Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

พรีวิว Canon EOS M6 Mark II กล้องขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็วไม่พลาดเสี้ยววินาทีสำคัญ

พรีวิว Canon EOS M6 Mark II กล้องขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา แต่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับความสามารถในการถ่ายภาพได้ถึง 14 เฟรมต่อวินาที และเหมาะกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหว ที่สำคัญยังพกพาไปไหนมาได้ได้สะดวกด้วย และแน่นอนว่านี่คือกล้องที่เพอร์เฟกต์สำหรับคนที่ชอบการถ่ายภาพ และการท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ ในทุกๆ วัน

พรีวิว Canon EOS M6 Mark II กล้องขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ตอบสนองการใช้งานได้อย่างรวดเร็วไม่พลาดเสี้ยววินาทีสำคัญ

ข้อมูลเฉพาะ Canon EOS M6 Mark II

ดังนั้น EOS M6 Mark II เป็นหนึ่งในกล้องมิเรอร์เลส ที่มีขนาดเล็กมาก ฉะนั้นอาจจะไม่เหมาะกับช่างภาพที่มีมือขนาดใหญ่ แต่ถ้าคุณมองหากล้องที่ใช้พกพาเอาไว้เดินทางหรือใส่ในกระเป๋าใบเล้ก นี่คือหนึ่งในตัวเลือกที่ต้องพิจารณา ด้วยรูปทรงที่เหมือนกับกล้องขนาดมินิ SLR แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ก็ถือได้ว่าเป็นกล้องที่ใช้ได้เลยทีเดียว

ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา

สำหรับ Canon EOS M6 Mark II มีน้ำหนักเพียง 0.90 ปอนด์ หรือ 2.55 กิโลกรัมเท่านั้น และมีขนาดมิติองค์รวมอยู่ที่ 4.72 x 2.76 x 1.93 นิ้ว ดังนั้นนี่เป็นกล้องที่ง่ายต่อการยัดใส่กระเป๋าใบโต เพราะขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา นี่จึงเป็นกล้องที่เพอร์เฟกต์สำหรับคู่รัก หรือคู่หู (ใครก็ได้) ที่นิยมการออกไปท่องเที่ยว

EOS M6 Mark II มีดีไซน์ที่โดดเด่นสามารถพกพาไปที่ไหนก็ได้ และมีความหลากหลายในการถ่ายรูปได้ทุกประเภท ตัวกล้องทำมากจากแมกนีเซียม อัลลอยด์ ให้ความแข็งแรงและน้ำหนักเบา ขณะเดียวกันดีไซต์ก็มีความลงตัวเหมาะกับเลนส์ EF-M

สิ่งที่แปลกเกี่ยวกับ Canon EOS M6 Mark II ก็คือดีไซน์ที่ขาดช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ แม้อาจจะเสียบติดจากภาพนอกก็ได้ แต่ไม่มีมีรวมอยู่ในออปชั่นเมื่อคุณซื้อกล้องตัวนี้ โอเค ช่างภาพหลายคนอาจจะชอบใช้ช่องมองภาพ โดยเฉพาะในวันที่แสงแดดจ้า ดังนั้นนี่เป็นหนึ่งในข้อเสียเปรียบสำหรับโมเดลกล้องรุ่นนี้

LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุด

สำหรับการถ่ายภาพเฟรมชอต คุณสามารถใช้จอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ได้ จอนี้แก้ปัญหาเรื่องความละเอียดได้ถึง ความละเอียด 1.04 ล้านจุด โดยใช้เทคโนโลยีแบบทัชสกรีน และปรับเอียงได้ 180 องศา หน้าจอ LCD ให้ความสะดวกสบายในการถ่ายภาพจากมุมที่แตกต่าง รวมทั้งให้สีสันคมชัด และยังทำให้คุณตั้งค่าตำแหน่งโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว

ความเร็วสูงในการถ่ายภาพต่อเนื่อง ถ่ายภาพด้วยความคมชัดถึงขนาด 32.5 ล้านพิกเซล

กล้องรุ่น EOS M6 Mark II สามารถถ่ายภาพด้วยความคมชัดถึงขนาด 32.5 ล้านพิกเซลพร้อมกับถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 14 ภาพต่อวินาที รวมทั้งยังมีระบบออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่องด้วย นอกจากนี้ยังสามารถจับภาพเคลื่อนไหวที่อยู่รอบๆ เฟรม และถ่ายต่อเนื่องแบบรัวๆ ซึ่งภาพจะให้ความละเอียดสูงเมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม ที่สำคัญยังมีหน่วยความจำขนาดใหญ่ และการ์ด UHS-II ทำให้ถ่ายได้ถึง 54 เฟรมด้วยไฟล์ JPEG และ 23 เฟรมจากไฟล์ RAW หรือ ไฟล์ดิบ หรือ 36 เฟรมในไฟล์ CRAW

ออโต้โฟกัสได้สูงสุดถึง 5,481 จุด มีออปชั่น EVF-DC2 และ Focus Peaking

ระบบจับภาพบริเวณดวงตา และการตรวจจับใบหน้า สามารถเก็บภาพรูปร่าง และความคมชัดที่อยู่ในเฟรมเพื่อทำการโฟกัสตัวอย่างด้วยการแตะไปที่หน้าจอทัชสกรีนซึ่งจะทำการออโต้โฟกัสได้สูงสุดถึง 5,481 จุด คุณสามารถใช้ระบบออโต้โฟกัสที่ปุ่มด้านล่างของกล้องที่อยู่หลังปุ่มโฟกัส, ทัชแอนด์ดรากออโต้โฟกัส เมื่อใช้ออปชั่น EVF-DC2 และ Focus Peaking จะช่วยให้ภาพคมชัดเมื่อคุณใช้โฟกัสแบบแมนน่วล

เซนเซอร์รับภาพแบบใหม่ Dual Pixel CMOS

กำลังในการประมวลผลที่ดีขึ้นของระบบประมวลผลภาพด้วย DIGIC 8 ด้วย Dual Pixel CMOS คือการเซนเซอร์รับภาพแบบใหม่ที่แบ่งพิกเซลรับภาพเป็น 2 ส่วนแยกซ้าย-ขวา ทำให้การเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสในเฟรมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ด้วยความสามารถโฟกัสแม่นยำในที่แสงน้อยถึง EV-5 ซึ่งสามารถโฟกัสวัตถุได้แม้ในที่มืด

RAW สามารถถ่ายภาพให้ความคมชัด 18 ล้านพิกเซล ซึ่งถ่ายได้ 30 เฟรมต่อวินาที

ในขณะที่ไฟล์ดิบ RAW สามารถถ่ายภาพให้ความคมชัด 18 ล้านพิกเซล ซึ่งถ่ายได้ 30 เฟรมต่อวินาทีพร้อมกับการโฟกัสแบบต่อเนื่อง โดยเทคโนโลยีก่อนถ่ายจับภาพได้ต่อเนื่องในเวลาเพียง 0.5 วินาทีก่อนคุณจะกดปุ่มกดชัตเตอร์ ดังนั้นคุณจะมีช่วงเวลาที่สุดพิเศษ และยังสามารถยืดหยุ่นไฟล์ RAW ได้อีกด้วย

รองรับ Eye Detection AF ในโหมด Servo AF และ Movie AF

นอกจากนี้ยังมีความหลากหลายของวิธีโฟกัสอัตโนมัติเพื่อรองรับฉากต่างๆ อาทิ AF แบบจุดเล็กจุดเดียวที่มีกรอบ AF ขนาดเล็กมากเพื่อการโฟกัสแบบ Pinpoint อย่างแม่นยำ รองรับ Eye Detection AF ในโหมด Servo AF และ Movie AF ด้วย

การถ่ายวีดิโอ

Canon EOS M6 รุ่นออริจินัล ดูเหมือนจะแก้ปัญหาเรื่องการถ่ายวีดิโอแบบฟูลเอชดีได้แล้ว สำหรับตอนนี้ แคนน่อน ได้รับคำชื่นชมอย่างมากกับกล้องรุ่น EOS M6 Mark II ที่สามารถถ่ายวีดิโอให้ภาพคมชัดระดับบ 4 K พร้อมทั้งถ่าย MP4 (AVC/H.264) 4K (3840 x 2160) วีดิโอ at 29.97, 25fps ที่สำคัญยังมีฟังก์ชันการถ่ายทำแบบ super slow-motion ด้วยการบันทึกวีดีโอที่ 120p/100p ในรูปแบบ Full High Definition (FHD) ทำให้ได้ฟุตเทจ slow-motion มุมกว้างอย่างมีสไตล์

ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน

นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน ช่วยลดการสั่น บันทึกวีดีโอที่คมชัดยิ่งขึ้น นอกจากนี้สามารถเลือกใช้ไมโครโฟนที่ติดตั้งในตัวกล้อง หรือไมโครโฟนที่เสียบภายนอก เพื่อบันทึกเสียงรอบข้าง และบทสนทนาของผู้ที่เสียบไมโครโฟน ได้เช่นเดียวกัน

ถ่ายวีดิโอ 4K ความยาวในการถ่ายวีดิโอได้สูงถึง 29 นาที 59 วินาที ขณะที่ถ่ายด้วยไฟล์ใหญ่สุดขนาด 4 GB

ขณะเดียวกันยังมีการเพิ่มระบบการถ่ายวีดิโอ 4K ด้วยองศาที่เหมือนกับในขณะกำลังถ่าย นอกจากนี้ยังมีความยาวในการถ่ายวีดิโอได้สูงถึง 29 นาที 59 วินาที ขณะที่ถ่ายด้วยไฟล์ใหญ่สุดขนาด 4 GB นอกจากนี้คุณยังสามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดโดยไม่ต้องครอปตัด หมายความว่าคุณสามารถบันทึกวิดีโอวิวกว้างๆ และพื้นที่ด้านในที่คับแคบได้ด้วยมุมรับภาพแบบเดียวกับที่คุณได้รับในระหว่างการถ่ายภาพนิ่ง

สร้างสรรค์งานด้วยโหมด Time Lapse

สำหรับกล้องรุ่นนี้ยังสามารถถ่ายภาพที่มีอัตราต่อเฟรมสูง และสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบสโลโมชั่นด้วยความละเอียดสูงได้อย่างลื่นไหล นอกจากนี้คุณยังสามารถสร้างสรรค์งานด้วยโหมดต่างๆ เช่น ภาพเคลื่อนไหว Time Lapse แบบ 4K และภาพเคลื่อนไหวแบบ HDR เป็นต้น

ระบบออโต้โฟกัส

หากเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมในตระกูล M6 โดย Canon EOS M6 Mark II มีระบบออโต้โฟกัสได้สูงสุดถึง 5,481 จุด นั่นหมายความว่าคุณสามารถกดเบาๆ ตรงไหนก็ได้บริเวณหน้าจอเพื่อที่จะเลือกจุดออโต้โฟกัส ถ้าหากคุณปล่อยให้กล้องเลือกจุดโฟกัสเองก็ได้

ระบบการโฟกัสในตัว M6 Mark II มีความรวดเร็วมาก หากเป็นช่วงที่แสงสว่างชัดเจนตัวกล้องจะล็อกเป้าหมายด้วยความเร็ว และแม่นยำ ขณะที่ในบริเวณที่แสงน้อยคุณอาจจะพบว่ากล้องต้องใช้ความพยายามในการหาตำแหน่งล็อกเป้าซักพัก นี่เป็นจุดเด่นมากเพราะกล้องรุ่นนี้มีสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งโฟกัสได้บ่อยครั้งตามต้องการ

ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 14 เฟรมต่อวินาที

อีกหนึ่งจุดเด่นของฟีเจอร์ในกล้องรุ่นนี้ก็คือการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 14 เฟรมต่อวินาที สำหรับการทำงานของระบบออโต้โฟกัสระหว่างการถ่ายภาพแต่ละครั้ง เหมาะกับกล้องที่ใช้ในการถ่ายภาพกีฬา และภาพเคลื่อนไหว ด้วยคุณสมบัติแบบนี้ทำให้คุณสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของภาพได้ตลอดเวลา แน่นอนว่า M6 Mark II จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกับงานที่ต้องเคลื่อนไหวเรื่อยๆ

เหมาะกับงานที่มีการเคลื่อนไหว ให้ความคมชัดสูง

ด้วยฟีเจอร์ที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 14 เฟรมต่อวินาที ถือเป็นข้อได้เปรียบของเซนเตอร์แบบ High-Resolution หรือหากคุณพอใจกับการภาพถ่ายที่มีขนาดความชัด 18 ล้านพิกเซล ก็สามารถทำได้ด้วยการใช้โหมด RAW ซึ่งจะถ่ายภาพต่อเนื่อง 30 เฟรมต่อวินาที โดยที่คุณจะได้ภาพที่ไฟล์ 54 JPEGs หรือ 23 ไฟล์ดิบ

ตัวป้องกันภาพสั่นไหว (OIS)

ในส่วนของคุณภาพของภาพด้วยเซนเซอร์ใหม่ที่ติดมาด้วยในกล้องรุ่นนี้จะให้ความคมชัดสูง และภาพออกมาดูสวยมากๆ อย่างไรก็ตามที่น่าผิดหวังก็คือตัวป้องกันภาพสั่นไหว (OIS) เพราะคุณต้องระมัดระวังพอสมควรว่าจะต้องถ่ายภาพยังไง บางทีอาจจะต้องใช้ความเร็วในการกดชัตเตอร์ หรือใช้ตัวความไวแสงที่สูงที่สุด

แต่โดยรวมแล้วคุณต้องประทับใจกับทำงานของตัวเองไม่ว่าจะการถ่ายภาพเล็กๆ น้อยๆ และการพกพาเดินทางไปถ่ายภาพนอกสถานที่ขณะเดียวกันเรายังถ่ายภาพได้เยอะๆ ด้วยการใช้ออปชั่น Picture Style แต่บางทีอาจจะเลือกใช้การตั้งค่าในโหมด Fine Detail ซึ่งมีข้อได้เปรียบตรงที่ความละเอียดของภาพจะสูงมากเป็นพิเศษ พร้อมกันนี้จะทำให้ภาพมีสีสันคมชัด และแสดงรายละเอียดชัดเจน

เลนส์ EF-M 15-45mm f/3.5-6.3 สำหรับกล้องรุ่นนี้ถือว่าเป็นเลนส์ที่เหมาะกับการใช้งานในทุกวัน

ส่วนการใช้เลนส์ EF-M 15-45mm f/3.5-6.3 สำหรับกล้องรุ่นนี้ถือว่าเป็นเลนส์ที่เหมาะกับการใช้งานในทุกวัน คุณจะได้ภาพที่มีคุณภาพสูง และเหมาะสำหรับการถ่ายภาพท่องเที่ยว ทิวทัศน์ และชีวิตประจำวัน ที่สำคัญด้วยขนาดกล้องของ EOS M6 Mark II มีความเล็กกะทัดรัดยิ่งถือเป็นออปชั่นที่ลงตัวสำหรับการเดินถ่ายภาพตามถนนหนทาง

การเชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth และ wifi

EOS M6 Mark II มีระบบบลูทูธ และไวไฟติดตัวมาให้ในตัว ซึ่งช่วยให้การทำงานง่ายดายยิ่งขึ้น โดยการเคลื่อนย้ายภาพของคุณมีความรวดเร็ว และสะดวก หรือจะใช้วิธีการย้ายภาพด้วยระบบออโต้ในขณะที่คุณถ่ายรูปได้ โดยต้องเข้าไปโหลดแอพพลิเคชั่น Canon Camera Connect ซึ่งจะทำให้คุณแชร์ภาพต่างๆ ให้กับเพื่อนๆ และผู้ที่กดฟอลโลว์ในสื่อสังคมออนไลน์ของคุณได้ทันที

ด้วยระบบนี้ทำให้คุณสามารถอัพโหลดภาพถ่ายและวิดีโอโดยตรงไปยังโซเชียลมีเดียโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ อีกทั้งการถ่ายโอนวิดีโอ 4K จากกล้องที่เป็นเรื่องง่าย โดยวิดีโอจะถูกบีบอัดอัตโนมัติเป็น Full HD ก่อนการถ่ายโอน เนื้อหาต่างๆ สามารถถูกถ่ายโอนไปยังคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายดายเพื่อการแก้ไขหรือสำรองข้อมูล

Canon Camera Connect และเชื่อมต่อกับตัวกล้อง Canon EOS M6 Mark II กับตัวสมาร์ทโฟน

จุดเด่นอีกอย่างก็คือคุณสามารถใช้สมาร์ทโฟนเป็นช่องมองภาพ หรือจะเป็นตัวรีโมทควบคุมก็ได้ แต่ต้องโหลดแอพของ Canon Camera Connect และเชื่อมต่อกับตัวกล้อง Canon EOS M6 Mark II กับตัวสมาร์ทโฟน เท่านี้ก็จะทำให้คุณใช้งานแอพดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย โดยจะใช้เป็นตัวรีโมทในการถ่ายภาพหรือการถ่ายวีดิโอก็ได้

นอกจากนี้การจับคู่บลูทูธ ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกล้องเข้ากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานร่วมกันได้โดยใช้แอพ Canon Camera Connect พร้อมกับตั้งค่า บลูทูธ (Bluetooth) ด้วยการคลิกไปที่ไอคอนเครือข่ายที่อยู่บนหน้าจอ LCD และ บลูทูธ ทำให้คุณเชื่อมต่อกับ Wireless Remote Control ซึ่งเป็นออปชั่นเสริมสำหรับการถ่ายภาพระยะไกล รวมถึงรับข้อมูลตำแหน่ง GPS จากสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบของคุณ

ปุ่มหมุนปรับโหมดที่ด้านบนของกล้องเพื่อให้สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นโหมดถ่ายภาพต่างๆได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

นอกจากนี้ยังมีคู่มือโหมดถ่ายภาพ โดย EOS M6 Mark II มีปุ่มหมุนปรับโหมดที่ด้านบนของกล้องเพื่อให้สามารถเข้าถึงฟังก์ชั่นโหมดถ่ายภาพต่างๆได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แต่ละโหมดจะแสดงคำอธิบายและตัวอย่างเพื่อทำความเข้าใจความหมายของสไตล์ที่เฉพาะเจาะจงทำให้กล้องนี้ใช้งานง่าย แม้จะมีโหมด Smooth Skin ที่ให้การปรับผิวเรียบห้าระดับเพื่อให้ผิวเนียนนุ่ม

รองรับการชาร์จผ่าน USB

กล้อง EOS M6 Mark II เข้ากันได้กับอะแดปเตอร์ไฟ USB PD-E1 สำหรับการชาร์จในกล้องผ่าน USB ด้วยตัวเชื่อมต่อ USB-C มาตรฐานอุตสาหกรรมอะแดปเตอร์ไฟ USB PD-E1 ทำให้การชาร์จง่ายโดยไม่จำเป็นต้องถอดแบตเตอร์รี่ออกจากกล้อง

Canon EOS M6 mark II ราคา 35,990 บาท ประกันศูนย์

อ่านบทความเพิ่มเติม พื้นฐานค่าต่าง ๆ ของกล้อง การตั้งค่า และ ควบคุมกล้อง

Exit mobile version