกแบบมาให้เจาะงานด้านนี้โดยเฉพาะ ISO เปิดได้สูงสุดที่ 409,600 แถมผมเคยใช้กับทีมงานเวลาถ่าย Low Light เรียกได้ว่าขั้นสุดมาก ๆ ISO แสนยังเนียนตาพอสมควรเลย นอกจากนี้แล้วยังมีระบบกันสั่น 5 แกนด้วย แถมเป็นเซ็นเซอร์แบบ Full Frame เวลาที่ถ่ายวีดีโอ Depth of Field ค่อนข้างดีเหมือนกันครับ

สำหรับการถ่ายภาพนิ่งความละเอียดเขาจะน้อย คือ 12.2 ล้านพิกเซล ที่น้อยเพราะออกแบบมาให้มีสัญญาณรบกวน (Noise) ในภาพต่ำ และสามารถใช้ศักยภาพของเซ็นเซอร์เพื่องานวีดีโอได้อย่างเต็มเหนี่ยว
รีวิว Sony A7S II
จุดเด่น Sony A7S II
- มันเกิดมาเพื่องานวีดีโอ ทุกอย่างทำมาเพื่อตอบโจทย์คนทำงานด้านวีดีโอเลย
- ถ่ายวีดีโอกลางคืน งานคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ ถ่ายพลุ งานเนี๊ยบ
- มีกันสั่น 5 แกน
- กล้องตัวนี้น่าจะโอเคที่สุดสำหรับการทำงานวีดีโอแล้วมั้ง ในด้านคุณภาพนะ แล้วก็ราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพครับ
ข้อสังเกต Sony A7S II
System กล้องตัวนี้ใหญ่นะ เพราะงั้นเลนส์ด้วย ทำให้ต้องคิดเรื่อง Production หน้างานเยอะหน่อย
Sony A7S II ราคา 99,990 – 87,990 บาท แล้่วแต่ช่วงโปรโมชั่นครับ
Sony A7III ตัวนี้ก็เก่งเรื่องงานวีดีโอเหมือนกันนะ
กล้่องระดับเริ่มต้นตัวล่าสุดบนเซ็นเซอร์ Full Frame ของทาง Sony ที่เคยบอกไปข้างต้น จริง ๆ กล้องตัวนี้มีความสามารถด้านวีดีโออยู่พอสมควร และราคาสมเหตุสมผลมาก ๆ ความละเอียดของ Sony A7 III อยู่ที่ 24.2 ล้านพิกเซล บนเซ็นเซอร์ขนาด Full Frame ซึ่งเยอะพอที่จะใช้ในทุก ๆ งานได้อย่างสบาย ๆ แล้วก็ความสามารถในการถ่ายวีดีโอแบบ 4K ก็เหลือ ๆ จุดโฟกัสที่ให้มา 693 จุดแบบ Phase Detection และ Contrast Detection อีก 425 จุดนั่นเอง นอกจากนี้รองรับทั้ง UHS-II และถ่ายวีดีโอแบบ S-Log 3 ได้ด้วย เอาไว้เกรดดิ้งงานเทพ ๆ เลย

รีวิว Sony A7 III สำหรับงานถ่ายวีดีโอ
Sony A7 III มีจุดเด่นสำหรับงานวีดีโอในเรื่องไหนบ้าง
- ระบบโฟกัสทำงานได้ดีมาก ไว้ใจได้ แล้วก็สามารถที่จะถ่ายวีดีโอ 4K ได้
- แบตเตอรี่รุ่นใหม่มีการพัฒนาให้ถ่ายได้นานโดยที่กล้องไม่ร้อน
- รองรับ Memory Card UHS-II พร้อม S-Log3 สามารถที่จะ Grading วีดีโอสวย ๆ ได้
- ระบบ Lens ของ Sony มีให้่เลือกใช้เยอะ นอกจากนี้ยังมี Adapter แปลงให้ใช้หลายค่ายได้สบาย
ข้อสังเกตของ Sony A7 III
อาจจะเป็นกล้องวีดีโอที่จัดได้ไม่สุดเท่าตัวแรง ๆ ในตลาด แต่ความคุ้มค่าตัวนี้โอเคอยู่ครับ โดยเฉพาะระบบโฟกัสและเทคโนโลยีที่กล้องตัวนี้มี
Sony A7III ราคา 68,000 – 59,000 บาท (ประกันศูนย์) แล้วแต่ช่วงโปรโมชั่นว่าจะเจอโปรลดขนาดไหนนะ ลองหาดูครับ
Panasonic Lumix GH5
กล้อง Panasonic Lumix GH5 จริง ๆ เป็นกล้อง Overall สำหรับการถ่ายทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ แต่ว่าความสุดที่ค่ายนี้ให้มาคือเรื่องวีดีโอมากกว่า ซึ่งตัวนี้จุดเด่นอยู่ตรงที่ 4K โดยใช้สีแบบความละเอียดสูง 4:2:2 10-bit ซึ่งเวลาเอาไป Grading จะทำให้ได้งานที่ละเมียดมาก นอกจากนี้แล้วระบบกันสั่นในตัวกล้องยังใช้งานได้ดีแบบที่ไม่ต้องพึ่ง Gimbal Stabilizer กันเลย
รีวิว Panasonic Lumix GH5
จุดเด่น Panasonic Lumix GH5 ที่เหมาะกับงานวีดีโอ
- ความสามารถในการถ่ายวีดีโอ 4K แบบ 4-2-2 10bit
- รองรับ V-Log Profiles สำหรับการ Grading สี จริง ๆ ก็ควบคู่กับ 4K 4-2-2 10bit แหละนะ
- ระบบกันสั่นในตัวกล้องไว้ใจได้ ทดแทน Stabilizer ได้ดีประมาณนึง
- หน้าจอพับของตัวกล้องทำให้สามารถที่จะจัดมุมมองถ่ายภาพได้หลากหลายแบบ
- System เล็ก เหมาะกับงาน Production ที่ไม่ใหญ่ เน้นความคล่องตัว แต่ได้คุณภาพงานที่สูง
ข้อสังเกต Panasonic Lumix GH5
กล้องตัวนี้เซ็นเซอร์ Micro 4/3 บางคนอาจจะไม่ชอบเวลาที่ถ่ายในพื้นที่แสงน้อย แต่แก้ได้ด้วยการใช้เลนส์รูรับแสงกว้าง ๆ แทนครับ
Panasonic Lumix GH5 ราคา 87,990 บาท ถ้่าช่วงราคาโปรโมชั่นจะถูกลงกว่านี้
Panasonic Lumix GH5s
กล้องตัวสุดของ Panasonic ในด้านสายวีดีโอเลย Panasonic Lumix GH5s ตัวนี้ ซึ่งได้มีการปรับปรุงมากขึ้นจาก Panasonic Lumix GH5 ให้มาโดดเด่นทางด้านงานวีดีโอโดยเฉพาะ โดยความละเอียดลดลงเหลือแค่ 10.2 ล้านพิกเซล เพื่อให้สามารถที่จะถ่ายวีดีโอในที่แสงน้อยได้โหดร้ายมากขึ้น คืองานดีมาก ๆ แล้วก็มาพร้อมระบบออโต้โฟกัส 225 จุด รองรับการ Focus ในที่แสงน้อยที่ -5 EV รองรับ ISO ที่ 51200 มาพร้อมระบบ Native ISO ที่ 400 และ 2500

ในด้านการถ่ายวีดีโอนั้นสามารถที่จะถ่ายวีดีโอได้แบบ 4K และ C4K ความละเอียดที่ 4096×2160 ที่ 50fps และ 60fps รองรับการถ่ายวีดีโอ Full HD Slow Motion ที่ 240fps คือสุดยอดมาก ๆ นอกจากนี้ยังรองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4:2:2 10 Bit พร้อมระบบ V-Log ที่มาในกล้องเรียบร้อยไม่ต้องซื้อเพิ่ม แถมยังรองรับ Time Code สำหรับสายวีดีโออีกด้วยนะ
ซึ่งดูจาก Spec ที่ให้มาแล้ว Panasonic Lumix GH5s เป็นสุดยอดกล้องสำหรับสายวีดีโอที่โดดเด่นที่สุดตัวหนึ่งเลยครับ ใครที่คาดหวังว่าจะทำงานสายวีดีโอ กล้องตัวนี้คือที่สุดแล้วแหละ
รีวิว Panasonic Lumix GH5s
จุดเด่นใน PANASONIC LUMIX GH5s
- งานวีดีโอที่เนี๊ยบมากครับ เพราะให้ 4K,C4K แล้วก็ยังมีระบบสีที่ 4:2:2 10 BIT อีกด้วยนะ
- รองรับ V-Log Profiles คือสามารถที่จะให้ไฟล์เพื่อใช้ในการ Grading ได้เยี่ยมมมาก ๆ
- สามารถที่จะถ่ายภาพแบบ Slow Motion ได้มากถึง 240 FPS บนความละเอียด Full HD คือไม่ธรรมดาสุด ๆ
- ระบบระบายความร้อนทำได้ดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ข้อสังเกตใน PANASONIC LUMIX GH5S
ตัดความละเอียดลงไป ทำให้การถ่ายภาพนิ่งอาจจะไม่เหมาะกับคนชอบกล้องแบบกลาง ๆ ทำได้หลายอย่าง นอกจากนี้กล้องตัวนี้ไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้องนะจ๊ะ
ใครที่เหมาะกับ PANASONIC GH5S
คนที่เหมาะกับ Panasonic Lumix GH5s ตัวนี้เรียกได้ว่าสายงานวีดีโอเลยแหละ เพราะว่าตัวนี้ไม่ได้โดดเด่นในภาพนิ่งเท่าไหร่เลย แต่งานวีดีโอคือใช้ในอุตสาหกรรมคอนเทนต์ประเภทภาพยนตร์เยอะครับ ใครที่ตั้งใจจะลงทุนกับงานวีดีโอเป็นหลักก็คือกล้องตัวนี้เลย
Panasonic Lumix GH5s ราคา 89,990 บาท
รวมบทความการถ่ายภาพพื้นฐานสำหรับมือใหม่
– การตั้งค่ากล้องสำหรับมือใหม่ เริ่มพื้นฐานจากศูนย์กันเลย
– ISO คืออะไร รวมทุกอย่างที่ต้องรู้เรื่อง ISO
– คำแนะนำสำหรับมือใหม่ในการถ่ายภาพให้นิ่งและไม่เบลอ
– 7 ไอเดียการฝึกถ่ายรูปสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นเล่นกล้อง
– 10 เทคนิคการถ่ายภาพเบื้องต้นสำหรับมือใหม่