6 วิธีคิดราคาถ่ายภาพสำหรับมือใหม่ที่จะรับงานถ่ายภาพเป็นอาชีพ
สำหรับช่างภาพมือใหม่ที่จะรับงานถ่ายภาพเป็นอาชีพ น่าจะต้องเจอปัญหาการตั้งราคา เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มตั้งราคาอย่างไร มือใหม่บางรายก็รับงานฟรีหรือรับงานในราคาที่ถูกมาก เพราะคิดว่ายังเป็นมือใหม่อยู่นั่นเอง วันนี้เรามาดูกันว่า จริง ๆ เเล้วการถ่ายภาพเพื่อจะทำเป็นอาชีพ จะต้องคำนวณจากราคาจุดไหนบ้าง อย่างน้อยก็ให้ครอบคลุมต้นทุนที่ลงไปก็ยังดี
6 วิธีคิดราคาถ่ายภาพสำหรับมือใหม่ที่จะรับงานถ่ายภาพเป็นอาชีพ
1. อุปกรณ์ที่ต้องใช้ กล้อง เลนส์ ไฟ ขาตั้ง ฟิลเตอร์ คอมพิวเตอร์
อุปกรณ์ที่ใช้ในงานถ่ายภาพทุกชิ้นคือการลงทุน ซึ่งอุปกรณ์เเต่ละอย่างเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาสูง อุปกรณ์ที่ใช้ถ้ามีประสิทธิภาพสูงก็จะทำให้ได้คุณภาพงานที่ดีด้วย กว่าจะได้มาก็อาจจะต้องเเลกด้วยอะไรหลายอย่าง กล้องก็จะเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ จากการลั่นชัตเตอร์ในเเต่ละครั้ง ดังนั้นจึงต้องคิดถึงการเสื่อมราคาของอุปกรณ์รวมถึงการซ่อมบำรุง รักษาอุปกรณ์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน
2. ค่าเเรงในการทำงานเเต่ละครั้ง เวลาที่ทุ่มไปกับการทำงาน
การรับงานในเเต่ละครั้งต้องใช้ความคิด การสร้างสรรค์ผลงาน รวมทั้งต้องใช้ทั้งเวลาเเละแรงงาน ค่าเเรงอาจจะคิดเป็นงาน หรืออาจจะคิดเป็นชั่วโมงก็ได้ ลองนึกภาพการเดินถ่ายภาพทั้งวัน เเบกกล้องหลายตัวเเละอุปกรณ์เสริมที่มีนำ้หนักพอสมควร ถ่ายภาพเสร็จก็ต้องกลับมาเเต่งภาพ ทำไฟล์ ดังนั้นค่าเเรง เวลา เเละสุขภาพก็เป็นต้นทุนที่ต้องคิดเเละคำนวณด้วยเช่นกัน
3. ค่าพิมพ์ภาพ ซอฟต์เเวร์ พรีเซ็ต แอปพลิเคชั่น ค่าจัดส่ง ค่านางเเบบ
ปัจจุบันมีการบริการทั้งเเบบส่งไฟล์ภาพ เเละการทำเป็น Photobook อัดกรอบ ส่งภาพ นอกจากนี้ซอฟต์เเวร์เเต่งภาพ พรีเซ็ตที่จะช่วยปรับอารมณ์เเละโทนสี อาจจะต้องลงทุนซื้อมาด้วย ก็อาจจะลงทุนไปไม่น้อย รวมถึงค่าปริการจัดส่งก็ต้องคิดด้วยว่าจะคิดเพิ่มไปอีกเท่าไหร่อีกด้วย
ในบางงานเช่นการรับงานรีวิวอาจจะต้องจ้างนางเเบบเพื่อรีวิวสินค้า ก็ต้องคิดเผื่อรายละเอียดของงานว่าต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมส่วนไหนอีกบ้าง
4. ค่าโฆษณา โปรโมต สร้างโปรไฟล์
การสร้างโปรไฟล์ การโปรโมต เเละโฆษณาตัวเอง ก็ต้องลงทุนเรื่องเพจ เว็บไซต์ ซึ่งก็ต้องมีค่าใช้จ่ายเช่นกัน เพราะการเป็นช่างภาพในปัจจุบันต้องยอมรับว่ามีคู่เเข่งไม่น้อยเลย ดังนั้นโปรไฟล์ ผลงาน เเละการนำเสนอตัวเองให้ผู้คนรู้จักนั้นเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน
5. กำไรที่พึงได้จากการทำงาน
นอกจากเรื่องต้นทุนที่ลงไปกับการจะเริ่มต้นรับงานถ่ายภาพเเล้ว การทำงานก็ต้องคิดถึงสิ่งที่จะได้มาจากการทำงาน คือผลตอบเเทนหรือกำไรด้วย โดยไม่ลำบากทั้งตัวเองเเละลูกค้าก็ต้องได้งานที่คุ้มค่าด้วย
6. เปรียบเทียบราคากับช่างภาพในท้องถิ่น
ถ้าคำนวณราคาออกมาเเล้ว เเละเปรียบเทียบผลงาน เเละราคากับช่างภาพรุ่นพี่หรือดูจากราคาการรับงานโดยทั่วไป ซึ่งอัตราราคาถ่ายภาพจะต่างกันในเเต่ละหมวด เช่น ถ่ายภาพงานพิธี การถ่ายภาพสินค้าเพื่อการโฆษณา ถ่ายเเฟชั่น ถ่ายรีวิว ถ่ายภาพคู่รักก่อนเเต่ง หรือถ่ายงานเเต่ง โดยราคาจะค่อนข้างเเตกต่างอย่างชัดเจน
ถ้าคำนวณเเล้วราคาที่รับต่องานสูงกว่าราคาทั่วไปก็ต้องพิจารณาเรื่องความโดดเด่นหรือเเตกต่างด้วย ให้ถามตัวเองว่าอะไรที่ทำให้ลูกค้ายอมจ่ายในราคาที่สูงกว่า หรือถ้าตั้งราคาถูกกว่าราคาทั่วไป ก็ต้องพิจารณาด้วยเช่นกันว่าคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ เพราะไม่อยากให้ความชื่นชอบในการถ่ายภาพ การทุ่มเท หรือการลงทุนไปนั้นทำให้สูญเสีย มากกว่าที่จะได้นั่นเองครับ
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการถ่ายภาพได้ที่นี่
- 7 เทคนิคถ่ายภาพสำหรับมือใหม่ ออกเเบบภาพให้ได้มุมมองใหม่ ๆ สไตล์ไม่ซ้ำเดิม
- 9 วิธีพัฒนาการถ่ายภาพให้สวยขึ้น เเละเพิ่มความมั่นใจในการถ่ายภาพสำหรับมือใหม่
- 9 ตัวเเบบที่น่าสนใจในการฝึกถ่ายภาพด้วยเทคนิค SILHOUETTES
- 7 ข้อดีของการถ่ายภาพ NIGHT PORTRAIT สำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นหัดถ่ายภาพ
- 7 ทักษะที่ช่วยพัฒนาการถ่ายภาพให้สวยได้ ช่วยให้มือใหม่สามารถถ่ายภาพได้เก่งขึ้น
- 5 ข้อดีของการฝึกปรับรูรับเเสงให้เป็น เพื่อพัฒนาการถ่ายภาพให้สวยขึ้น