Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

ทำไม Content Creator ควรมีฟิลเตอร์ VND และ C-PL ไว้ใช้สำหรับผลิต Content วิดีโอ เพื่อให้การทำงานง่ายขึ้นและได้คุณภาพที่ดี

ทำไม Content Creator ควรมีฟิลเตอร์ VND และ C-PL ไว้ใช้สำหรับผลิต Content วิดีโอ ซึ่งเนื้อหานี้จะเป็นการแนะนำคนเริ่มต้นที่อยากจะเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ทำงานด้านวิดีโอได้เข้าใจว่าทั้ง VND และ C-PL มีความจำเป็น และให้ผลที่ดีต่อการทำงาน

ทำไม Content Creator ควรมีฟิลเตอร์ VND และ C-PL ไว้ใช้สำหรับผลิต Content วิดีโอ

เหตุผลที่ต้องใช้ฟิลเตอร์ VND สำหรับการผลิตคอนเทนต์วิดีโอ

ฟิลเตอร์แบบ VND ในการถ่ายวิดีโอนั้นมีความจำเป็นมาก เนื่องด้วยจากการใช้คุมปริมาณแสงก่อนที่จะเข้าสู่เลนส์ได้โดยตรง ทำให้ไม่ต้องไปยุ่งกับการตั้งค่ารูรับแสง, ISO, Shutter Speed สำหรับการคุมปริมาณแสงแต่อย่างใด ช่วยให้การทำงานด้านวิดีโอสะดวกขึ้นหลายอย่าง

เช่น การคุมให้ Shutter Speed ให้คงที่ตามต้องการ ไม่ต้องใช้ Shutter Speed ในการควบคุมแสง หรือแม้แต่การใช้รูรับแสงที่กว้างมาก ๆ ในการถ่ายวิดีโอตอนกลางวันก็ทำได้ดีเลย

เหตุผลที่ต้องใช้ฟิลเตอร์ C-PL สำหรับการผลิตคอนเทนต์วิดีโอ

ในการถ่ายวิดีโอเราจะเจอแสงสะท้อนอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นบนพื้นผิววัสดุ ผิวน้ำ กระจก การที่เกิดเงาสะท้อนขึ้นทำให้รายละเอียดที่ควรจะมีนั้นหายไป ซึ่งเกิดปัญหาในการทำงานอย่างมาก การเลือกใช้ฟิลเตอร์ C-PL ก็จะช่วยลดปัญหาตรงนี้ลงได้เยอะเลย

เราควรซื้อทั้ง 2 ฟิลเตอร์นี้พร้อมกัน หรือเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก่อนดี?

ถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกฟิลเตอร์ทั้ง 2 แบบนี้ แต่ถ้าหากเลือกได้ทีละอย่าง ควรใช้ VND ก่อน เพราะเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย ในงานวิดีโอเราจะต้องใช้ค่า Shutter Speed คงที่ให้สัมพันธ์กับ Frame Rate เพื่อให้ได้ Motion Blur ดังนั้น VND Filter เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

คำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกใช้ฟิลเตอร์

ควรเลือกฟิลเตอร์ที่ใช้ Optical Glass ในการผลิตกระจก เพื่อที่จะให้สีสันเที่ยงตรง และควรมี Multi Coating อย่างน้อย 10 ชั้น เพื่อป้องกันรอยขีดข่วนจากการใช้งานซึ่งมักเกิดขึ้นได้

หากสนใจฟิลเตอร์สำหรับการถ่ายวิดีโอ สามารถสอบถาม Lnwgadget ได้เลยครับ พร้อมให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย

Exit mobile version