Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

ถ่ายวิดีโอด้วยมือถือให้สวย ด้วยการตั้งค่าเพื่อให้เกิด Motion Blur ในวิดีโอ

เมื่อเราถ่ายวิดีโอแล้ว อยากได้วิดีโอที่ดี ควรจะให้วิดีโอดูนุ่มนวลแล้วสบายตา เกิดการเคลื่อนไหวเวลาแบบขยับตัว สิ่งนั้นจะเหมือนกับงานภาพยนตร์ และสิ่งนั้นเรียกว่า Motion Blur ซึ่ง Motion Blur จะเหมือนกับเราถ่ายวิดีโอแล้วเห็นความเคลื่อนไหว เหมือนสายตาของเรานั้นเอง แต่ปัญหาคือเมื่อเวลาเราถ่ายวิดีโอโดยมือถือ มันจะไม่ค่อยเกิดขึ้น มีปัยจัยอยู่ 2 อย่าง โดยเราจะมาเรียนรู้การถ่าย Motion Blur ให้เหมือนกับการถ่ายภาพยนตร์มืออาชีพเลย

ถ่ายวิดีโอด้วยมือถือให้สวย ด้วยการตั้งค่าเพื่อให้เกิด Motion Blur ในวิดีโอ

วิธีการถ่ายวิดีโอให้เกิด Motion Blur ต้องรู้อะไรบ้าง

มีหลักการง่ายๆ คือให้เราตั้ง Sutter Speed มีค่าเป็น 2 เท่าของ Frame Rate ซึ่งเป็นสิ่งที่ง่ายสุดที่เราทำได้เลย ยกตัวอย่างเช่นวิดีที่ทาง PhotoSchoolThailand ถ่ายอยู่เป็นประจำ จะถ่ายด้วย Frame Rate 30 fps  เพราะฉะนั้น Sutter Speed ต้องตั้งที่ 1/60

เฟรมเรทที่ 30 เฟรมต่อวินาทีใช้ Sutter Speed ที่ 1/60

เพียงแค่นี้ Sutter Speed ก็จะสัมพันธ์กับ Freme Rate แล้ว ทำให้กิด Motion Blur ซึ่งปัญหาต่อมาคือกล้องมือถือไม่สามารถตั้งแบบแมนนวลได้ เพราะงั้นเวลาเราถ่ายอัตโนมัติ Sutter Speed และก็ค่าทุกอย่าง มือถือเขาจะตั้งค่าให้เราเองหมด

ปัญหานี้จะเกิดกับกล้อง iPhone ซะส่วนใหญ่ เราจะสามารถตั้งค่าได้แค่ Frame Rate เราไม่สามารถตั้งค่า Sutter Speed ที่เราต้องการได้ เพราะงั้นเวลาที่เราถ่ายวิดีโอมันจะดูแข็งๆ ไม่สมูท มันไม่ลื่น เหตุผลเพราะว่า Frame Rate มันไม่ได้สัมพันธ์กับ Sutter Speed มันก็เลยทำให้ตัววิดีโอของเราดูแข็งเกินไป

แอพพลิเคชั่นที่เเนะนำคือ I FilMiC Pro

การเลือกใช้แอพพลิเคชั่นในมือถือก็มีผล เพราะแอพเดิมๆ จากมือถือมันไม่สามารถใช้ได้ เราต้องแอพเฉพาะกับการถ่ายโดยแอพที่เราแนะนำคือ I FilMiC Pro แอพตัวนี้จะเป็นแอพที่เขาใช้ถ่ายวิดีโอแบบจริงจังด้วยมือถือ ข้อดีของมันคือเราสามารถตั้งค่าทุกอย่างได้เหมือนกล้องใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Sutter Speed เรื่องของสี ซึ่งสามารถทำได้เหมือนกล้องโปรทุกอย่างเลย หรือถ้าเรามีแอพอื่นที่ถนัดอยู่แล้ว ก็ใช้ตัวอื่นได้นะ  การใช้งานของแอพตัวนี้ จะมีหน้าตาคล้ายๆ กับแอพของ iPhone เลย แต่จุดที่มันต่างก็คือเราสามารถตั้งค่า Sutter Speed ได้

แสงที่เข้ามาจะมีมากเกินไป เพราะค่า Sutter Speed สูง

โดยถ้าเราถ่ายวิดีโอในที่ๆ แสงมาก ค่าเดิมของ Sutter Speed จะสูงมาก และเมื่อเราปรับ Sutter Speed ให้ลดลงสัมพันธ์กับค่า Frame Rate แสงที่เข้ามาจะมีมากเกินไป

ใช้ ND Filter ช่วยลดปริมาณแสงลง

ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลที่เราจำเป็นต้อง ND Filter ซึ่งหน้าที่ของ ND Filter คือ มันทำหน้าที่ลดปริมาณแสงลง เพื่อให้ได้ปริมาณแสงที่เราต้องการกับการถ่ายวิดีโอของเรา

สรุป

กล้องมือถือของเราเขาจะตั้งค่าทุกอย่าง Auto หมด เพื่อให้ได้แสงที่พอดี แต่ว่า Motion Blur มันจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก Sutter Speed ไม่ได้สัมพันธ์กับ Frame Rate นั้นเอง โดยหลักการคือ Sutter Speed ต้องมีค่าเป็นสองเท่าของ Frame Rate และเราต้องไม่ลืมที่จะหาแอพมือถือในการถ่ายวิดีโอแบบโปรเลย เราจะได้ตั้งค่าแบบแมนนวลทั้งหมด และเมื่อแสงมันเข้ามากเกินไปเมื่อเราลด Sutter Speed ลง เราก็ต้องใช้ ND Filter เพื่อลดแสงลง ทำให้ได้วิดีโอที่ดีมี Motion Blur แบบที่เราต้องการได้ และปริมาณแสงที่พอดีอีกด้วยนั้นเอง

อ่านบทความเกี่ยวกับ Mobile photography ได้ที่นี่

source : https://www.photoschoolthailand.com/

Exit mobile version