Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

รีวิว Xiaomi Redmi Note 8 Pro มือถือระดับ Flagship กล้อง 64 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 4K ตอบโจทย์ทั้งภาพนิ่งและสาย Vlog

รีวิว Xiaomi Redmi Note 8 Pro มือถือระดับ Flagship กล้อง 64 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 4K ตอบโจทย์ทั้งภาพนิ่งและสาย Vlog สมาร์ทโฟน Xiaomi เรียกได้ว่าเป็น Smartphone ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงของตัวสเปคและความคุ้มค่าในเรื่องราคา ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้ได้เราสมาร์ทโฟน Xiaomi Redmi Note 8 Pro มาทำการรีวิวในรูปแบบของ PhotoschoolThailand ซึ่งจะเน้นเรื่องของการใช้งานด้าน กล้องและวิดีโอสำหรับการผลิตคอนเทนต์เป็นหลัก รวมไปถึงการนำไปประยุกใช้จริงว่าตอบโจทย์ชีวิตของเราในมุมมองไหนได้บ้าง

Xiaomi Redmi Note 8 Pro มือถือระดับ Flagship กล้อง 64 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 4K ตอบโจทย์ทั้งภาพนิ่งและสาย Vlog

รีวิว Xiaomi Redmi Note 8 Pro มือถือระดับ Flagship กล้อง 64 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 4K ตอบโจทย์ทั้งภาพนิ่งและสาย Vlog

สเปคเด่นของ Xiaomi Redmi Note 8 Pro

คุยกันเรื่องภาพรวมกันก่อน ทั้งด้าน ​Performance & Value & Product Position

ก่อนที่เราจะไปเจาะแต่ละความสามารถของ Xiaomi Redmi Note 8 Pro ผมก็คงต้องคุยกันถึงเรื่องภาพรวมกันให้มองเห็นทั้งหมดก่อนว่าแบรนด์นี้ รุ่นนี้มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ อะไรทำให้เกิดความน่าสนใจและเหตุผลไหนที่จะทำให้เราหยิบสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาเป็นตัวเลือก

Xiaomi Redmi Note 8 Pro ให้ความคุ้มค่าเป็นหลักก่อนเลย ภาพลักษณ์ของแบรนด์ Xiaomi เองได้วางตัวชัดเรื่องสเปคที่เกินราคามาตลอดไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ตาม ถ้ามองหาช่วงราคานี้ แบรนด์นี้จะได้เครื่องที่แรงมาก ตัวหน่วยประมวลก็แรงตั้งแต่ชิปเซ็ต Mediatek Helio G90T พร้อม CPU Octa-Core ตัวชิปประมวลผลก็ Mali-G76 MC4 เล่นเกมส์ลื่นแน่นอน

กล้องใช้งานได้จริง โดดเด่นจริง ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ใช้งานได้จริง ทดสอบทั้งการเปิดใน Adobe Lightroom และงานพิมพ์ขนาดใหญ่เลย เพื่อให้เห็นว่าภาพนั้นใช้งานได้แน่นอน แล้วก็มาพร้อมเลนส์มุมกว้าง โหมดถ่ายภาพกลางคืน

สำหรับการถ่าย Video Vlog นั้นก็ตอบโจทย์ได้ดีมาก ความละเอียดวิดีโอแบบ 4K 30fps พร้อมกับระบบกันสั่นในกล้องก็มีด้วย ถ่ายภาพ Slow Motion ได้ 960fps อีกต่างหาก ทำได้ครบด้าน

การออกแบบและดีไซน์ Xiaomi Redmi Note 8 Pro

ขนาดตัวบอดี้ของ Xiaomi Redmi Note 8 Pro นั้นขนาดกำลังพอดีเลยคือ 6.53 นิ้ว จับถือได้พอเหมาะกับมือเรามาก แล้วก็มีการแสดงผลที่ละเอียด 2340×1080 อัตราการแสดงผล 19.5:9 ก็รองรับทั้งการเล่นเกมส์ ดูหนัง ซีรีย์ ได้โอเค แล้วก็ในด้านการใช้ท่องเที่ยวถ่ายภาพก็ทำได้ดีมาก เห็นภาพชัดเจน สีสันสมจริง

ในส่วนด้านหลัง กล้องจะอยู่ตรงกลางเรียงกันทั้งหมด 3 ตัวเลย มีการกรีนความละเอียด 64 ล้านพิกเซลอย่างเป็นเอกลักษณ์ด้วย ผิวของวัสดุเงาสวยงาม ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าสมาร์ทโฟนยุคนี้แม้ว่าราคาจะไม่สูงเหมือนเมื่อก่อน แต่ทั้งสเปคแล้วการออกแบบก็ไปไกลเลยทีเดียว

พอร์ตการเชื่อมต่อเป็นแบบ USB-C สามารถที่จะ Sync และชาร์จแบตเตอรี่ได้รวดเร็ว ที่โดดเด่นสำหรับคนเล่นหูฟังแบบผมด้วยคือมีพอร์ต 3.5mm มาให้ด้วย ทำให้สามารถที่จะใช้งานกับหูฟังแบบมีสายคุณภาพสูงได้เลย ซึ่งผมเองใช้หูฟังแบบ Custom ก็รู้สึกโอเคกับตรงนี้มากครับ

รีวิวด้านความสามารถกล้อง การถ่ายภาพนิ่ง โหมด Portrait, โหมดถ่ายภาพกลางคืน และการถ่ายวิดีโอ

จุดนี้คือส่วนสำคัญที่เราได้เป็นผู้รีวิวเลย เพราะเราเน้นเรื่องของกล้องเป็นหลัก ครั้งแรกที่เห็นคือกล้องมือถือสมัยนี้ 64 Megapixels นี่ก็ทำได้สบายแล้ว แถมยังเป็นสมาร์ทโฟนที่ราคาไม่ได้สูงด้วย ก็เลยต้องทดสอบกันหน่อยครับ เดี๋ยวไปเริ่มกันเลย

กล้องความละเอียด 64 ล้านพิกเซล เก็บรายละเอียดได้ดี และสามารถใช้ในงานพิมพ์ได้จริง

ในด้านความละเอียดกล้องนั้นผมทดสอบทั้งถ่ายภาพทั่วไปและถ่ายภาพแบบเจาะจงเลือกสถานที่ ที่มีส่วนมืดส่วนสว่างต่างกันเยอะ เพราะกล้องที่ดีคือต้องเก็บรายละเอียดส่วนมืดส่วนสว่างได้ดีด้วย

ภาพ Portrait ถ่ายด้วยกล้องหลัก 64MP ในพื้นที่แสงน้อยก็ยังสามารถที่จะเก็บรายละเอียดได้ดีทีเดียว

ในครั้งแรกที่เห็นคือกล้องมันจะถ่ายออกมาได้ดีแค่ไหนนะ เพราะกล้องสมาร์ทโฟนยุคนี้ถูกพัฒนาไปไกลมาก แถมความละเอียดก็เยอะอีก ก็ทดสอบถ่ายที่ IKEA ก่อนครับ

ลองถ่ายภาพในพื้นที่ ที่มีแสงส่วนมืดและสว่างปะปนกันอยู่มาก ๆ กล้องก็สามารถที่จะเก็บรายละเอียดออกมาได้อย่างชัดเจน

ปรากฎว่าได้รายละเอียดดีสมชื่อจริง ผมทดสอบถ่ายภาพหลักมาก่อน และเราทำการซูมดู 2 จุดหลักด้วยกันคือ จุดที่มีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างตัวหนังสือ ว่าจะเห็นรายละเอียดไหม ผลออกมาก็คือภาพที่ได้มีความละเอียดจริง เราสามารถซูมดูรายละเอียดคม ๆ เล็กน้อยได้หมดเลย ตัวหนังสือก็มองเห็น

เมื่อนำภาพมาซูม 100% ก็สามารถที่จะเห็นตัวหนังสือได้อย่างชัดเจนเลย ถ้าดูภาพเต็มแทบไม่เห็นตัวเลขเลยจ้า

นอกจากนี้สถานที่ ที่ผมได้ไปถ่ายนั้นก็เป็นแสงธรรมชาติที่มีทั้งเงามืด และความสว่างก็ไม่ได้เพียงพอทั้งภาพเท่าไหร่ แต่ตัวกล้องก็ปรับตัวเองให้เก็บภาพออกมาได้สวยงาม สีสันก็ถูกต้อง ชัดเจน ทำให้ยืนยันได้เลยว่าการถ่ายภาพความละเอียดสูงนี้ใช้งานได้จริง และเหมาะกับการเอาไปถ่ายภาพได้ทุกแบบ

ถ่ายภาพอาหารด้วยความละเอียด 64 ล้านพิกเซลก็มีความคมชัด เก็บสีสันได้ครบทุกรายละเอียด

ทางผมได้ทดสอบพิมพ์ภาพออกมาขนาด A4 เพื่อตรวจดูรายละเอียดภาพที่ถ่ายด้วยความละเอียด 64 ล้านพิกเซล ก็ตามที่เห็นครับ ภาพชัดเจน สวยงาม และใช้งานได้แน่นอน

โหมด Portrait ละลายหลังได้สวย เลือก Effect การละลายหลังได้ตั้งแต่ f/1.0 – f/16 กันเลยทีเดียว

สำหรับโหมด Portrait เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ใน Smartphone ยุคนี้เลย ซึ่ง Xiaomi Redmi Note 8 Pro นั้นสามารถที่จะละลายฉากหลังได้สวยงาม สมจริง ผมทดสอบจากการถ่ายละลายหลังมาก ๆ แล้วซูมดู​ Bokeh มีความละมุน นุ่มนวล

เราสามารถถ่ายภาพด้วยโหมด Portrait โดยการใช้มุมกว้างได้ด้วย ทำให้เราเก็บภาพถ่ายกว้าง ละลายฉากหลังได้สวยงามตามที่ต้องการ

จุดเด่นก็คือการเลือกปรับ Effect ของ f/1.0 – f/16 จะช่วยทำให้เราคุมระยะชัดได้ตามที่เราต้องการ ถ้าวัตถุที่มีขนาดใหญ่หน่อย เราก็อาจจะไม่ต้องใช้ f/1.0 ก็ได้ เราสามารถเลือกที่ f/4 ก็สามารถได้รายละเอียดที่สวยงามเหมือนกันเป็นต้น

ทดลองถ่ายภาพในที่แสงน้อย และมีรายละเอียดของแสงที่ต่างกันก็ยังสามารถที่จะเก็บรายละเอียดกลับมาได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ

การปรับตั้งค่าที่ยืดหยุ่นได้ขนาดนี้ ทำให้เราสามารถที่จะสร้างสรรค์ภาพ Portrait ได้ตามต้องการ ได้โบเก้ที่ละมุน นุ่มได้ความรู้สึกเหมือนกล้องที่มาจาก Mirrorless เลย และที่สำคัญคือสามารถเลือกปรับ Effect การเบลอเรามาปรับทีหลังได้ด้วยนะ

สิ่งที่ผมสังเกตอีกก็คือเรื่องของโทนสีผิวก็มีความสวยงาม ถึงเราจะใช้โหมด Portrait ในการถ่ายและมี AI ในการปรับแต่งภาพ ตัว Skin Tone ก็ยังมีความสวยงาม สมจริง แน่นอนว่าเราทดสอบการเอาภาพพิมพ์ออกมาด้วยครับ

Night Mode โหมดถ่ายภาพกลางคืนที่เน้นความสมจริง ให้ความคมชัดที่สูง เก็บรายละเอียดเล็กน้อยได้เยอะเลย

โหมดถ่ายภาพกลางคืนนั้นเป็นสิ่งที่เราคาดหวังค่อนข้างมาก เพราะว่าหลายคนก็ต้องเจอแน่นอน เพราะไม่ใช่แค่ตอนกลางคืนเท่านั้นที่เราใช้ Night Mode แก้ปัญหา แต่จะเป็นพื้นที่ ที่มีการผสมระหว่างพื้นที่มืดเยอะ เช่น การถ่ายภาพในอาคาร หรือพื้นที่ ที่แสงมันไม่ได้มีปริมาณมากพอ ตัว Night Mode นี้ก็จะเป็นการถ่ายภาพเพื่อเก็บแสงให้ได้ปริมาณที่มากขึ้น และมีการใช้ AI เพื่อทำให้ภาพออกมาดูดีที่สุด

ผมทดสอบที่หน้าร้านอาหาร ซึ่งแสงน้อยมาก มืด แล้วก็มีแสงส่วงที่ด้านหลังตัวแบบแล้วลองถ่ายย้อนดู เพราะพื้นที่เหมาะสมมากกับการลองถ่ายด้วยโหมดนี้ ให้สังเกตว่าภาพที่ถ่ายออกมาจะมีความคมชัดมาก เก็บรายละเอียดพื้นที่ในส่วนมืด ส่วนสว่างได้ดี แม้แต่ส่วนที่มีแสงสะท้อน เงาตกกระทบต่าง ๆ ก็ทำรายละเอียดได้ชัด

เราสามารถเอา Night Mode ไปถ่ายภาพ Portarit ได้ด้วยนะ

เมื่อเราลองทดสอบถ่ายภาพ ​Portrait ด้วย Night Mode ปรากฎว่าสีผิวยังมีความสวยงาม แล้วก็ตัวแบบดูโดดเด่น ความคมก็ยังชัดเจน เก็บรายละเอียดสี เส้นผมได้ดีมากเหมือนกัน

ที่ยิ่งไปกว่านั้นผมทดสอบใช้ Night Mode เทียบกับ 64MP Mode ของกล้องหลัก ก็ต้องยอมรับว่า Night Mode นั้นมี Detail ที่ดีกว่า 64MP อยู่พอสมควรเลย แม้ว่าไฟล์จะไม่ใหญ่เท่า 64 ล้านพิกเซล แต่ Night Mode มีการเก็บรายละเอียดภาพในตอนกลางคืนได้ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ถ่ายภาพกลางคืนด้วย 64 ล้านพิกเซล
ถ่ายภาพกลางคืนด้วย Night Mode รายละเอียดของพื้นผิวต่าง ๆ ยังคมชัดอยู่ และมี Dynamic Range ที่เยอะมากกว่าเดิม

แน่นอนว่าเราก็ทดสอบเอาภาพพิมพ์ออกมาเหมือนกัน ก็ทำให้เราได้ภาพที่ชัดเจน สวยงาม พิมพ์ภาพขนาด A4 ก็นำไปใช้ได้จริงครับ

Pro Mode ทำให้เราถ่ายภาพได้อย่างอิสระ ปรับตั้งค่าเหมือน Mode M ในกล้อง Mirroless และ DSLR กันเลย

สำหรับ Pro Mode นั้นจะเป็นโหมดที่ทำให้เราสามารถตั้งค่ากล้องได้อย่างอิสระ เราสามารถที่จะปรับค่ารูรับแสง Shutter Speed หรือแม้แต่ ISO เราก็สามารถเลือกได้ตามที่เราต้องการ ส่วนใหญ่โหมดนี้เหมาะกับคนที่เป็นมืออาชีพแล้ว มีความชำนาญในการตั้งค่ากล้องได้อย่างชำนาญ และมักจะใช้กับการถ่ายภาพ Landscape ซึ่งก็ดีมากสำหรับโหมดนี้ เราสามารถดีไซน์ภาพด้วยการใช้ Shutter Speed ได้ เป็นต้นครับ

นอกจากนี้ถ้าใครใช้โหมดนี้ได้เก่ง ๆ จะสามารถใช้กล้องได้เต็มประสิทธิภาพ (ตรงความต้องการตัวเอง) ได้มากยิ่งขึ้น แทนที่จะใช้ AI ในการช่วยควบคุมอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นจุดเด่นที่ดีมากนั่นเอง

กล้อง Ultra Wide ให้มุมภาพที่กว้าง มิติภาพยอดเยี่ยมสำหรับการถ่ายภาพ Landscape, Architecture, Travel จุดเด่นสำคัญคือไม่มีขอบโค้งหรือว่า Distortion อีกด้วย

เลนส์มุมกว้างที่อยู่ในกล้องมือถือ Xiaomi Redmi Note 8 Pro นั้นมีจุดเด่นอยู่อีกด้านหนึ่งก็คือเรื่องของมุมที่กว้างสมจริงมาก เหมือนกล้องใหญ่เลย และยังไม่มีขอบโค้งด้วย อันนี้สำคัญมากครับ เพราะว่าเลนส์มุมกว้างส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องขอบโค้งของภาพนั่นเอง

สังเกตภาพที่ผมทดสอบถ่ายมาส่วนใหญ่นี้ผมจะใช้เส้นนำสายตาในการถ่ายภาพร่วมกับเลนส์มุมกว้างเป็นหลัก เพราะช่วยทำให้องค์ประกอบภาพดูลงตัว ใช้พื้นที่ภาพในการนำสายตาได้อย่างเต็มที่ ถ้าหากว่าเลนส์กล้องมีขอบโค้งจะทำให้การใช้เส้นนำสายตายากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ถ่ายภาพตามตึก อาคาร หรือถ่ายภาพแนวสถาปัตยกรรมที่ต้องการความสมมาตรของภาพ ความเป๊ะของเส้นที่ใช้ในภาพ เรื่องนี้หายห่วงแน่นอน

ถ้าใครเป็นคนที่ต้องการกล้องมือถือ ได้เลนส์มุมกว้างที่สมจริง Xiaomi Redmi Note 8 Pro ตอบโจทย์เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีเลยครับ แนะนำเลย เลนส์มุมกว้างโอเคมาก แน่นอนว่าเราลองเอามาถ่ายภาพ ​Portrait ก็ตอบโจทย์ได้ดีเหมือนกัน

กล้องสำหรับถ่ายภาพระยะใกล้ หรือ Macro Mode สามารถที่จะเข้าใกล้ได้ถึง 2cm และถ่ายภาพเพื่อเก็บรายละเอียดออกมาได้เป็นอย่างดี

ในส่วนที่หลายคนชอบมากก็คือการถ่ายภาพระยะใกล้ด้วย อย่างเช่น ดอกไม้ หรือถ่ายเก็บรายละเอียดอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ต้องการ Close Up สมาร์ทโฟน Xiaomi Redmi Note 8 Pro ก็ได้ใส่กล้อง Macro มาให้ด้วย

เราสามารถที่จะถ่ายภาพได้ใกล้สุดที่ 2cm ซึ่งใกล้มาก และให้รายละเอียดที่ดีครับ โฟกัสได้ง่าย ใช้แล้วไม่ได้รู้สึกหงุดหรือคาใจอะไร ก็เป็นอีกกล้องนึงที่ตอบโจทย์การถ่ายภาพอะไรที่มีรายละเอียดเล็กน้อยได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดระดับ 4K เฟรมเรต 30fps และยังสามารถถ่าย Full HD ได้ที่ 60fps อีกด้วย สำหรับ YouTuber หรือว่า Vlogger ระดับเริ่มต้น ที่ต้องการจะถ่ายวิดีโอด้วยมือถือนั้น ความสามารถของสมาร์ทโฟน Xiaomi Redmi Note 8 Pro ถ่ายวิดีโอได้ในระดับ 4K แบบเดียวกับกล้อง Action Camera หรือว่ากล้อง Mirrorless เลย โดยความเฟรมเรตนั้นจะได้สูงสุดที่ 30fps บนความละเอียด 4K

สำหรับคนที่ต้องการถ่ายเฟรมเรตที่สูงกว่านี้ เรายังสามารถถ่ายวิดีโอที่ Full HD และได้เฟรมเรตที่ 60fps อีกด้วยครับ อันนี้ก็เป็นอีกจุดเด่นนึงในการถ่ายวิดีโอด้วย Smartphone และทำให้เราได้วิดีโอที่สวยงาม เหมาะกับการทำคอนเทนต์ทั้งบน ​Facebook, YouTube ด้วยครับ

กล้องหน้ามีความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมโหมดหน้าเนียน ปรับตั้งค่าได้อย่างอิสระ ไม่ว่าใครก็หน้าสวย โดดเด่นได้แน่นอน

High Frame Rate ในโหมด Slow Motion ได้มากสุดถึง 960fps

สำหรับการถ่ายวิดีโอแบบเฟรมเรตสูงหรือ Slow Motion นั้น Xiaomi Redmi Note 8 Pro ยังสามารถที่จะถ่ายวิดีโอเฟรมเรตสูงได้เยอะขนาดว่า 960fps เลย ซึ่งเยอะมาก เยอะกว่ากล้อง Smartphone หลายตัวที่ค่าตัวสูงกว่านี้อีก

ซึ่งโหมด ​Slow Motion ในเฟรมเรตที่สูง จะช่วยให้เราได้จังหวะการถ่ายเก็บ Moment ในหลายช่วงจังหวะชีวิตมาก ซึ่งสามารถได้ทั้งความรู้สึก อารมณ์ และการเคลื่อนไหวของภาพที่น่าสนใจด้วย เป็นโหมดที่ควรมีในกล้องสมาร์ทโฟนสุด ๆ แล้ว

ความสามารถเรื่องหน่วยประมวลผล การเปิดหลาย Application พร้อมกัน,​ การเล่นเกมส์, การตกแต่งภาพด้วย Adobe Lightroom Mobile

ประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลใน Xiaomi Redmi Note 8 Pro นั้นสามารถที่จะใช้งานหนักได้สบายใจเลย ผมแปลกใจเหมือนกันว่า Xiaomi มีศักยภาพในการผลิต Hardware คุณภาพสูง และการบริหารจัดการต้นทุนได้ดี เลยทำให้เราได้ Smartphone ที่สเปคแรง กล้องก็โหดในงบที่คุ้มค่า

ทางด้านการเล่นเกมส์นั้นผมทดสอบใช้ Framerate แบบ 60fps สำหรับเกมส์แนวที่ตัวเองเล่นนะ ก็ยังเล่นได้ลื่นไหล ไม่ได้สะดุดอะไร ทัชสกรีนก็เล่น ใช้งานได้คล่องมากครับ อันนี้ไม่รู้จะคอมเมนต์อะไร คือผมมองว่าถ้าใช้แบบปกติในชีวิตประจำวัน ดูไม่ออกเลยว่าเป็นสมาร์ทโฟนช่วงราคาไหน

ประสิทธิภาพในการใช้ Software ที่ประมวลผลสูงหน่อย อย่างการตกแต่งภาพด้วย Adobe Lightroom CC ผมได้ใช้ไฟล์จากตัว Smartphone Xiaomi Redmi Note 8 Pro ด้วย และจากกล้อง Mirrorless ที่เป็น RAW File ขนาดใหญ่ในการนำมาแต่ง ก็ใช้งานได้อย่างลื่นไหล เปิดหลายแอพก็ไม่ได้ติดขัดอะไรครับ ถ้าไม่เชื่อแนะนำว่าไปลองที่หน้าร้านของจริงก่อนตัดสินใจก็ได้ครับ

สรุปแล้วกล้องภาพรวมนี้เหมาะกับใครบ้างและตอบโจทย์เรื่องไหนได้บ้าง

ในที่สุดก็มาถึงการสรุปของเราแล้ว Xiaomi Redmi Note 8 Pro เหมาะกับใครบ้าง และมีความสามารถอะไรที่โดดเด่น ตอบโจทย์ในเรื่องอะไร

เหมาะกับคนที่ต้องการถ่ายภาพ เน้นการถ่าย วิดีโอ ตัดต่อ เน้นคุ้มค่า, Vlogger, YouTuber ระดับเริ่มต้น, แม่ค้า พ่อค้าออนไลน์

สำหรับคนที่ถ่ายภาพบ่อย เที่ยวบ่อย อยากผันตัวเองเป็นคนทำคอนเทนต์ด้วย ซึ่งถ้าอ่านจากรีวิวทั้งหมดจะเห็นว่า กล้องความละเอียด 64 ลัานพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 4K แล้วกล้องทุกตัวที่มีอยู๋ในกล้องตัวนี้ก็ใช้งานได้จริงทั้งหมด รวมถึงการถ่ายวิดีโอด้วย

เหมาะกับคนที่ชอบสมาร์ทโฟน Performance ใกล้เคียงกับ Flagship เล่นเกมส์ได้ลื่น และได้เรื่องกล้องที่สวยมาเป็นจุดเด่นด้วย

อีกจุดเด่นนึง สำหรับคนทั่วไปที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ทำได้ทุกอย่าง ในราคาที่คุ้มค่า ทั้งการเล่นเกมส์ ฟังเพลง และได้กล้องสวยด้วย

อ่านบทความสอนถ่ายภาพสำหรับมือใหม่เพิ่มเติม

– รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับ ISO สำหรับมือใหม่ตั้งแต่ต้นจนจบ
– มือใหม่ถ่ายภาพยังไงไม่ให้มี Noise ในภาพ
– วิธีการใช้ Auto ISO สำหรับมือใหม่ และวิธีการตั้งค่าไม่ให้ Noise เยอะเกินไป

Exit mobile version