การถ่ายภาพเพื่อให้เเสดงถึงเรื่องราวเเละกิจกรรมที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ไม่เพียงเเต่ต้องมีตัวเเบบที่สื่อสารชัดเท่านั้น
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นถ่ายภาพ เพิ่งจะมีกล้องถ่ายรูป หรือเพิ่งจะได้ลองถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายรูป ก็จะรู้สึกว่ากล้องถ่ายรูปมีหลายปุ่มหลายฟังก์ชั่น ที่ไม่รู้ว่าเอาไว้ทำอะไรบ้าง วิธีการที่ดีที่สุดคือการศึกษาคู่มือกล้องให้ดีก่อน ว่าปุ่มอะไรทำหน้าที่อะไรบ้าง จะได้ไม่งง เเละสับสน ถ้าจะต้องใช้กล้องจริง ๆ อ่านบทความพื้นฐานการถ่ายภาพย้อนหลังได้ที่นี่ พื้นฐานการถ่ายภาพสำหรับผู้เริ่มต้น : ตอนที่ 1 เรื่องการเปิดรับเเสง (EXPOSURE) พื้นฐานการถ่ายภาพสำหรับผู้เริ่มต้น : ตอนที่ 2 เรื่องรูรับแสง (APERTURE) พื้นฐานการถ่ายภาพสำหรับผู้เริ่มต้น : ตอนที่ 3 ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) พื้นฐานการถ่ายภาพสำหรับผู้เริ่มต้น : ตอนที่ 4 ความไวแสง (ISO) ส่วนเรื่องโหมดการใช้งานนั้น มาดูโหมดการวัดเเสงก่อนว่าทำหน้าที่อะไร เเละช่วยในการถ่ายภาพอย่างไรบ้าง …
ความไวเเสง (ISO) เป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมเเสง ร่วมกับรูรับเเสง เเละความเร็วชัตเตอร์ มีผลโดยตรงกับคุณภาพของภาพ เเละรายละเอียดของภาพ ความไวเเสงคืออะไร ? ISO ย่อมาจาก International Standards Organization ซึ่งเป็นองค์กรที่ทำด้านมาตรฐานต่าง ซึ่งมาตรฐาน ISO นี้ จะระบุวิธีการกำหนดและรายงานการจัดอันดับความไวแสง ค่าความไวแสงมาตรฐานและค่าดัชนีการรับแสงที่แนะนำสำหรับกล้องถ่ายภาพนิ่งดิจิตอล ISO 12232: 2006 ใช้ได้กับกล้องถ่ายภาพขาวดำและสี โดยปกติเเล้ว ISO จะเริ่มที่ 100 และเพิ่มขึ้นทีละเท่าตัว 100, 200, 400, 800, 1600 …โดยค่าเริ่มต้น เเละค่า ISO ที่สูงที่สุดจะขึ้นอยู่กับกล้องที่ใช้ด้วยว่าจะปรับค่า ISO …
ความเร็วชัตเตอร์คืออะไร ? อธิบายได้ง่าย ๆ คือช่วงเวลาที่เปิดรับเเสง ให้เข้าไปยังเซ็นเซอร์ของกล้อง โดยเมื่อเปิดให้เเสงเข้านาน ก็อาจจะทำให้ภาพที่ถ่าย ไม่คมชัด เบลอ โดยมีชัตเตอร์กล้องทำหน้าที่ปิด เปิด เพื่อรับเเสง โดยค่าที่เเสดงจะเป็นตัวเลข โดยมีหน่วยเป็นเวลาคือ วินาที เช่น ความเร็วชัตเตอร์ 1/60 วินาที คือ 1 ส่วน 60 วินาที หรือ 30” ก็คือ 30 วินาที นั่นเอง การถ่ายภาพโดยให้เห็นการเคลื่อนไหว (Motion Blur) และการถ่ายภาพเเบบหยุดการเคลื่อนไหว (Freezing) การถ่ายภาพโดยให้เห็นการเคลื่อนไหว (Motion Blur) การถ่ายภาพเพื่อให้เห็นลักษณะการเคลื่อนไหว …
หนึ่งในสามค่าที่สำคัญในการควบคุมเเสง คือรูรับเเสง (Aperture) โดยรูรับเเสง เป็นเครื่องมือที่ใช้ควบคุมแสงที่เข้าสู่เซ็นเซอร์กล้อง การเข้าใจการใช้รูรับเเสงจะช่วยให้การถ่ายภาพการจัดมุมมอง เเละการวางมิติภาพให้ดีขึ้น รูรับเเสงคืออะไร? สิ่งที่จะช่วยอธิบายกลไกและหน้าที่ของรูรับเเสงได้ดีที่สุดคือ รูม่านตาของมนุษย์ ซึ่งจะสังเกตว่า รูม่านตาของมนุษย์ จะหดเเละขยายตัว เมื่อมีเเสงเข้ามากระทบ ถ้าเเสงจ้า รูม่านตาจะหด ถ้าเเสงน้อย หรือในที่มืด รูม่านตาจะขยาย ซึ่งก็เหมือนกับการทำงานของรูรับเเสงนั่นเอง ถ้าอยากให้เเสงเข้าไปที่เซ็นเซอร์กล้องน้อย ก็ปรับให้รูรับเเสงเเคบ เเต่ถ้าอยากให้เเสงเข้ามากขึ้นก็ปรับรูรับเเสงให้กว้างขึ้นนั่นเอง ซึ่งการปรับค่ารูรับเเสงสามารถสร้างสรรค์เอฟเฟคในการถ่ายภาพได้ ทำให้ภาพดูสวยงามเเละดูน่าสนใจมากขึ้น ค่าที่ใช้ในการวัดรูรับเเสง รูรับเเสง หรือค่ามที่ใช้ในการวัดรูรับเเสงคือ f-stop scale ซึ่งเวลาพูดถึงรูรับเเสง จะเห็นสัญลักษณ์ ‘f/’ และตามด้วยตัวเลข ซึ่งตัวเลขน้อยเท่าไหร่ ก็หมายความว่า รูรับเเสงก็กว้างขึ้นเท่านั้น ซึ่งการปรับค่ารูรับเเสงจะมีส่วนในการถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลอ หรือที่พูดกันคือ ชัดลึกชัดตื้นนั่นเอง …
ในบทนี้จะพูดถึงการเปิดรับเเสงให้เหมาะสมในเเต่ละสถานการณ์ โดยอาศัยการทำงานที่สัมพันธ์กันระหว่าง รูรับเเสงที่เกี่ยวข้องกับความชัดลึกชัดตื้นของภาพ เเละความเร็วชัตเตอร์ ที่จะเป็นตัวกำหนดการเคลื่อนไหวในภาพว่าจะหยุดการเคลื่อนไหว หรือให้เห็นการเคลื่อนที่เเละทิศทางในภาพ และค่าความไวเเสงจะช่วยเพิ่มเเสงขึ้นก็จริง เเต่จะมีผลต่อการเกิด noise และ grain ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของภาพโดยตรง 3 ข้อความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการเปิดรับเเสง (EXPOSURE) 1. แสงจะส่องลอดผ่านรูรับเเสง (Aperture) ของเลนส์เข้าสู่กล้อง รูรับแสงกว้าง แสงจะเข้าที่กล้องมาก รูรับแสงแคบแสงจะเข้าที่กล้องน้อย รูรับเเสงจะมีผลต่อความชัดลึดชัดตื้นของภาพ หรือหน้าชัดหลังเบลอนั่นเอง ถ้ารูรับเเสงกว้างก็จะได้ภาพที่หน้าชัดหลังเบลอ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคล ถ้ารูรับเเสงเเคบลง ภาพก็จะชัดทั้งภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลเเบบกลุ่ม หรือภาพวิวทิวทัศน์ 2. ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter speed) เป็นค่าที่กำหนดปริมาณเเสงที่เข้าไปยังเซ็นเซอร์ของกล้องเพื่อบันทึกภาพ ความเร็วชัตเตอร์เพิ่มขึ้น แสงจะเข้ากล้องน้อยลง ความเร็วชัตเตอร์ช้าลงจะทำให้แสงเข้าได้มากขึ้น ใช้กับการถ่ายภาพเพื่อให้เห็นการเคลื่อนที่และหยุดการเคลื่อนไหว 3. ค่าความไวเเสง (ISO) เป็นค่าที่กำหนดในการเปิดรับเเสงให้มากขึ้น …
การถ่ายภาพเเนว Minimalism กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทคนิคการถ่ายภาพเเนวนี้ใช้ได้กับการถ่ายภาพหลายเเนว เช่น วิวทิวทัศน์ สินค้า สถาปัตยกรรม ของตกเเต่งบ้าน หรือเเนวไอเดีย
อัตราส่วนภาพของภาพ เป็นความสัมพันธ์ของความยาวด้านกว้าง เเละความสูงของภาพ เหตุผลที่เราต้องเข้าใจ เรียนรู้เรื่องอัตราส่วนภาพ ก็เพราะว่ามันเกี่ยวของกับการจัดองค์ประกอบภาพยังไงล่ะ อัตราส่วนภาพ คืออะไร? อัตราส่วนภาพจะถูกกำหนดโดยขนาดของเซนเซอร์กล้องซึ่งถ่ายจากความกว้างและความสูงของภาพ (W: H) ตัวอย่างเช่นหากเซนเซอร์กล้องกว้าง 36 มม. และสูง 24 มม. อัตราส่วนภาพจะเท่ากับ 3: 2 (ไม่ใช่ 36 มม. x 24 มม.) ในปัจจุบัน สัดส่วนที่ใช้และที่เห็นได้ทั่วไปคือ 3:2, 1:1 หรือ 4:3 เเละก็มีขนาดเเบบพาโนรามา อัตราส่วนภาพ 3:2 มาจากกล้องที่มีระบบเซ็นเซอร์ภาพขั้นสูงประเภท C (APS-C) จากกล้อง DSLR …
การจัดองค์ประกอบภาพ แบบเปิดเเละเเบบปิด (open and closed composition) คืออะไร ? เมื่อพูดถึงการจัดองค์ประกอบภาพก็จะต้องนึกถึง Gridline กฏสามส่วน และทฤษฏีการจัดองค์ประกอบอีกมากมาย
เทคนิควิธีการถ่ายภาพมีให้เรียนรู้กันอย่างมากมาย ทั้งสิ่งที่ต้องจำ เเละสิ่งที่ต้องฝึกฝนเรียนรู้กันอย่างไม่รู้จบ บางเทคนิคก็ยากที่จะเข้าใจ ขนาดความรู้พื้นฐานยังคงต้องเปิดโน๊ตที่จดไว้ก่อนถ่ายภาพซะอีก บทความนี้จะช่วยให้ผู้เริ่มต้นถ่ายภาพ จดจำค่าต่าง ๆ และวิธีการตั้งค่าได้ง่ายขึ้น