รีวิว SIGMA Fp กล้อง Mirrorless Full Frame ที่เล็กที่สุด ถ่ายวิดีโอแบบ Cinema RAW ได้ด้วยนะ

Yochuwa Samarom

4 years ago

SIGMA Fp กล้อง Mirrorless Full Frame ที่เล็กที่สุด และด้วยการที่เขาเล็ก มีวัตถุประสงค์อยู่ 2 อย่าง อย่างแรกก็คือให้กล้องมีขนาดเล็กพกพาสะดวก ใช้งานง่ายสำหรับคนทั่วไป อย่างที่ 2 ก็คือเขาออกแบบเพื่องานขนาดใหญ่ อย่างเช่นงานภาพยนรต์ การถ่ายภาพที่เน้นจริงจังไปเลยการ Set up ในกล้อง Sigma Fp สามารถ Sep up ในระบบขนาดใหญ่ได้ ซึ่งครั้งนี้เราจะมารีวิวทั้งหมด ทั้งการออกแบบและวัตถุประสงค์ของกล้องทั้งหมดของกล้องตัวนี้ ใครบ้างที่เหมาะกับที่จะซื้อกล้อง Sigm Fp

1. ภาพรวมสเปคของกล้องและจุดเด่นที่น่าสนใจ

เพื่อให้เราเข้าใจว่า Sigma Fp ทำได้ดีจริงๆ มีอะไรบ้าง อย่างแรกเลยก็คือเซ็นเซอร์เป็นแบบ Full Frame เซ็นเซอร์ใหญ่ และก็เป็นเม้า L ซึ่งเม้า L เนี้ยเราสามารถใช้เลนส์ Sigma ที่เป็นเม้า L ก็ได้นะ แถมเม้า L ยังเป็นเดียวกันกับกล้อง Leica หมายความว่าถ้าใครถ่ายภาพแล้วมีเลนส์ Leica อยู่ ก็สามารถใช้กับกล้องตัวนี้ได้

แล้วที่สำคัญกล้อง Sigma Fp มีความละเอียดอยู่ที่ 24.6MP ซึ่งมันก็เยอะพอที่จะใช้ถ่ายงานถ่ายภาพทั่วไป เวลาที่เราจะถ่าย Landscape, Portrait หรือว่าถ่ายตามงาน Event ต่างๆ มันก็สามารถถ่ายได้หมด แต่ที่มันเด้นที่สุดเลยนะ คือ Sigma Fp เขาเจาะงานด้านวิดีโอมืออาชีพจริงๆ จังๆ คือไฟล์ที่เขารองรับสามารถถ่าย Cinema RAW ได้ ซึ่งจะเป็นระดับเดียวกับกล้องที่เน้นกับการถ่ายหนังเลย

และการออกแบบระบบของเขาเนี่ย ตัวกล้องถูกออกแบบมาให้สามารถติดตั้งกับพวกเหล็กในงานวิดีโอมืออาชีพได้เลย เพราะฉะนั้นตัวกล้องถูกออกแบบเพื่องานภาพยนตร์ที่เก่งกว่าภาพนิ่ง แต่ภาพนิ่งก็ถือว่าทำได้ดี

2. การออกแบบของตัวกล้องที่น่าสนใจของกล้อง Sigma Fp

ด้วยงานออกแบบที่เล็กจริงๆ แล้วมันรายละเอียดเยอะมากเลย อย่างแรกก็คือเรื่องของขนาดที่มันเล็ก เพราะว่าถ้าเราเป็นทั่วไป ในการใช้กล้อง มันเหมาะเป็นกล้องพกพาที่เอาไว้ไปถ่ายเที่ยวได้สนุกมากๆ และมีน้ำหนักเบาเหมือนกล้อง Compact เลยสามารถใส่กระเป๋าเล็กๆ ได้เลย

และก็ตัวเลนส์ขนาดเล็กของ Sigma เขาก็มีให้ใช้เยอะ แถมเซ็นเซอร์ยังเป็น Full Frame ทำให้เราได้เรื่องของรายละเอียดของภาพมากขึ้น มิติภาพเยี่ยม แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เจ้า Sigma Fp เขาเก่งด้านงานวิดีโอมาก คือตัวกล้องสามารถถ่ายไฟล์ Cinema RAW ได้ เหมือนงานภาพยนตร์เลย เพราะฉะนั้นสิ่งที่เขาออกแบบมาตัวกล้องจะสามารถติดตั้งบนเหล็กขนาดใหญ่สำหรับงานภาพยนตร์ได้ ติดตั้งบนเลนส์ที่มีขนาดใหญ่มากๆ สำหรับงานใหญ่เลย และที่สำคัญเรื่องระบบระบายความร้อนก็ทำออกมาได้ดีเพราะช่องระบายความร้อนด้วย

เพราะเมื่อเวลาที่เราถ่ายวิดีโอ 4K กล้องส่วนใหญ่ทั่วไปจะเจอปัญหาเรื่องของความร้อนที่มันเกิดขึ้น แต่พอเป็น Sigma Fp ปัญหานี้จะหมดไปเนื่องจากตัวกล้องออกแบบเรื่องระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องของปุ่มต่างๆ ก็ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมากๆ เพราะว่าปุ่มมันน้อยมาก งานใช้งานจึงค่อนข้างเรียบง่าย

3. เมนูและการออกแบบหน้าตาของการใช้งาน

มันใช้งานได้ง่ายมากๆ เพราะว่าเขาออกแบบให้มีสัญญาลักษณ์บอกทุกจุดเลย เวลาที่เราดู เราสามารถเข้าใจได้ว่าเมนูนี้คืออะไร และเวลาที่เราจะตั้งค่าต่างๆ เราก็หมุนไดออลหรือจะกดเลือนก็ได้ และในส่วนของเมนูข้างใน เขาก็จะแยกสีแยกส่วนของเมนูต่างๆ ออกมาได้อย่างชัดเจน

เวลาที่เราปรับตั้งค่าอะไรออกไป มันจำได้ง่าย ที่สำคัญพอร์ทต่างๆ มันจะมาครบ ไม่ว่าจะเป็น HDMI, USB type C เราสามารถตั้งระบบเป็นงานขนาดใหญ่ได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นกล้อง Sigma Fp ไม่ใช่กล้องที่เกิดมาเป็นขนาดเล็ก ใช้งานขนาดเล็กอย่างเดียวนะ แต่เป็นกล้องที่มีขนาดเล็กแต่สามารถปรับแต่งให้เป็นงานขนาดใหญ่ได้เลย และตัวกล้องเองก็เป็นแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มันแข็งแรงมาก ถือว่าเป็นกล้องที่มีความทนเหมาะกับมืออาชีพมาก

4. ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพนิ่งของ Sigma Fp

ด้วยที่ความละเอียด 24.6MP ซึ่งทำให้มันรองรับกับการถ่ายภาพทุกๆ งาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพเพื่อโพสลงโซเชียลมิเดีย หรือจะเป็นการถ่ายภาพงาน Event หรือแม้แต่ที่ PhotoschoolThailand ทำมาตลอดก็คือใช้กล้อง Sigma Fp ถ่ายรีวิว ถ่ายภาพอะไร ก็จะใช้กล้องตัวนี้เป็นหลัก เรื่องของคุณภาพไฟล์ถือว่าเก็บรายละเอียดได้ดี

และเซ็นเซอร์ Full Frame อยู่แล้วเรื่องของการละลายฉากหลัง เปลียนเป็นเลนส์ดีๆ หน่อยก็คือจบแล้วนะ หรือจะเป็นเลนส์ 45mm F2.8 ก็พอแล้วนะ สำหรับใครที่ถ่ายภาพนิ่งภาพ Portrait หรือภาพบุคคลก็มีความสารารถอย่างเต็มที่ ส่วนการถ่ายภาพต่อเนื่อง จะสามารถถ่ายได้ที่ 18 เฟรมต่อวินาที ก็คือกดชัตเตอร์แค่ 1 วินาที ก็จะมา 18 รูป จุดเด่นคือมันเก็บรายละเอียดในจังหวะสั้นๆ เยอะมาก แต่มันก็มีประเด็นนิดนึงนะ บัฟเฟอร์มันเต็มเร็ว ถ้าเกิดเราเราถ่ายสัก 3 วินาที บัฟเฟอร์ก็จะเริ่มเต็มละ

เพราะงั้นการถ่ายภาพต่อเนื่องก็จะมีข้อจำกัดนิดนึงคือว่ารัวนานๆ ไม่ได้ แต่ข้อดีก็คือเราสามารถลดเฟรมเรทลงมาเหลือระดับกลางได้ มันก็สามารถ่ายต่อเนื่องได้นานขึ้น แล้วแต่ว่าเราชอบใช้แบบไหน กล้อง Sigma Fp สามารถลองรับ การ์ด UHS II ซึ่งเป็นเมมโมรี่ความเร็วสูง แถมยังรองรับ SSD ด้วย เราสามารถต่อ SSD เข้ากล้องเป็นเมมโมรี่การ์ดได้

5. ประสิทธิภาพในการถ่ายวิดีโอ

มันคือเหตุผลหลักที่ PhotoschoolThailand ซื้อกล้องตัวนี้มาใช้ เพราะเราอยากจะสัมผัสประสิทธิภาพการถ่ายวิดีโอของกล้องตัวนี้ ซึ่งกล้องตัวนี้รองรับไฟล์แบบ Cinema RAW จะสูงกว่าไฟล์ MP4 ที่เราใช้ถ่ายในกล้องทั่วไป เราสามารถทำสีดึงรายละเอียดสีสันได้แบบสุดมาก และก็ใช้ในงานภาพยนตร์เป็นหลัก

สิ่งเป็นสิ่งที่ Sigma ตั้งใจทำมาโดยเฉพาะ ตั้งแต่เรื่องการออกแบบและดีไซน์แล้วนะ เขาเน้นให้กล้องของเขาสามารถติดตั้งบนเหล็ก และใช้กลับเลนส์ถ่ายภาพยนตร์ได้ ที่สำคัญด้วยความที่มันถ่าย Cinema RAW ได้ ไฟล์ของเขาจะต้องใช้กับซอฟแวร์เฉพาะในการทำสี แต่ถ้าถามว่าคนทั่วไปจะใช้ มันก็โอเคนะ เพรราะมันสามารถเปลียนขนาดไฟล์ได้ MOV ได้ซึ่งคุณภาพไฟล์ก็โอเคแล้ว

แต่ถ้าจะให้แนะนำจริงๆ กล้องตัวนี้เหมาะกับคนที่ซีเรียสด้านวิดีโอจริงๆ มากกว่า เพราะฉะนั้นใครที่อยากได้ไฟล์วิดีขั้นสุดจริงๆ เซ็นเซอร์ Full Frame ด้วย มีเลนส์ให้ใช้ครบชุด Sigma Fp คือคำตอบของการถ่ายวิดีโอนะ

6. ประสิทธิภาพในการโฟกัส

Sigma Fp เป็นกล้องที่โฟกัสได้แม่นและเร็ว แต่ว่ามันมีประเด็นอยู่ตรงที่ว่ากล้องมีจุดโฟกัส อยู่แค่ 49 จุด ไม่ได้เยอะมาก แต่ว่าระบบในการโฟกัสจะมีระบบโฟกัสใบหน้า ดวงตาแยกตาซ้ายตาขวาได้นะ และก็ระบบ Tracking อัตโนมัติ แต่มีประเด็นที่อยากให้เข้าใจคือกล้องตัวนี้ไม่ได้ใส่จุดโฟกัสมาเยอะ

ถ้าใครคาดหวังว่าจะเอากล้องตัวนี้มาถ่าย Vlog เหมือนกล้องที่เราเคยเจอตามทั่วๆ ไป ตัวนี้อาจจะไม่ได้เด่นขนาดนั้น ถ้าเราใช้ถ่ายภาพนิ่งไม่ได้ถือว่าเป็นปัญหาอะไร แต่พอเป็นวิดีที่มีการ Tracking ตลอด อาจจะ Track ไม่ค่อยแม่นเท่าไร ส่วนมากทางทีม PhotoschoolThailand เลยใช้แมนนวลโฟกัสกัน เพราะฉะนั้นบอกให้ทุกคนเข้าใจก่อน เพราะถ้าใครคาดหวังในระบบโฟกัส เขาไม่ได้เด่นมากขนาดนั้น

7. ระบบของเลนส์

และเลนส์ที่มีให้ใช้ โดยหลักนะ ณ ตอนนี้ Sigma ได้ผลิตเลนส์ที่เป็น L เม้า เพราะว่ามี Panasonic ที่เป็น Full Frame มี Leica และ Sigma Fp ถ้าเป็นเม้าตรงการทำงานก็จะรวดเร็วทุกอย่าง เหมือนกล้องค่าย 100% แต่ว่าใครที่มีเลนส์ เช่น ของ Canon มันก็จะมี Adapter หัวแปลง ของ MC-21 เราก็จะสามารถใช้เลนส์ที่ไม่ใช้ L เม้าได้

และเมื่อเราต่อ Adapter ใส่เข้าไปแล้ว การโฟกัสก็ถือว่าแม่นยำเหมือนเดิม ประสิทธิภาพดีมาก ถ้าเป็นเรื่องภาพนิ่งก็ไม่ได้ติดอะไรนะ แต่ถ้าเป็นงานวิดีโอทางทีม PhotoschoolThailand ก็ยังใช้แมนนวลโฟกัสเหมือนเดิม ถ้าใครที่ถ่ายภาพนิ่งเป็นหลักแล้วอยากจะได้ Sigma Fp มาใช้ ก็ถือว่าโอเคนะ อาจจะต้องดูเรื่องระบบเลนส์อีกทีนะ

8. ข้อจำกัดที่ควรรู้ของกล้อง Sigma Fp

คือกล้อง Sigma Fp เป็นกล้องที่เป็น Electronic Shutter ล้วนๆ มันจะไม่มีม่านชัตเตอร์ เวลาที่กดชัตเตอรืมันจะไม่มีเสียง แต่ประเด็นจะอยู่ตรงที่ว่าเวลาที่เราถ่ายภาพแล้วใช้ Shutter Speed เกิน 1 ต่อ 50 และอยู่ในอาคารที่มีหลอดไฟ มันจะเกิดฟิกเกอร์ขึ้น (ฟิกเกอร์ก็ถือภาพที่มีแถบเงาดำๆ) มันจะเกิดกับ Electronic Shutter ซึ่งถ้าใครคาดหวังว่าจะใช้กล้องตัวนี้ถ่ายงาน Event รับงานจริงๆ จังๆ และมีการเคลื่อนไหวเร็วๆ ต้องใช้ Shutter Speed สูง ในตอนแสงน้อย อยู่ใต้หลอดไฟ เราไม่แนะนำเท่าไร เพราะมีจะมีฟิกเกอร์ขึ้นได้ง่าย

แต่ถ้าเกิดเราสามารถใช้ Shutter Speed 1 ต่อ 50 ในการถ่ายภาพที่ๆ มีแสงน้อยได้ ก็ใช้กล้องตัวนี้ได้ ในส่วนของการถ่ายวิดีโอแนะนำว่าควรที่จะซื้อแบตเตอรี่เพิ่ม มันหมดค่อนข้างเร็ว มันก้อนไม่ได้ใหญ่มาก เหมาะกับการใช้งานง่ายๆ เพราะฉะนั้นถ้าใครจะกล้องตัวนี้ ก็แนะนำว่าลองเทียบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ดูนะ เช่นเรื่องของฟิกเกอร์ และก็เรื่องแบตเตอรี่

แต่กับการใช้งานโดยร่วมแล้วก็รู้สึกว่าดีมากเลยนะ ถ่ายภาพนิ่งก็ดี ถ่าย Cinema RAW ก็ดีมากเหมือนกัน แต่เรื่องของข้อจำกัดตรงนี้ ที่ยังเป็นประเด็นสำหรับใคร ก็อาจจะต้องลองมองตัวอื่น

9. ราคาจำหน่ายของ Sigma Fp

ตัวบอดี้ จะอยู่ที่ 58,900 บาท ซึ่งราคานี้นะ ลองช่างน้ำหนักดูกับแบรนด์อื่นๆ ซึ่งกล้องแบรนด์อื่นที่เป็นรุ่นใหม่ราคามันจะสูงกว่านี้หน่อย แต่ถ้าเรื่องประสิทธิภาพในการถ่ายภาพนิ่งน้ำหนักมันค่อนข้างดีกว่า แต่ว่า 58,900 บาท สามารถถ่าย Cinema RAW ได้ ถ่ายวิดีโอมือโปรได้ คิดว่าราคานี้หาได้ยากละ

ถ้าใครชอบถ่ายวิดีโอ ตัวนี้ถือว่าคุ้มมาก สำหรับการถ่ายภาพนิ่งก็ลองเทียบข้อจำกัดกับราคากล้องตัวนี้แล้วกัน ส่วนการรับประกันถ้าเป็นของศูนย์ไทยจะอยู่ที่ 2 ปี อะไหล่ซ่อมของคนที่ซื้อประกันศูนย์มันก็จะถูก กว่าคนที่หิ้วกล้องเข้ามา ถ้าเรามองในมุมของการถ่ายวิดีโอ ถ่าย Cinema RAW ตัวนี้ถือว่าเด่นสุดๆ