Saramonic Blink 500 Pro B3 ไมโครโฟนไร้สายหนีบปก ที่เกิดมาเพื่อตอบโจทย์ให้แก่ Vlogger YouTuber แม่ค้าออนไลน์ และ นักข่าวที่ลงพื้นที่ถ่ายทอดสดด้วยมือถือแบบในยุคปัจจุบัน ผลิตมาสำหรับผู้ที่ใช้งานอุปกรณ์ในระบบ iOS โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น iPhone iPad ที่มีพอร์ต Lightning สามารถใช้งานกับอุปกรณ์ได้โดยที่ไม่ต้องใช้ตัวแปลงหรือต้องต่อสายเพิ่มเติมให้รบกวนการทำงาน น้ำหนักเบาพกพาง่าย มาในกล่องชาร์จ ที่สามารถชาร์จไมโครโฟนได้ ใช้งานง่ายเชื่อมต่อตัวรับตัวส่งด้วยการกดแค่ทีเดียว
Saramonic Blink 500 Pro B3 ให้คุณภาพเสียงที่นุ่มนวล ชวนน่าฟัง เพิ่มความน่าสนใจให้กับงานวิดีโอหรือการ Live Streaming มีการรับส่งสัญญาณที่เสถียรและได้ระยะไกล ด้วยสัญญาณ 2.4 GHz ตัวรับสัญญาณเชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต Lightning โดยเฉพาะ ตัวส่งสัญญาณเป็นไมโครโฟนในตัวที่รองรับการใช้งานร่วมกับไมค์ลาวาเลียร์ หน้าจอ OLED แสดงความแรงสัญญาณ ระดับแบตเตอรี่ คลื่นเสียงเมื่อพูด ช่วยให้ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ได้ ที่หนีบมีความแข็งแรงไม่ทำให้ัตัวส่งสัญญาณหล่นจากปกเสื้อหรือกางเกง ( กรณีใช้เป็นตัวส่งร่วมกับไมค์ลาวาเลียร์ ) แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน สามารถใช้งานได้ 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ
รีวิว Saramonic Blink 500 Pro B3 ไมโครโฟนไร้สายหนีบปก ตอบโจทย์สำหรับ Content Creator และงานออนไลน์ที่ต้องการความคล่องตัวกับอุปกรณ์ iOS
จุดเด่นที่น่าสนใจของ Saramonic Blink 500 Pro B4
- ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ระบบ iOS ได้อย่างง่ายดาย แค่เสียบก็พร้อมใช้งาน
- เชื่อมต่อระหว่างตัวรับและตัวส่งภายในคลิ๊กเดียว ช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็ว
- Wireless 2.4 GHz รับส่งข้อมูลได้รวดเร็วและเสถียร เสียงไม่ดีเลย์
- ใช้งานห่ากจากตัวรับสัญญาณได้ไกลถึง 100 เมตร
- สามารถตรวจสอบเสียงได้จากตัวรับสัญญาณ ด้วยแจ็ค 3.5 mm
- จอ OLED แสดงความแรงของสัญญาณ ระดับเสียง และระดับแบตเตอรี่เพื่อความคล่องตัวในการตรวจสอบ
- เลือก Output เสียงได้ 2 รูปแบบ Mono และ stereo สามารถแก้ไข ตัดต่อภายหลังได้
- ไมโครโฟนในตัว รับเสียงรอบทิศทาง พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน ให้เสียงที่ชัดเจน
- ใช้งานร่วมกับไมค์ลาวาเลียร์ได้ เพื่อความเป็นธรรมชาติที่จะไม่เห็นตัวส่งสัญญาณ
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 8 ชั่วโมง รองรับการใช้งานทั้งวัน
ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ในตระกุล iOS ที่มีพอร์ต Lightning ได้อย่างสะดวก
ไมโครโฟนไร้สายหนีบปก ส่วนใหญ่เมื่อจะนำไปใช้กับโทรศัพท์มือถือ หรือ อุปกรณ์อื่น ๆ ค่อนข้างที่จะลำบากเพราะในบางอุปกรณ์ต้องใช้สายแปลงสัญญาณ หลายขั้นตอน แต่ Saramonic Blink 500 Pro เพียงแค่นำตัวรับสัญญาณ เสียบเข้ากับพอร์ต Lightning ของอุปกรณ์ในตระกูล iOS ไม่ว่าจะเป็น iPad iPhone ก็พร้อมใช้งานโดยที่ไม่มีสายหรือหัวแปลงสายสัญญาณ รบกวนอีกต่อไป
สามารถมอนิเตอร์เสียงได้จากตัวรับสัญญาณด้วยแจ็ค 3.5 mm
ที่ตัวรับสัญญาณมีช่องเสียบแจ็ค 3.5 mm ไว้สำหรับเสียบหูฟังเพื่อใช้ในการมอนิเตอร์ตรวจสอบเสียง ได้จากตัวรับสัญญาณโดยที่ไม่ต้องใช้สายแปลงสัญญาณ สำหรับพอร์ต Lightning สามารถใช้เสียบหูฟังได้เลยสะดวกในการใช้งานเป็นอย่างมาก
ให้คุณภาพเสียงดี ช่วยให้วิดีโอหรือการ Live-Streaming มีความน่าฟังมากขึ้น
คุณภาพเสียงของไมโครโฟน Saramonic Blink 500 Pro นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นไมโครโฟนที่สามารถรับเสียงได้เป็นอย่างดีโดยมีการรับเสียงรอบทิศทาง และให้ความละเอียดของไฟล์เสียงที่สูง 24-bit /44.1kHz และยังสามารถตัดเสียงรบกวนรอบ ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงการจราจรหรือเสียงพูดคุยอื่น ๆ จึงช่วยให้วิดีโอ หรือ คอนเทนท์ของเรา มีความน่าฟัง
สามารถเลือก Output ระหว่างโหมด Mono และ Stereo
Saramonic Blink 500 Pro สามารถเลือก Output ของเสียงได้ระหว่าง Stereo ที่จะแยกระหว่างตัวส่งสัญญาณแต่ละตัว ให้เสียงอยู่คนละช่องกัน โดยไมค์ตัวที่1เสียงอาจจะอยู่ที่ด้านซ้าย และ ตัวที่2เสียงอยู่ที่ด้านขวา ช่วยให้เมื่อนำไปเข้าในโปรแกรมตัดต่อก็สามารถแก้ไขเสียงได้ และ Mono ที่นำเอาเสียงจากทั้งสองตัวมารวมไว้ด้วยกัน ซึ่งสามารถนำเสียงไปใช้งานได้ในทันที
ตัวส่งสัญญาณสามารถใช้งานกับไมค์ลาวาเลียร์ ที่มาพร้อมกับตัวหนีบที่ให้ความมั่นคง
ตัวส่งสัญญาณนอกจากจะเป็นไมโครโฟนแล้วนั้น เมื่อเสียบไมค์ลาวาเลียร์เข้าไปยังช่องเสียบ 3.5mm ยังทำหน้าที่เป็นที่ส่งสัญญาณให้กับไมค์ลาวาเลียร์อีกด้วย สามารถใช้หนีบที่เข็มขัด หรือของกางเกงได้ ช่วยให้การซ่อนไมค์ เพื่อความดูเป็นมืออาชีพ สามารถทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
สามารถตรวจสอบการทำงานของไมโครโฟนได้ที่ หน้าจอ OLED ที่แสดงสถานะการใช้งาน
เครื่องส่งสัญญาณมีหน้าจอ OLED ที่มีความละเอียดมากถึง 128 x 64 Pixel สามารถมองเห็นได้ชัดเจนทั้งงานในสถานที่และนอกสถานที่ มีการแสดงสถานะของแบตเตอรี่ ความแรงของสัญญาณ และสัญญาณของเสียงไมโครโฟน เพื่อช่วยให้ตรวจสอบการทำงานของตัวไมโครโฟนได้ง่ายขึ้น
กล่องเคสชาร์จที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการพกพา
กล่องเคสชาร์จที่อำนวยความสะดวกในการพกพา โดยการนำตัวส่งสัญญาณทั้ง 2 ตัวและตัวรับสัญญาณ ใส่ไว้ในกล่องเดียวกัน จึงช่วยให้การพกพาสามารถนำใส่กระเป๋าสะพายพกติดตัวไปได้ทุกที่ เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่ต้องใช้งานทันที
แบตเตอรี่ที่สามารถทำงานได้ครอบคลุมเกือบทั้งวัน
ตัวส่งสัญญาณ สามารถทำงานได้ 8 ชั่วโมง และยังมีกล่องกล่องเก็บที่สามารถชาร์จไฟ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดในตอนทำงานแล้วต้องหาปลั๊กไฟเพื่อเสียบชาร์จไฟ เพิ่มความคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น