Panasonic ได้ทำการเปิดกล้องตัวใหม่คนทำคอนเทนต์สายวิดีโอหลายคนรอคอยอย่างมากคือ Panasonic Lumix GH6 ถูกพัฒนาให้มีความสามารถเก่งขึ้นไปอีกขั้น หลังจากที่ผมได้เห็นข้อมูลจากทางผู้ผลิตแอบตื่นเต้นเองเลยเพราะความสามารถที่ได้ใส่มานั้นคือเหลือล้นมาก ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกไฟล์วิดีโอแบบ 5.7K มี Dynamic Range Boost Mode ซึ่งสามารถถ่ายวิดีโอแบบ HDR ได้ ถ้าคุณเคยถ่ายวิดีโอด้วยกล้องมือถือแล้วรู้สึกว่าแสงสวย ๆ ถ่ายได้ง่าย นั่นเพราะกล้องมือถือมีเซ็นเซอร์เล็กเลยทำ HDR ได้ง่ายกว่า
ทีนี้พอเป็นกล้องใหญ่ที่ถ่าย HDR Video ได้แล้ว ถือว่าสุดมากครับ ทำคอนเทนต์เที่ยวไปจนถึงการถ่ายภาพยนตร์สบาย นอกจากนี้ Dynamic Range ก็กว้างถึง 13+ Stop ทางด้านการถ่าย Slow Motion ก็ทำได้ไม่แพ้กัน เพราะถ่ายได้ถึง 300fps สูงสุด และถ่าย 4K 120p ได้อีก คือใส่เต็มมาจริง ๆ สำหรับรุ่นนี้
จุดเด่นที่น่าสนใจใน Panasonic Lumix GH6
- ความละเอียดวิดีโอ 5.7K ProRes 422HQ ซึ่งเป็นไฟล์คุณภาพสูง เหมาะสำหรับงานวิดีโอ ได้รายละเอียดของไฟล์ที่มากและใช้ในขั้นตอนการตัดต่อได้ดี สามารถบันทึกจากในตัวกล้องได้เลย
- เซ็นเซอร์ถ่ายภาพความละเอียด 25.2 ล้านพิกเซล และมีหน่วยประมวลผลที่เร็วขึ้น
- บันทึกวิดีโอ C4K 422/10bit All-Intra 800mbps data bitrate เก็บรายละเอียดได้ดีมาก ๆ
- บันทึกวิดีโอเฟรมเรตสูง 4K 120p 420/10bit LongGop 300mbps ถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ที่ความละเอียดสูง ใช้งานร่วมกับระบบ Auto Focus ได้ ให้คุณภาพไฟล์ที่ดีด้วย
- บันทึกวิดีโอเฟรมเรตสูง Full HD 240p 422/10bit All-Intra 800mbps เป็นวิดีโอแบบ Slow Motion ที่ได้เฟรมเรทสูงขึ้นอีกระดับนึง และยังได้คุณภาพไฟล์ที่ดี
- บันทึกวิดีโอเฟรมเรตสูง Full HD 300p 420/10bit เน้นไปที่การถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion แบบสูงสุดและยังได้คุณภาพที่ดี
- Dynamic Range กว้างถึง 13+ Stop เก็บรายละเอียดในส่วนมืดและส่วนสว่างได้ดีมาก เหมาะกับงานวิดีโอมาก
- กันสั่นทำได้สูงสุดที่ 7.5 Stop ใช้ระบบกันสั่นทั้งกล้องและเลนส์ร่วมกัน ทำได้ทีทั้งการถ่ายภาพและวิดีโอ
- Dynamic Range Boost ความสามารถที่จะเก็บรายละเอียดของภาพนิ่งและวิดีโอได้ดีขึ้น ซึ่งตัวกล้องจะเก็บส่วนมืดและส่วนสว่างได้มากขึ้นกว่าเดิม
- Unlimited Record อัดวิดีโอได้ต่อเนื่องแบบไม่ตัด
- Hand Held High Resolution 100 megapixels โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูงแบบยกถ่ายแบบปกติได้เลย ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
Firmware Update ที่กำลังจะมารองรับ Panasonic Lumix GH6
- DCI4K Apple ProRes 422HQ/Apple ProRes 422
- FHD Apple ProRes 422HQ/Apple ProRes 422
- USB-SSD Direct Recording
- 4K 120p HDMI Video Output During Live View
- 4K 120p HDMI RAW Video Data Output to Atomos Ninja V+
เซ็นเซอร์ใหม่ความละเอียดสูงขึ้น High Resolution with High Speed Readout
Panaosnic Lumix GH6 ได้ใส่เซ็นเซอร์รุ่นใหม่ที่มีความละเอียด 25 ล้านพิกเซล แบบไม่มี Low-Pass Filter สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 5.7K และ 5.8K แบบ anamorphic (4:3 Video) ซึ่งสามารถที่จะให้ความละเอียดสูงและตอบโจทย์การถ่ายวิดีโอสำหรับงานภาพยนตร์อีกด้วย
นอกจากนี้ยังสามารถที่จะถ่ายวิดีโอใน Dynamic Range ที่กว้างขึ้น พร้อม Boosted Mode ทำให้ได้ Dynamic Range ที่ 13+ Stop ซึ่งรายละเอียดของ Boosted Mode ที่ผมเจอมาจะมีดังนี้นะครับ
1. Dynamic Range Boost Mode จะทำงานใน Creative Mode โดยใช้เฟรมเรต 60fps หรือต่ำกว่า และใช้ ISO ได้ระหว่าง ISO800-12800 (ISO2000-12800 in V-Log/HLG)
2. Dynamic Range 13+ Stop จะได้จากการใช้ ISO2000 เท่านั้น ที่เฟรมเรต 60fps หรือต่ำกว่า
3. ถ้าปิดโหมด Dynamic Range Boost Mode จะมี Dynamic Rage อยู่ที่ 12+ Stop (V-Log/V-Gamut)
ความสามารถของเซ็นเซอร์ใหม่ยังสามารถที่จะถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ได้โหดสุด ๆ นอกจากจะได้เฟรมเรตสูงแล้วยังสามารถที่จะได้ความละเอียดที่สูงด้วย
1. บันทึกวิดีโอเฟรมเรตสูง 4K 120p 420/10bit LongGop 300mbps ถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ที่ความละเอียดสูง ใช้งานร่วมกับระบบ Auto Focus ได้ ให้คุณภาพไฟล์ที่ดีด้วย
2. บันทึกวิดีโอเฟรมเรตสูง Full HD 240p 422/10bit All-Intra 800mbps เป็นวิดีโอแบบ Slow Motion ที่ได้เฟรมเรทสูงขึ้นอีกระดับนึง และยังได้คุณภาพไฟล์ที่ดี
3. บันทึกวิดีโอเฟรมเรตสูง Full HD 300p 420/10bit เน้นไปที่การถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion แบบสูงสุดและยังได้คุณภาพที่ดี
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าเซ็นเซอร์มีความละเอียดที่โดดเด่นมาก และตอบโจทย์การถ่ายวิดีโอได้สุดมากเหมือนกัน
ระบบกันสั่น 5 แกนในตัวแบบ Dual I.S. 2 กันสั่นได้สูงสุดที่ 7.5 Stop
กันสั่นในรุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นทั้งในส่วนของ Gyro-Sensor และ Algorithm ที่ทำให้การทำงานระบบกันสั่นระหว่างกล้องและเลนส์รีดประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด ซึ่งรุ่นนี้กันสั่นได้มากถึง 7.5 Stop
ความสามรถกันสั่นขนาดนี้ทำให้การถ่ายวิดีโอนั้นสามารถที่จะถือถ่ายได้เลย ชดเชยการพึ่งพา Gimbal Stabilizer ได้มาก ซึ่ง Panasonic ทำด้านนี้ได้ดีมาตลอดและก็ยังพัฒนาในส่วนนี้อย่างต่อเนื่องถือว่าโอเคเลยในประเด็นนี้ ผมเชื่อว่าหลายคนจะชอบกันสั่นที่ดีขึ้นแบบนี้ครับ
เลือก Aspect Ratio ในการถ่ายวิดีโอได้ 6 แบบ สำหรับงานวิดีโอและภาพยนตร์
กล้อง Panasonic Lumix S6 ตัวนี้ถ้าเจาะเรื่องการถ่ายวิดีโอในส่วนของ Aspect Ratio ที่คนทำงานแต่ละด้านจะใช้ไม่เหมือนกันเลย ในกล้องรุ่นนี้สามารถที่จะปรับได้ถึง 7 แบบ
1. อัตราส่วน 4:3 Anamorphic ความละเอียด 5.8K (5760×4320) เฟรมเรตที่ถ่ายได้คือ 30p/25p/24p 4:2:0 10-bit
2. อัตราส่วน 4:3 Anamorphic ความละเอียด 4.4K (4352×3264) เฟรมเรตที่ถ่ายได้คือ 60p/50p/48p 4:20:0 10-bit
3. อัตราส่วน 17:9 ความละเอียด 5.7K (5728×3024) เฟรมเรตที่ถ่ายได้คือ 60p/50p/30p/25p/24p 4:2:0 10-bit
4. อัตราส่วน 17:9 ความละเอียด C4K (4096×2160) เฟรมเรตที่ถ่ายได้คือ 60p/50p/48p/30p/25p/24p 4:2:2 10-bit และถ่ายเฟรมเรตสูง 120p/100p 4:2:0 10-bit
5. อัตราส่วน 16:9 ความละเอียด 4K (3840×2160) เฟรมเรตที่ถ่ายได้คือ 60p/50p/30p/25p/24p 4:2:2 10bit และถ่ายที่เฟรมเรตสูง 120p/100p 4:2:0 10-bit
6. อัตราส่วน 16:9 ความละเอียด Full HD (1920×1080) เฟรมเรตที่ถ่ายได้คือ 240p/200p/60p/50p/48p/30p/25p/24p 4:2:2 10bit
จะเห็นได้ว่าอัตราส่วน ความละเอียด และเฟรมเรตที่เลือกได้มีความหลากหลายมากเพื่อให้ตอบโจทย์กับงานวิดีโอทั้งหมด
HDMI Live Output สามารถที่จะต่อจอ External สำหรับ Record Video ได้
คนที่ทำงานด้านวิดีโอมืออาชีพจะมีการถ่ายวิดีโอโดยใช้หน้าจอแยก เช่น Atomos Ninja V+ สามารถที่จะถ่ายวิดีโอแบบ HDMI Output ที่ความละเอียดตามนี้ครับ
1. ความละเอียด 4K อัตราส่วน 16:9, Display Pixels 2880×2160 อัตราส่วน 4:3
2. ความละเอียด C4K อัตราส่วน 17:9, Display Pixels 4096×2160
3. ความละเอียด 4K อัตราส่วน 16:9, Display Pixels 2880×2160 อัตราส่วน 4:3
4. ความละเอียด C4K อัตราส่วน 17:9, Display Pixles 4096×2160
5. ความละเอียด 4K อัตราส่วน 16:9, Display Pixels 3840×2160
6. ความละเอียด Full HD อัตราส่วน 16:9, Display Pixels 1920×1080
ซึ่ง Bit Depth ที่รองรับก็จะมีตั้งแต่ 4:2:2 10-bit และ 4:2:2 8-bit และเฟรมเรตที่ทำได้คือ 60p/50p/30p/25p/24p สำหรับเฟรมเรตสูงทำได้ที่ 120p/100p ส่วนการอัพเดตในอนาคตจะรองรับ 4K 120p HDMI Video Output During Live View, 4K 120p HDMI RAW Video Data Output to Atomos Ninja V+ ครับ
มี Waveform Monitor, Vector Scope ให้ในตัวสำหรับงานถ่ายวิดีโอ
ฟีเจอร์ Waveform และ Vector Scope มีความจำเป็นมากสำหรับการถ่ายวิดีโอ เพราะใช้ดูในเรื่องของแสงและสีที่เราถ่ายมาก ปกติแล้วถ้าจะใช้ฟีเจอร์เหล่านี้จำเป็นต้องหา External Monitor มาทำงานอีกที
แต่ด้วยที่ทาง Panasonic มีความชำนาญในด้านวิดีโอเป็นพิเศษก็เลยใส่ Waveform และ Vector Scope มาให้เลย ถือว่าสะดวกมาก ๆ สายวิดีโอยังไงก็ได้ใช้ครับ
หน้าจอ Monitor ที่สามารถยกหลบสาย Connector ได้ ทำให้ปรับมุมมองได้อิสระมากขึ้น
จุดอัพเดตเล็ก ๆ ที่สำคัญเลยคือจอด้านหลังกล้องสามารถที่จะยกหลบสายเชื่อมต่อได้ ทำให้สะดวกทั้งในมุมการต่อสายที่ไม่ต้องกังวลว่าจะลำบากตอนพับหน้าจออีกทั้งยังทำให้หน้าจอ Monitor สามารถใช้งานได้อย่างอิสระมากขึ้น ในส่วนนี้เป็นประโยชน์มากครับ
บอดี้ออกแบบให้มีความทนทานสูงและสามารถที่จะระบายความร้อนได้ดีด้วย แถมชัตเตอร์อึดถึง 200,000 ครั้ง
Panasonic Lumix GH6 มีการอัพเกรดในเรื่องของระบบระบายความร้อนที่ทำได้เร็วขึ้นและดีขึ้นเพื่อการตอบโจทย์งานในด้านวิดีโอความละเอียดสูง
โดยการทำงานคร่าว ๆ คือแหล่งกำเนิดความร้อนจะมี 2 จุดด้วยกัน Venus Engine ที่เป็นตัวประมวลผลและ CFexpress Card ความร้อนที่เกิดขึ้นจะวิ่งผ่าน Graphite Sheet และ Thermal Interface Material
จากนั้นจะถูกส่งออกไปตรงจุดระบายความร้อนซึ่งประกอบไปด้วย Heat Dissipation Fins ด้านข้างจะมีพัดลมประกบเป่าความร้อนออกไปตรง ๆ เลย ทำให้ระบบระบายความร้อนทำได้ดีมากส่งผลให้กล้อง Panasonic Lumix GH6 นั้นถ่ายวิดีโอต่อเนื่องได้แบบไม่มีตัดครับ
ในส่วนของบอดี้นั้น ออกแบบให้เป็น Weather Sealed กันน้ำกันฝุ่น และตัวบอกดี้ใช้แมกนีเซียมอัลลอยด์ซึ่งมีความแข็งแรงทนทาน ความอึดของชัตเตอร์ก็เคลมไว้ที่ 200,000 ครั้งเลยด้วยครับ
โหมดถ่ายภาพความละเอียดสูง High Resolution Mode 100MP แบบถือถ่ายได้เลย ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
การถ่ายภาพความละเอียดสูงที่ใช้เทคโนโลยีของกล้องในการมาช่วยให้เซ็นเซอร์ Micro 4/3 สามารถถ่ายภาพได้ถึง 100 ล้านพิกเซลได้ ซึ่งหลักการทำงานคือกล้องจะขยับเซ็นเซอร์และถ่ายภาพทีละใบจำนวน 8 ภาพอย่างรวดเร็ว แล้วก็เอาภาพพวกนั้นมารวมกันทำให้ได้ความละเอียดภาพที่สูงขึ้นมาก
ซึ่งไฟล์ที่ได้ก็สามารถถ่ายได้ทั้ง RAW และ JPG ที่โดดเด่นคือถ่ายได้แบบไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องเลย เป็นอะไรที่พิเศษมาก ถ้าหากคุณต้องการถ่ายภาพวิวแบบเน้นความละเอียด ถ่ายภาพสินค้า ก็จัดเต็มในโหมดนี้ได้ครับ
ปุ่มปรับถูกวางในตำแหน่งที่เหมาะสมใช้งานสะดวกคล่องมือ รองรับงาน Production ขนาดใหญ่
ประสิทธิภาพที่สูงขึ้นของกล้องและความซับซ้อนในการทำงาน บอดี้ของกล้องและการออกแบบปุ่มกดใช้งานได้ถูกจัดวางเพื่อให้ผู้ใช้ได้เข้าถึงการใช้งานในส่วนต่าง ๆ ได้ง่ายที่สุด ทั้งการจัดวางองศาปุ่มควบคุม การปรับตัวบอดี้ให้ถือได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น ทั้งยังออกแบบไว้เพื่อรองรับการทำงานเมื่อต้องต่อเข้ากับอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มการทำงานในระกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไว้ให้อีกด้วย
ระบบประมวลผลทำงานเร็วขึ้นสองเท่า ทำงานเร็วขึ้น ประสิทธิภาพสูงขึ้น ภาพสวย สีสันสมจริง น็อยซ์ลดลง
Venus Engine ที่นำมาใช้ให้การประมวลผลสูงขึ้นประมาณสองเท่า ให้ความละเอียด และบิตเรตวิดีโอที่สูงขึ้น ทำงานเร็วมากขึ้น และ Dual 3D Color Control ที่ให้กล้องถ่ายทอดเรื่องราวของสีสันด้วยความแม่นยำสูง ทั้งความสว่าง ความอิ่มตัว และสีและระบบลดนอยส์เพื่อให้เห็นรายละเอียดภาพและสีสันได้ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อการถ่ายทอดภาพที่สวย คมชัด ภาพมีมิติที่ดูเป็นธรรมชาติ ทั้งสีสันสมจริง และมีนอยส์ในระดับต่ำ
Photo Style สวย ๆ แบบจบในกล้องแบบไม่ต้องพึ่งคอม
ในตัวกล้องเองสามารถที่จะเลือก Picture Profile ได้หลากหลายแบบ เช่น L. Classic Neo, L.Monochorme S, Cinelike D2/V2 พวกนี้สามารถใช้ได้ทั้งโหมดภาพนิ่งและวิดีโออีกทั้งยังสามารถปรับแต่งค่าแต่ละอย่างแบบละเอียดได้ด้วย ซึ่งทำให้คนที่อยากจะจบทุกอย่างจากในกล้องก็ทำได้ทันทีครับ
HDMI Live Output ส่งสัญญาณวิดีโอออกทางพอร์ต HDMI แบบความละเอียดสูง ProRes และจะมีอัพเดตเป็น ProRes RAW ในเร็ว ๆ นี้