10 ทิปส์การถ่ายภาพท่องเที่ยว เพื่อเล่าเรื่องราว

Yochuwa Samarom

4 years ago

10 ทิปส์การถ่ายภาพท่องเที่ยวเพื่อเล่าเรื่องราว เมื่อการเดินทางท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของเราไปเเล้ว การถ่ายภาพท่องเที่ยว เพื่อเล่าเรื่องราว หรือการเก็บรายละเอียดความทรงจำระหว่างการเดินทางจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เเละบางคนถือเป็นเรื่องหลักในการท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ ในการท่องเที่ยวถ่ายภาพ สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือ เรื่องราว เเละอารมณ์ของภาพที่ต้องการจะสื่อ

เเน่นอนว่า อาจจะไม่ใช่เเค่การถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองกับสถานที่ท่องเที่ยว หรือเเค่ภาพครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตาเท่านั้น เเต่ก็ต้องมีภาพกิจกรรมที่ทำร่วมกัน ใช้เวลาด้วยกัน ทานอาหารด้วยกัน เล่นน้ำทะเลด้วยกัน หรือวิธีการเดินทางท่องเที่ยว ระหว่างทาง ภาพวิถีชีวิตผู้คน บรรยากาศโดยรอบ

ในบางทริป การที่ได้รู้จักคนท้องถิ่น การพูดคุยเเลกเปลี่ยนประสบการณ์ นอกจากจะได้เพื่อนใหม่เเล้ว ก็เป็นการได้เรียนรู้วิถีชีวิตคนในชุมชน เเละมุมมองจากคนท้องถิ่นเเถมยังมีโอกาสได้ถ่ายภาพวิถีชีวิตจากผู้ที่ใช้ชีวิตบริเวณนั้นด้วย

10 ทิปส์ สำหรับการถ่ายภาพท่องเที่ยวเพื่อเล่าเรื่องราว จะช่วยให้รู้ว่า การถ่ายภาพตอนออกเดินทางท่องเที่ยว ควรจะต้องเตรียมตัวอย่างไร เพื่อให้กลับมามีภาพที่บันทึกทั้งความทรงจำของเเต่ละที่เเละอารมณ์ของเเต่ละช่วงเวลาได้

10 ทิปส์การถ่ายภาพท่องเที่ยวเพื่อเล่าเรื่องราว

1. รู้จักกล้องของตัวเอง

เมื่อเดินทางท่องเที่ยว ก็ต้องมีกล้องคู่ใจเดินทางไปด้วยอย่างเเน่นอน เเต่สำหรับมือใหม่เเล้ว บางคนอาจจะยังเพิ่งได้กล้องมาใช้ เเละเพิ่งใช้ทริปนี้เป็นทริปเเรก ดังนั้น ก่อนที่จะนำกล้องออกไปท่องเที่ยว ก็ต้องรู้ก่อนว่า กล้องถ่ายรูปที่มี ทำอะไรได้บ้าง มีข้อจำกัดอะไร โหมดเเต่ละโหมดทำงานอย่างไร

ลองศึกษาคู่มือการใช้ของกล้อง จะช่วยให้รู้จักกล้องและเข้าใจการทำงานของกล้องมากขึ้น หรือถ้าใครที่จะใช้กล้องมือถือ ก็ลองที่จะเอาไปถ่ายภาพทั่วไปก่อน ใช้ให้คุ้นมือ เวลาไปเที่ยวก็จะได้เลือกใช้โหมดถ่ายภาพ หรือฟิลเตอร์ที่ต้องการได้อย่างคล่องเเคล่ว

2. ขาตั้งกล้องคือเพื่อนร่วมทริป

นอกจากจะต้องมีกล้องคู่ใจเเล้ว ขาตั้งกล้อง ก็จะเป็นเพื่อนร่วมทริปไปตลอดทาง เพราะการเดินทางถึงเเม้จะเดินทางกับเพื่อน หรือครอบครัวก็ตาม ก็ต้องอยากมีภาพที่อยู่กันครบ พร้อมหน้าพร้อมตากัน เเละถ้าเป็นผู้ที่ชอบเดินทางคนเดียวด้วยเเล้ว ขาตั้งกล้อง จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ถ่ายภาพออกมาได้ชัดเจน สวยคม เเละในบางโอกาส ต้องถ่ายภาพในที่เเสงน้อย ขาตั้งกล้องจึงเป็นตัวช่วยที่สำคัญมากอย่างหนึ่งเลยนะ

3. หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว

ถ้าต้องการที่จะได้ภาพสวยเวลาไปเที่ยว ก็ต้องทำการบ้านให้ดี ไม่ว่าจะหาข้อมูลสถานที่ เวลาเดินทาง เพื่อให้ได้จังหวะคนน้อย หรือเเสงที่เป็นช่วง Golden hour จุดไหนมุมไหน ถ่ายภาพออกมาได้เเบบไหนบ้าง ลองศึกษาจาก blogger ดูว่าเค้าไปทำอะไรที่ไหนบ้าง

เที่ยวที่ไหน กินที่ไหน หรือบางที การหาคนที่เป็นคนท้องถิ่นก็จะช่วยให้รู้ว่า ร้านไหนที่เป็นอาหารท้องถิ่นจริง ๆ ที่ไม่ใช่ร้านสำหรับนักท่องเที่ยว สถานที่ที่เป็นเเหล่งความงามที่ซ่อนอยู่ มีอยู่จุดไหนบ้าง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ได้ประสบการณ์ และภาพที่เป็นความทรงจำไม่รู้ลืม

4. ศึกษาความสัมพันธ์ของสี

หลังจากที่ทำการบ้านเรื่องสถานที่เเล้ว ให้คิดถึงเรื่องความสัมพันธ์ของสีด้วย เพราะนอกจากจะต้องดูมุมถ่ายรูปเเล้ว ถ้าจะให้ดี ลองสังเกตเรื่องสีของสถานที่ เเล้วลองเลือกเเบบ หรือสีสันของเสื้อผ้า ให้เข้ากับธีมของสถานที่ด้วย

เช่น ถ้าหากจะถ่ายภาพกับต้นไม้ใบไม้สีเขียว ทุ่งหญ้าเขียว อาจจะต้องเลือกเสื้อผ้าที่มีสีตัดกับทุ่งหญ้า เช่นสีเเดง สีขาว เพื่อให้ตัวเเบบเด่นออกมาจากพื้นหลัง หรือถ้าไปถ่ายภาพกับใบไม้เปลี่ยนสี ก็อาจจะต้องมีเสื้อผ้าที่ออกสีสัน ส้ม เเดง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ซึ่งอย่างไรก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ถ่ายว่า อยากให้ภาพออกมาอารมณ์ไหน ก็หาสีสันของเสื้อผ้าให้ได้อารมณ์ภาพอย่างที่ต้องการนั่นเอง

5. มีตัววัดสเกล (Sense of Scale)

การถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยว บางครั้งอาจจะต้องมีภาพของผู้คนเดินอยู่ในภาพ เพื่อจะให้เป็นถึงขนาด หรือความยิ่งใหญ่ของสถานที่ด้วย เช่น การเดินเที่ยวในป่า ที่มีต้นไม้สูง สิ่งปลูกสร้างขนาดใหย่ยักษ์ ซึ่งเมื่อถ่ายภาพเพื่อให้เห็นเเค่สถานที่ หรือตัวอาคาร ผู้ที่มองภาพ อาจจะไม่รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่อย่างที่เราต้องการให้รู้สึก ดังนั้นจึงต้องเพิ่ม ตัววัดสเกล (Sense of Scale) เข้าไปในภาพ เช่น คน รถ หรือสิ่งของ เพื่อให้เห็นขนาดคร่าว ๆ จะได้สื่อความหมายของภาพได้ชัดขึ้นด้วย

6. คิดถึงคุณภาพก่อนปริมาณ

กล้องดิจิตอล หรือกล้องมือถือในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องการถ่ายภาพเหมือนเมื่อสมัยหลายสิบปีก่อน ที่ต้องล้างฟิล์ม จ่ายค่าฟิล์ม จึงต้องถ่ายชนิดที่เรียกว่า “หวังผล”

ดังนั้นในปัจจุบัน เมื่อเดินทางท่องเที่ยวจึงคิดว่าถ่ายภาพให้ได้เยอะที่สุด เเล้วค่อยมานั่งเลือกว่าจะใช้รูปไหน ซึ่งเมื่อกลับมาจากทริปเเล้ว พบว่ามีรูปหลายพันรูป เเต่ที่ใช้ได้จริง อาจจะไม่ถึงร้อยรูป เเละยังต้องเสียเวลาเเต่งภาพ เลือกภาพอีกด้วย ดังนั้น ก่อนที่จะถ่ายภาพ ให้นึดถึง เรื่องราว การจัดวางองค์ประกอบ มุมมอง เพื่อจะได้ย่นระยะเวลา post-processing หลังการถ่ายภาพ เเละยังได้ภาพที่สวยงาม เเละน่าประทับใจอีกด้วยนะ

7. ใช้เส้นนำสายตาให้เป็นประโยชน์

เส้นนำสายตามีได้หลายลักษณะ อาจจะเป็นสายน้ำ ถนน เเนวต้นไม้ เเนวรั้ว ทางเดิน สะพาน ซึ่งเส้นนำสายตาจะทำหน้าที่ดึงความสนใจเข้าสู่ภาพ ดังนั้น เมื่อถ่ายภาพท่องเที่ยว ลองมองหาเส้นสาย ที่จะทำหน้าที่ดึงความสนใจเข้าสู่ภาพ เเละจะทำให้ภาพดูโดดเด่นขึ้นด้วย

8. หามุมถ่ายภาพและรอจังหวะช่วงเวลา

เมื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว ลองเดินหามุมบริเวณนั้น เพื่อจะได้มุมที่เป็นเอกลักษณ์ เเละไม่ชำ้กับผู้อื่น รวมทั้งอาจจะต้องรอเวลาเพื่อให้ได้ช่วงเวลาที่เเสงสวยที่สุด การถ่ายภาพในตอนพระอาทิตย์ตกจะทำให้ภาพมีประกายสีทองของเเสงเเดดยามเย็น หรือช่วงกลางคืนเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ ตึก หรือเมืองใหญ่ เพราะ จะมีเเสงไฟจากตัวตึก ถนน รถที่เคลื่อนที่ไปมา กระตุ้นให้ภาพมีความน่าสนใจ มีการเคลื่อนไหว เเละมีเรื่องราวเกิดขึ้นในภาพ

9. ใช้กฏสามส่วน

กฏสามส่วน เป็นทฤษฎีพื้นฐานสำคัญสำหรับช่างภาพ คือการที่เส้นเเนวนอนสองเส้น เเละเส้นเเนวตั้งสองเส้น มาตัดกัน เกิดช่องว่างเก้าช่อง เเละจุดตัดสี่จุด สมองจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษที่บริเวณจุดตัดทั้งสี่จุด จึงนิยมวางวัตถุ จุดสนใจ หรือดวงตา อยู่ที่จุดตัดเหล่านั้น

ถ้าเป็นมือใหม่เพิ่งหัดถ่ายภาพก็ยิ่งต้องเรียนรู้เเละฝึกฝนในการถ่ายภาพตามกฏสามส่วน ทำให้ได้พัฒนาด้านการจัดองค์ประกอบภาพ เพราะการจัดองค์ประกอบภาพ เป็นกุญเเจสำคัญที่จะทำให้ภาพดูโดดเด่นเเละน่าสนใจ สำหรับการถ่ายภาพเพื่อการท่องเที่ยว เช่นการถ่ายภาพทิวทัศน์ มักจะใช้เส้นเเนวนอนในการวางแนวเส้นขอบฟ้า อาจจะเป็น ⅓ หรือ ⅔ ส่วน ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะให้ท้องฟ้า หรือพื้นดิน เป็นตัวเล่าเรื่อง

10. Foreground, mid-ground, และ background

การวางเลเยอร์ให้กับภาพ เช่น ฉากหน้า หรือการวางกรอบภาพ ส่วนกลางภาพ เเละพื้นหลัง จะช่วยให้ภาพดูมีมิติ มักจะใช้กับการถ่ายภาพทิวทัศน์ เช่น ภูเขาที่สลับซับซ้อน น้ำตกที่ลดหลั่นกันอย่างสวยงาม โดยทั่วไปมักจะกำหนดให้ mid- ground เป็นจุดเล่าเรื่องหลัก มี foreground ที่วางไว้เพื่อดึงผู้ชม ดังนั้นการออกไปฝึกซ้อม หามองมุมที่เเตกต่างในเเต่ละสถานที่ก็จะช่วยให้ช่างภาพ เรียนรู้เเละเข้าใจการวางเลเยอร์ของภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น