Nikon Z7 vs Sony A7RIII อะไรดีกว่ากัน ตั้งแต่การเปิดตัวของกล้องตัวใหม่ Nikon Z7 ซึ่งเคยมีคอนเทนต์ รีวิว Nikon Z7 Hands-On ไปแล้วสามารถลองอ่านด้วยกันได้ครับ แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ กระแสในการนำไปเปรียบเทียบประสิทธิภาพของกล้อง Nikon Z7 vs Sony A7RIII ซึ่งเรียกได้ว่าตอนนี้ Sony แทบจะเป็นเจ้าตลาดด้านกล้อง Mirrorless กันเลยแหละ แต่นอนว่าด้วย Position ของ Nikon Z7 ก็ชนกันเป๊ะ ๆ กับ Sony A7RIII ไม่แปลกที่หลายคนจะเอามาเทียบกันว่า Nikon Z7 vs Sony A7RIII อะไรดีกว่ากัน?
Nikon Z7 vs Sony A7RIII อะไรดีกว่ากัน ?
สิ่งที่เหมือนกันระหว่าง Nikon Z7 และ Sony A7RIII
- ความละเอียดของหน้าจอ EVF (Electronic View Finder) อยู่ที่ 3.6 ล้านจุด (Dots)
- รองรับการถ่ายวีดีโอแบบ 4K ให้เฟรมเรต (Frame Rate) ที่ 30 fps และ 100Mbps pixel binning ในโหมด Full Frame
- ถ่ายวีดีโอแบบ 120 เฟรมต่อวินาที ในความละเอียดแบบ Full HD ได้ สำหรับคนที่ใช้ Footage Slow Motion จะเวิร์คมาก
- มีไมโครโฟนในตัว, มีช่องเสียบหูฟัง, พอร์ต USB- type C, HDMI (บน Nikon Z7 จะเป็น mini HDMI, ส่วน Sony A7RIII จะเป็น Micro Type D)
อ่านบทพื้นฐานด้านการถ่ายภาพ
– เหตุผลที่ควรใช้โหมด M
– โหมด P A S M แตกต่างกันอย่างไร และควรใช้โหมดไหน
Nikon Z7 vs Sony A7RIII อะไรดีกว่ากัน พร้อมข้อแตกต่าง 10 อย่างที่ควรรู้
1. ความแตกต่างของเซ็นเซอร์ (Sensor) Nikon Z7 และ Sony A7RIII
กล้อง Nikon Z7 และ Sony A7RIII จะใช้เซ็นเซอร์ Full Frame เหมือนกันและเป็นเซ็นเซอร์แบบ BSI ไม่มี AA Filter ซึ่งกล้องทั้งสองตัวนี้แม้จะใช้เซ็นเซอร์เดียวกันแต่ความละเอียดของ Nikon Z7 จะเยอะกว่า Nikon Z7 มีความละเอียด 45.7 ล้านพิกเซล ส่วน Sony A7RIII มีความละเอียดที่ 42.4 ล้านพิกเซล
Nikon Z7 จะมี ISO แบบ Native เริ่มเต้นที่ 64 ส่วน Sony จะเริ่มต้นที่ ISO 100, ส่วน ISO สูงสุดของ Nikon Z7 จะอยู่ที่ 25600 และขยาย (Extended Value) ที่ 102400 และ ISO ต่ำสุดแบบ Extended ที่ 32
ส่วนทางด้าน Sony A7RIII นั้นจะมี ISO สูงสุดที่ 32000 และสามารถ Extended ได้สูงสุดที่ 102400 เท่ากันกับ Nikon Z7 แต่ว่าค่า ISO ต่ำสุดที่ทำได้คือ ISO 50
2. การบีบอัดไฟล์ RAW (RAW Compression)
ก็เหมือน ๆ กันกับกล้อง DSLR ในระดับ High End ในตลาดของค่ายอื่น ๆ กล้อง Nikon Z7 จะให้เราสามารถที่จะเลือกบันทึกไฟล์ RAW นามสกุล .NEF ได้ทั้งแบบ 12-bit และ 14-biy และเลือกสามารถการบีบอัดข้อมูล (Compression) ได้ถึง 3 ระดับ Uncompressed, Lossless, Compress) นอกจากนี้เราสามารถบันทึกไฟล์แบบ Tiff ได้นอกเหนือจาก JPG
ส่วน Sony A7RIII ให้เราเลือกบีบอัดหรือไม่บีบอัดสำหรับไฟล์ RAW ได้ แต่ว่าไม่มีตัวเลือกพวก Tiff ให้ แต่มีการตั้งค่าบันทึกของไฟล์ JPG ได้หลายแบบ
อ่านบทความเกี่ยวกับไฟล์ RAW ในการถ่ายภาพ
– RAW vs JPEG เหตุผลที่ควรถ่ายภาพด้วยไฟล์ RAW และเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่าง RAW และ JPEG
เพิ่มเติมคือ เวลาที่ถ่ายภาพด้วยโหมด Continuous Extended เพื่อถ่ายภาพให้ได้เฟรมที่เร็วที่สุด กล้อง Nikon Z7 นั้นจะสามารถถ่ายภาพได้แค่ไฟล์ RAW ขนาด 12-bit เท่านั้น, ส่วนกล้อง Sony A7RIII จะใช้ดรอปความละเอียดจาก 14-bit RAW มาที่ 12-bit RAW ก็ต่อเมื่อเราเลือกบีบอัดเอง
3. ระบบออโต้โฟกัส (Auto Focus Performance Sony A7RIII vs Nikon Z7)
Nikon Z7 จะมีระบบโฟกัส Phase Detection ที่ 493 จุด ซึ่ง Cover เฟรมกว้างที่ 90% เกือบทั้งเฟรม ส่วน Sony A7RIII จะมีอยู่ 399 จุด แต่ว่า Cover ที่ 68% เท่านั้น ซึ่งตรงนี้ Nikon Z7 จะได้เปรียบเรื่องพื้นที่การโฟกัสมากกว่า
นอกจากนี้ Nikon Z7 ยังมีความไวแสงมากขึ้นด้วยที่ -4Ev (F2) เมื่อต้องโฟกัสในที่แสงน้อย แต่สำหรับ Sony โฟกัสได้ที่ -3Ev ในรูรับแสงที่เท่ากัน
กล้องทั้งสองแบบทั้ง Nikon Z7 และ Sony A7RIII นั้นมีระบบโฟกัสใบหน้า (Face Detection) แต่ผลการทดสอบประสิทธิภาพการโฟกัสของโหมดนี้ใน Nikon ยังไม่มีสรุปว่าออกมาแล้วเนี๊ยบแค่ไหนเมื่อเทียบกับ Eye AF ของ Sony นอกจากนี้อุปกรณ์พวก Lens Adapter ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Nikon Z7 และ Sony A7RIII ก็มีให้ใช้ทั้งสองแบรนด์เช่นเดียวกัน
4. ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง (Burst Speed)
Nikon Z7 มีความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 9 เฟรมต่อวินาที และการโฟกัสจะถูกล็อคไว้ในเฟรมแรก ส่วน Sony A7RIII นั้นจะทำได้เร็วกว่าคือ 10 เฟรมและใช้ AE Tracking ได้ด้วย
ตามข้อมูลของ DPreview ความจุบัฟเฟอร์ในการถ่ายภาพของ Nikon Z7 จะอยู่ที่ 25JPG หรือ 23 RAW 12-bit ซึ่งค่อนข้างต่ำมากเมื่อเทียบกับ Sony A7RIII ที่ทำได้ถึง 76JPGs และ RAW Compress ซึ่ง Sony A7RIII มีชิพ LSI บนเซ็นเซอร์ที่ช่วยปรับปรุงความเร็วในการประมวลผลภาพ ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้นนั่นเอง
5. ความสามารถในการถ่ายวีดีโอ (Video Specifications and Features)
เมื่อลงลึกไปถึงการตั้งค่าวีดีโอจะเห็นได้ว่า Nikon Z7 ก็มีการถ่ายวีดีโอแบบ Log Profile เหมือนกันชื่อว่า N-Log แต่สามารถใช้งานได้เฉพาะทาง HDMI output เท่านั้น นั่นหมายความว่าเราต้องต่อ External Recorder เพื่อใช้ประโยชน์ในส่วนนี้ แต่จุดเด่นก็คือว่มัน Output ออกมาแบบ 10-bit ซึ่งเหมาะกับงานวีดีโอ
สำหรับ Sony A7RIII มี Output 8 bit ผ่านพอร์ท HDMI แต่ก็มี S-Log2 และ S-Log3 แต่จุดเด่นคือสามารถบันทึกภายในเครื่องแล้วจบเลย อันนี้แล้วแต่ว่าใครจะชอบมุมไหน
หนึ่งในความน่าสนใจก็คือ Nikon Z7 สามารถถ่ายวีดีโอ Time-Lapse แบบ 4K ได้เลย เราสามารถเซ้ตการถ่ายภาพแบบ Interval แล้วกล้องจะจัดการสร้างวีดีโอให้อัตโนมัติ โดยถ่ายวีดีโอ Time-Lapse นั้นจะให้ความละเอียด 4K ที่ 30 FPS ส่วน ความละเอียดแบบ Full HD จะสามารถถ่ายได้ที่ 60 FPS
6. ระบบกันสั่นแบบ 5 แกน และความสามารถ Sensor Shift
กล้องทั้งสองรุ่นไม่ว่าจะเป็น Nikon Z7 หรือว่า Sony A7RIII นั้นทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่มีกันสั่นในตัวแบบ 5 แกน ซึ่งมาตรฐาน CIPA ได้ให้ไว้คือใน Z6 ซึ่งเป็นกลอ้องตัวแรกชดเชยได้ 5EV (5 Stop) ส่วน Sony A7RIII จะชดเลยได้ 5.5Ev (5.5 Stop)
และเมื่อใช้เลนส์ที่มีระบบกันสั่นภายในตัว ทั้งสองกล้องจะมีความสามารถที่จะ Sync ระบบกันสั่นกันได้เหมือนกัน แต่ว่าสิ่งที่ Sony ใช้ประโยชน์จากความสามารถในการกันสั่นนั้น ยังมีเรื่องของ Pixel Shift Multi-Shoot เป็นการถ่ายภาพสี่ภาพต่อเนื่องและย้ายเซ็นเซอร์หนึ่งพิกเซลระหว่างการจับภาพแต่ละครั้ง แล้วเอาไปรวมกลายเป็นภาพเดียวที่ให้รายละเอียดเยอะขึ้น แต่ยังคงเป็นรายละเอียดที่ 42 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม
7. การออกแบบและความง่ายในการใช้งาน
Nikon Z7 แน่นอนว่าเมื่อเป็น Mirrorless ก็ฉีกความรู้สึกออกไปคือไม่ได้ดูใหญ่เหมือน DSLR แล้ว ซึ่งขนาดพอ ๆ กับ Sony A7RIII เลยแหละ แต่สิ่งที่ Nikon ทำได้ดีมากคือ Grip มีขนาดใหญ่ จับได้ถนัดมือมากกว่า และการวางปุ่มโดยรวมของ Nikon คือดีมาก ๆ
บอดี้ทั้งสองรุ่นนี้เป็น Weather Sealede และบอดี้ใช้วัสดุ Magnesium Alloy น้ำหนักสองรุ่นนี้แทบไม่แตกต่างกัน กล้องทั้งสองรุ่นนี้มี JoyStick ที่ใช้คุมโฟกัสได้ง่าย แต่สิ่งที่น่าผิดหวังที่เกิดขึ้นก็คือ Nikon Z7 ใช้การ์ดแบบ XQD และใส่ได้แค่ช่องเดียว ต่างจาก Sony A7RIII ที่ใช้สล็อต SD Card สองช่องที่รองรับ UHS-II ซึ่งจะดูสะดวกกว่า น่าคบหามากกว่า
อ่านบทพื้นฐานด้านการถ่ายภาพ
– เหตุผลที่ควรใช้โหมด M
– โหมด P A S M แตกต่างกันอย่างไร และควรใช้โหมดไหน
8. หน้าจอแสดงผลและช่องมอง (Screen Display & Electronic View Finder)
Nikon Z7 มีหน้าจอแบบ OLED ขนาดเล็กด้านบนบอดี้เพื่อดูการตั้งค่าต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และก็ยังมีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่มากกว่า คือ Nikon Z7 มีขนาด 3.2 นิ้ว ส่วน Sony A7RIII มีขนาด 3 นิ้ว นอกจากนี้ความละเอียดของ Nikon Z7 มีมากกว่า ระหว่าง 2,100k dots vs 922k dots นอกจากนี้ Nikon Z7 รองรับการสั่งงานแบบ Touch Screen ได้ด้วย สามารถใช้เลือกเมนู การถ่ายภาพ หรือย้ายจุดโฟกัส
ส่วน Sony A7RIII ก็มีหน้าจอสัมผัสที่ใช้ในการสั่งงาน Auto Focus ได้เหมือนกัน กล้องทั้งสองรุ่นนี้มีช่องมองภาพ EVF (Electronic View Finder) อัตรา Refresh Rate ของ Nikon Z7 อยู่ที่ 60 FPS ส่วน A7RIII อยู่ที่เราจะเลือกระหว่าง 50/60 และ 100/120
9. แบตเตอรี่ Battery
หลายคนแทบคลั่งเมื่อได้เห็นสเปคในการถ่ายภาพได้แค่ 330 ภาพต่อแบตเตอรี่ 1 ก้อนของ Nikon Z7 ตามมาตรฐาน CIPA เมื่อเทียบกับ Nikon D850 รุ่นก่อนหน้านี้เรียกได้ว่าห่างไกลลิบเลย เพราะมันถ่ายได้ถึง 1,000 ภาพ แน่นอนว่าสิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า Nikon Z7 ต้องทำการบ้านเพิ่มเรื่องแบตเตอรี่เหมือนที่ Sony เคยเจอมาก่อน
สำหรับ Sony A7RIII ทำได้ดีมาก เพราะว่ามีการทดสอบอย่างเป็นทางการจากหลาย ๆ ที่คือถ่ายได้กว่า 530 ภาพเลยแหละ สำหรับบางคนสามารถถ่ายได้เยอะกว่านั้นอีกพอสมควรเลยด้วย
10. เลนส์ (Lenses)
การเปรียบเทียบระบบต่าง ๆ มักเกี่ยวข้องกับการพูดเรื่องเลนส์แต่ละแบรนด์ที่จะนำเสนอไปด้วย แน่นอนว่าระบบเลนส์ของ Sony FE นี่มีมานานกว่าสี่ปีแล้ว และบริษัทอย่าง Sony ได้ทำการบ้านอย่างต่อเนื่องเรื่องเลนส์ตั้งแต่ SIGMA, TAMRON, SAMYANG และแน่นอน ZEISS
Nikon เพิ่งเปิดตัวกล้อง Nikon Z6 และ Nikon Z7 ดังนั้นเราไม่สามารถคาดหวังได้มากนัก เพราะเลนส์ที่เพิ่งออกมานั้นเป็ฯเลนส์ 24-70mm F4 ซึ่งเป็นเลนส์ KIT และอีกสองเลนส์ Fix ได้แก่ 50mm F1.8 และ 35mm F1.8 แม้ว่าจะมีแผนงานการปล่อยเลนส์อื่น ๆ มาก็ยังต้องรอกัน
สำหรับแผนงานที่เรามองเห็นเรื่องเลนส์ Noct 58mm F0.95 เราก็ต้องดูกันต่อไปอยู่ดีว่าจะออกมาเป็นยังไง แต่ก็ยังมีข่าวดีเบา ๆ เรื่องของ Nikon ที่มี Adapter สำหรับเลนส์ Mount เดิมของ Nikon ซึ่งสามารถใช้ด้วยกันได้
ข้อสรุปเรื่อง Nikon Z7 vs Sony A7RIII อะไรดีกว่ากัน ?
เช่นเดียวกับ Nikon Z6, Nikon Z7 สิ่งที่เราคาดหวังจาก Nikon ก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพให้ได้ในหลาย ๆ ด้านเหมือนที่เคยทำมาในกล้อง Nikon DSLRs เรือธง ตั้งแต่เรื่องการใส่การ์ดสัก 2 ใบ และแบตเตอรี่ที่จำกัดก็อยากให้สามารถใช้งานได้เพิ่มมากขึ้น
หลังจากนี้เราจะเห็นเรื่อง Focus Performance เทียบกันมากขึ้นทั้ง Nikon Z7 vs Sony A7RIII (รวมถึง Nikon Z6 ด้วยแหละ) แล้วก็ความสามารถในการถ่ายวีดีโออีกที
นอกจากนี้ข้อเสียด้านราคาที่เปิดขึ้นมาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับ Sony ที่ได้ทำไว้ แล้วก็อีกเรื่องคือภาพลักษณ์ในการทำ Mirrorless Full Frame ซึ่ง Sony ทำการบ้านออกมาเยอะแล้ว ซึ่งตรงนี้ก็ต้องเอาใจช่วย Nikon ว่าจะออกมาต่อสู้ในสนามกล้อง Mirrorless Full Frame ได้มากแค่ไหน
อ่านบทพื้นฐานด้านการถ่ายภาพ
– เหตุผลที่ควรใช้โหมด M
– โหมด P A S M แตกต่างกันอย่างไร และควรใช้โหมดไหน