Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

เที่ยวเกาะเชจู : เกาะเเห่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ

เกาะเชจู

เกาะเชจู (Jeju Island, 제주도)

เที่ยวเกาะเชจู : เกาะเเห่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ จังหวัดเชจู หรือเกาะเชจู คนเกาหลีเรียกว่า เชจูโด ตั้งทางใต้อยู่ห่างจากผืนแผ่นดินใหญ่ของเกาหลีใต้ ประมาณ 130 กิโลเมตร เป็นหนึ่งในเก้าจังหวัดในเกาหลีใต้ และมีลักษณะเป็นเกาะโดยเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลีใต้ ปากปล่องภูเขาไฟเก่าที่ดับสนิทมีให้เห็นหลายแห่งทั่วเกาะ เป็นความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาอย่างลงตัว

เกาะเชจู

ภูเขาไฟ Hallasan อยู่ใจกลางของเกาะเชจู มีป่าทึบ และน้ำตกหลายแห่ง มีป่าบริเวณชายทะเลที่ทอดตัวยาว และท่อลาวาที่ยาวที่สุดในโลกก็อยู่ที่เกาะเชจูนี่เอง นอกจากนี้ก็ยังมีหมู่บ้านที่เป็นแบบดั้งเดิมของเกาหลีให้แวะมาดูวิถีชีวิติของคนเกาหลีสมัยก่อนด้วย เกาะเชจูเคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เกาหลี หลายเรื่องมากๆ จึงเป็นที่ยืนยันถึงความสวยงามของธรรมชาติ แถมคนที่นี่ก็ใจดีมีน้ำใจด้วยหล่ะนะ  

เที่ยวเกาะเชจู : เกาะเเห่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ

1. Hallasan (한라산)

เกาะเชจู เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อหลายล้านปีก่อน คิดว่าน่าจะเป็นเพราะภูเขาไฟ ฮัลลาซานนี่เองแหละ ภูเขาไฟแห่งนี้ เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของเกาะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกาะเชจู ได้เป็นมรดกโลกจาก UNESCO World Heritage โดยมีความสูง 1,950 เมตรจากระดับน้ำทะเล ถูกจัดอันดับว่าเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศเกาหลีใต้ โดยเมื่อนานมาแล้ว ผู้คนในเกาะนี้บูชาภูเขาไฟแห่งนี้

เชื่อกันว่ามีเทพเจ้าและวิญญาณต่างๆ สถิตอยู่ที่นี่ แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวสามารถปีนขึ้นบนยอดเขา เพื่อชมความงามของเกาะในมุมสูงได้ การปีนเขาบนภูเขา Hallasan นั้นจะจำกัด ไว้สำหรับการเดินป่าในช่วงเวลากลางวันเท่านั้นและเวลาเข้าใช้งานภูเขาจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาลซึ่งมีการบังคับใช้อย่างเคร่งครัดเพื่อให้นักปีนเขาที่จะไต่ขึ้นไปบนภูเขาก่อนพระอาทิตย์ตกดิน

2. Seongsan Ilchulbong (성산 일출봉)

ยอดเขา Seongsan Ilchulbong ขึ้นจากใต้ทะเล ในการปะทุของภูเขาไฟเมื่อกว่า 100,000 ปีก่อน ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะเชจู ปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ด้านบนสุดของ Seongsan Ilchulbong มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 600 เมตรและสูง 90 เมตร ด้วยโขดหินที่แหลมคมรอบๆปากปล่อง ทำให้ภูเขาไฟดูเหมือนถูกสวมด้วยมงกุฎขนาดมหึมา ขณะที่ด้านตะวันออกเฉียงใต้และด้านทิศเหนือเป็นหน้าผาด้านตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นเนินเขาที่เขียวชอุ่ม ซึ่งเชื่อมต่อกับหมู่บ้าน Seongsan

สันเขานี้เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการเดินและการขี่ม้าด้วย นอกจากนี้ดอกยูแช หรือดอกคาโนลาสีเหลืองสดใสจะบานเต็มพื้นที่บนยอดเขา Seongsan Ilchulbong ในฤดูใบไม้ผลิ และเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมากๆ เพราะมุมนี้จะเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากปล่องภูเขาไฟอย่างงดงาม ยิ่งช่วงปีใหม่ นักท่องเที่ยวจะนิยมขึ้นมาบนยอดเพื่อดูแสงแรกและขอพรปีใหม่ที่ยอดเขาแห่งนี้ด้วย

สำหรับใครที่อยากจะศึกษาเรื่อง Landscape Photography สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความด้านล่างนี้เลย

3. Udo (Seobinbaeksa) (우도(서빈백사))

Seobinbaeksa Beach (หรือ cow island เพราะมีรูปร่างคล้ายวัวกำลังนอน) หรือจะเรียกว่าเกาะ U เพราะ do แปลว่าเกาะ ซึ่งเกาะ Udo ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของเกาะเชจู ซึ่งเกาะแห่งนี้มีมรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์และสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่งที่ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางของเกาหลีใต้ที่ เป็นหนึ่งในจุดที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุด

ในแต่ละปีจะมีผู้เข้ามาเยี่ยมชมที่เกาะนี้ถึงล้านคนต่อปี ทิวทัศน์ที่สวยงามทำให้ภาพยนตร์เกาหลีหลายเรื่องยกกองมาถ่ายทำกันถึงที่นี่ Udo สามารถเดินทางได้โดยเรือหลายลำซึ่ง เรือจะออกจากเกาะตอนเช้า 8:00 น. จนถึง 18:00 น. และมีกิจกรรมมากมายและบริการรถเช่าบนเกาะด้วย  

4. Cheonjiyeon Waterfall (천지연)

น้ำตกชอนจียอนนั้นถือว่าเป็นน้ำตกอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดของเกาะ มีความสูงทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นหน้าผาสูง 22 เมตร ซึ่งน้ำที่ตกลงมาจะไหลลงสู่บ่อชอนจียอนที่อยู่ด้านล่าง ก่อนจะไหลไปสู่น้ำตกชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 เป็นลำดับ ก่อนจะไหลลงสู่ทะเล

มีตำนานเล่ากันมาว่านางไม้เจ็ดตนจะลงมาอาบน้ำในช่วงกลางคืนที่น้ำตกชอนจียอน (ซึ่งมีความหมายว่าเป็นบ่อน้ำของจักรพรรดิแห่งสวรรค์) อยู่เสมอ ทำให้มีการสร้างสะพานซอนอินเกียว ที่แกะสลักลวดลายเป็นรูปนางไม้ทั้ง 7 อย่างสวยงาม รายล้อมด้วยพืชพรรณนานาชนิดที่หายาก

5. Manjanggul (만장굴 )

มานจังกุล เป็นถ้ำที่มีอุโมงค์ลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วย อุโมงค์ลาวาเกิดขึ้นจากลาวาที่อยู่ลึกลงไปในพื้นดินที่ไหลผ่านเข้ามาในเกาะนั่นเอง โดยภายในอุโมงค์ใต้ดินแห่งนี้จะพบกับความสวยงามของโครงสร้างที่น่าสนใจภายใน เช่น หินงอกลาวาขนาด 70 ซม. และหินรูปร่างแปลกตามากมาย

นักท่องเที่ยวได้รับการอนุญาตให้เข้าชมเพียง 1 กิโลเมตร จากความยาวทั้งหมด 13 กิโลเมตร ภายในอุโมงค์มีอุณหภูมิอยู่ที่ 11 ถึง 21 องศาเซลเซียส สร้างบรรยากาศสบาย ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวจำนวนมากอีกด้วย ซึ่งทำให้อุโมงค์นี้เป็นที่สนใจของนักวิจัยด้วยเช่นกัน

6. Jeongbang Waterfall (정방)

น้ำตกจองบังเป็นน้ำตกที่ชื่อเสียงอีกแห่งในเกาะเชจู ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะ มีความสูงถึง 23 เมตร โดยมีต้นน้ำคือแม่น้ำ Donghong-chun อีกทั้งเป็นน้ำตกแห่งเดียวในทวีปเอเชียที่ไหลลงสู่ทะเล นอกจากนี้น้ำตกจองบังก็ยังได้ชื่อว่าเป็นน้ำตก 1 ใน 3 ของน้ำตกที่ได้รับความนิยมสูงสุดบนเกาะเช่นเดียวกับน้ำตกชอนจียอนอีกด้วย

7. Seongeup Folk Village  (정읍)

หมู่บ้านพื้นเมืองซงอับ เป็นเขตอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านและวิถีชีวิตในแบบดั้งเดิมของชาวเกาะเชจู เป็นหมู่บ้านเกาหลีโบราณ ซึ่งในอดีตที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางด้านการปกครองของเกาะมาก่อน อาคารบ้านเรือนของที่นี่ยังเป็นแบบโบราณที่มุงด้วยหลังคาฟาง บ้านทรงต่ำลักษณะแปลกตา เพราะว่าบนเกาะเชจูมีลมแรงและฝนตกประจำ

การสร้างบ้านในลักษณะนี้จะช่วยกันลมกันฝนได้ดี และกำแพงหินก่อด้วยหินลาวาจากภูเขาไฟ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีชาวเกาะเชจูอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ นักท่องเที่ยวที่ชอบแนวเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวบ้าน แนะนำว่าต้องไม่พลาดการมาเที่ยวที่หมู่บ้านแห่งนี้

8. Seopjikoji (서지 코지)

อ่าวซอพจิโกจิตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเชจู เต็มไปด้วยโขดหินรูปร่างแปลกตา และในบริเวณนี้ได้มีการสร้างโบสถ์ ประภาคาร และอาคารต่างๆ ขึ้นในบริเวณนี้เพื่อใช้เป็นฉากหลังในการถ่ายทำละคร ทำให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว

ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกยูแช หรือ ดอกคาโนลา จะบานสะพรั่งเต็มพื้นที่เต็มท้องทุ่ง  ทำให้ในปัจจุบัน เป็นที่กล่าวกันว่า เป็นสถานที่ที่โรแมนติกสุดๆอีกแห่งหนึ่งของเกาะเชจูเลยล่ะนะ

9. ซุปสาหร่ายและหอยเม่นเมนูของเกาะเชจู

เมื่อเดินทางมาถึงที่เกาะแล้ว ต้องมาชิมอาหารทะเล เพราะอาหารทะเลที่นี่สดมากๆ ส่วนเมนูขึ้นชื่อคือ สาหร่ายทะเล หอยเม่น และซุปเปรี้ยวจี๊ดซึ่งจะหาชิมรสชาติแบบนี้ที่ไหนไม่ได้อีก นอกจากอาหารทะเลสดๆ แล้วยังมีอาหารจานพิเศษจากท้องถิ่น ได้แก่ ปลาย่างเกลือทะเล หมูบาร์บีคิวจากหมูดำของเชจู

รวมบทความท่องเที่ยวและถ่ายภาพที่น่าสนใจ

Exit mobile version