Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

5 ขั้นตอน ในการถ่ายภาพช่วงเวลาเเห่งมนต์สะกด Blue Hour

การถ่ายภาพช่วง Blue hour เป็นช่วงเวลาที่ถ่ายภาพสวยที่สุดเวลาหนึ่ง เป็นช่วงที่เกิดหลังจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปและเริ่มมืด คนก็เริ่มน้อยลง ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะได้ถ่ายภาพอย่างเต็มที่ ช่วง blue hour เป็นช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการถ่ายภาพเเนว cityscape เพราะจะเริ่มมีการเปิดไฟ ตามตึก เเละอาคารสูง หลังจากที่สิ้นเเสงของดวงอาทิตย์เเล้ว 

Blue hour เป็นช่วงเวลาที่นิยมถ่ายภาพด้วย เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ตกลงพ้นเส้นขอบฟ้า เเสงของดวงอาทิตย์ จะส่องผ่านฝุ่นผงในอากาศ ทำให้ให้เเสงที่ให้สีเฉดสีน้ำเงินขึ้นนั่นเอง โดยมี 5 ขั้นตอน ในการถ่ายภาพช่วงเวลา Blue Hour ดังนี้

สำหรับคนที่เพิ่งถ่ายรูป แนะนำอ่าน 180 บทความสอนถ่ายภาพมือใหม่ตั้งแต่เริ่มต้นจนโปรด้วยนะ
– 180 บทความพื้นฐานถ่ายภาพสำหรับมือใหม่ ให้เริ่มต้นได้ง่าย และเลือกอ่านได้สะดวก

5 ขั้นตอน ในการถ่ายภาพช่วงเวลาเเห่งมนต์สะกด Blue Hour

1. ให้ความสำคัญกับช่วงเวลาของวัน 

ช่วงเวลา Blue Hour จะพบได้อยู่สองช่วงคือ ก่อนที่ดวงอาทิตย์ขึ้น และหลังจากดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ดังนั้นช่วงเวลาที่แสงของดวงอาทิตย์หมดลง เเสงไปจากถนนจะเริ่มเปิดขึ้น เป็นช่วงเวลาที่ถ่ายรูปเเล้วได้เเสงทั้งไฟจากเเสงสังเคราะห์สีเหลือส้มที่อยู่ในโทนสีร้อน เเละเเสงธรรมชาติที่เป็นสีม่วงน้ำเงินในโทนเย็น ทำให้ได้คู่สีที่มีความเปรียบต่างที่สวยงาม 

ในช่วงเวลาเย็นจะเป็นการทำงานของเเสงในช่วง Blue Hour และเเสงจะตึกหลังจาก golden hour และในช่วงเวลาเช้า จะเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น ระหว่างเเสง Blue Hour และเเสงจะตึก ก่อนที่จะเป็น golden hour

การถ่ายภาพในช่วงสองเวลานี้ จะให้ความเเตกต่างกัน ทั้งในด้านรูปแบบของภาพ เเละอารมณ์ของภาพ คือ เมื่อเเสงของดวงอาทิตย์กำลังจะหมดลง เกิดความมืดขึ้นบนท้องฟ้า เเละมีเเสงไฟจะตึกในเมือง บนถนนเริ่มสว่างขึ้น เเละในช่วงเช้า ความมืด เเละเเสงไฟค่อย ๆ ดับไป พร้อมกับเเสงของดวงอาทิตย์ที่สาดเเสงสีทองลงมาบนโลก ก็เป็นเรื่องราว เเละให้ภาพที่ดูน่าสนใจอย่างมาก 

2. ให้ความสำคัญกับตัวเเบบเเละมุมมอง 

เมื่อเตรียมตัวที่จะถ่ายภาพในช่วงเวลา blue hour ต้องถามตัวเองว่า จะถ่ายวัตถุอะไร เเละจะมีการจัดวางองค์ประกอบ เเละเฟรมภาพอย่างไร ? โดยให้คิดว่า อะไรจะเป็นจุดสนใจของภาพ ฉากหน้า และพื้นหลัง ที่จะทำให้ภาพดูน่าดึงดูดใจ และดูมีมิติของภาพ 

3.ให้ความสำคัญกับ exposure รูรับเเสง และความเร็วชัตเตอร์

ต้องคิดว่า จะตั้งค่าอย่างไร ต้องการให้เห็นการเคลื่อนไหวในภาพหรือไม่ เเละอะไรที่จะเคลื่อนไหว ถ้าต้องการให้มีการเคลื่อนไหว ดังนั้นก็ต้องตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์เป็นหลัก แต่ถ้าไม่ก็จัดให้การตั้งค่าด้วยรูรับเเสงเป็นหลัก เพื่อให้ได้ความชัดลึกหรือชัดตื้นนั่นเอง

4. ลองเล่นกับความเร็วชัตเตอร์

เมื่อเเสงในธรรมชาติลดลง จะรู้เองว่า จะต้องเพิ่มความเร็วชัดเตอร์ขึ้น เพื่อจะได้ ถ่ายภาพเเล้วไม่เบลอ หรือเคลื่อนไหว หรืออาจจะลองเปลี่ยนความเร็ซชัตเตอร์ เร็วขึ้น หรือช้าลง เพื่อสร้างเอฟเฟคให้กับภาพ 

เช่นการถ่ายภาพรถที่เคลื่อนที่ไปมา ซึ่งจะให้ผลลัพท์ออกมาดูน่าสนใจ อาจจะลองตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ยาวไปถึง 30 วินาที เลยก็ได้ เพื่อดูว่า จะให้ภาพออกมาในลักษณะไหน ซึ่งการถ่ายภาพโดยใช้ long exposure เป็นวิธีการหนึ่งที่จะได้ภาพที่ดูเเปลกตา เเละดูน่ามหัศจรรย์

5. ใช้ขาตั้งกล้อง สายลั่นชัตเตอร์ หรืออะไรก็ตามที่ช่วยในการยึดไม่ให้เกิดการขยับของกล้อง 

การใช้ขาตั้งกล้องเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เเละมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการถ่ายภาพช่วง blue hour เพราะจะช่วยให้ภาพที่ได้ คมชัด เพราะการเคลื่อนไหวของกล้องเพียงน้อยนิดในที่เเสงน้อย ก็จะทำให้ภาพเกิดการสั่นไหว หรือไม่คมชัดได้

source : https://digital-photography-school.com/

อ่านพื้นฐานถ่ายภาพสำหรับมือใหม่อีกได้ที่นี่เลย

Exit mobile version