Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

5 ฟีเจอร์ Atomos Ninja V ในงานวิดีโอมืออาชีพที่น่าสนใจ และช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น

Atomos Ninja V หน้าจอมอนิเตอร์ที่นอกจากจะสามารถบันทึกไฟล์วีดิโอขณะถ่ายทำได้แล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่เด่นๆ ที่ทำให้คุณต้องประทับใจเมื่อนำไปใช้งานร่วมกับกล้องถ่ายรูปและวีดิโอ เพื่อให้การบันทึกภาพมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ตัวไฟล์งานยังนำไปใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ PC และ MAC เพื่อที่จะปรับปรุงแก้ไขหรือตัดต่อให้ภาพมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเป็นอุปกรณ์ที่มีความแข็งแรงน้ำหนักเบาพกพาไปใช้งานได้ทุกๆ พื้นที่

5 ฟีเจอร์ Atomos Ninja V ในงานวิดีโอมืออาชีพที่น่าสนใจ และช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น

1. ควบคุมและเช็คตรวจสอบงานได้แบบเรียลไทม์

ฟีเจอร์เด่นที่ทำให้ Atomos Ninja V มีความน่าสนใจมากๆ ก็คือความสามารถในการควบคุมและการตรวจสอบการบันทึกวีดิโอแบบเรียลไทม์ โดยจุดนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการถ่ายวีดิโอ เพราะจะช่วยลดความผิดพลาดในการทำงาน และควบคุมคุณภาพในการทำงาน นอกจากนี้ในการเช็คงานสามารถทำได้แบบสโลว์โมชั่นหรือเล่นแบบเฟรมต่อเฟรมได้ทันที เพื่อที่จะตรวจดูว่ามีจุดไหนบกพร่อง หรือจุดไหนต้องแก้ไขเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด

2. บันทึกไฟล์วีดิโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สามารถบันทึกวีดิโอลงในหน้าจอมอนิเตอร์ได้เลย โดยสามารถบันทึกไฟล์แบบ 4K 60 เฟรมต่อวินาที ที่ 10-Bit HDR ผ่านช่อง HDMI 2.0 ลงไปใน SSD ได้ทันที ช่วยให้สามารถทำงานได้ยาวนานต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น ลดภาระของการในการบันทึกข้อมูล นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกไฟล์วีดิโอแบบ ProRes หรือ ProRes Raw ได้ด้วย

โดยการบันทึกไฟล์วีดิโอแบบ ProRes หรือ ProRes Raw จะทำให้คุณได้ไฟล์วีดิโอที่มีคุณภาพดีและช่วยให้ทำงานได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งระหว่างการถ่ายทำ และภายหลังการถ่ายทำ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปรับแต่งตัดต่อก็ทำงานได้รวดเร็วกว่าไฟล์ธรรมดา โดยไฟล์วีดิโอเหล่านี้สามารถนำไปทำงานกับคอมพิวเตอร์ PC และ MAC ได้ทันทีโดยใช้ร่วมกับซอฟท์แวร์มืออาชีพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Final Cut Pro หรือ Media Composer เป็นต้น

3. จอสว่าง รองรับไฟล์ช่วงไดนามิกสูง

Atomos Ninja V สามารถแสดงภาพที่มีช่วงไดนามิก หรือช่วงแสงของภาพได้มากถึง 10 stop ไม่ว่าจะเป็นสัญญาภาพแบบ LOG, HLG หรือ PQ HDR ก็สามารถดูภาพบนจอได้อย่างชัดเจนแม้ว่ากลางวันที่มีแสงจ้า เพราะหน้าจอมีระบบป้องกันแสงสะท้อน แล้วก็สามารถปรับความแม่นยำของสีได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดใช้งาน HDR หรือ HDR TV ได้ด้วย ซึ่งฟีเจอร์ตัวนี้จะทำให้ภาพมีความสวยงามและชัดเจนที่สุด

4. ใช้ควบคุมและบันทึกไฟล์เสียงได้

นอกจากเรื่องการควบคุมแสงสีของภาพและการบันทึกวีดิโอแล้ว ตัว Atomos Ninja V ยังสามารถใช้งานควบคุมเสียงจากกล้องได้โดยตรง โดยสามารถเลือกแหล่งสัญญาณเสียงแบบดิจิตอลผ่าน HDMI หรือแบบอะลาน็อกผ่านช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.ก็ได้ และก็ยังมีช่องเสียบหูฟังเพื่อให้เราสามารถควบคุมเสียง และบันทึกไฟล์เสียงแยกออกได้ด้วย พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจสอบงานวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ เช็คภาพ แสง สี เสียงของวิดีโอได้ทันที ช่วยลดความผิดพลาดของการทำงาน

5. ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก

ในส่วนของเรื่องดีไซน์และการพกพา โดยตัวเครื่องของ Atomos Ninja V ผลิตมาจากอะลูมิเนียมอย่างดีมีความทนทานแต่มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 360 กรัมเท่านั้น พร้อมจอกว้างขนาด 5.2 นิ้ว และหนาเพียง 1 นิ้วเท่านั้น ขนาดถือว่าพอเหมาะน้ำหนักก็ไม่มากนัก ประมาณโทรศัพท์มือถือเท่านั้น พกพานำไปใช้งานได้ทุกๆ สถานที่ทำให้การถ่ายวีดิโอสะดวกสบายและได้คุณภาพงานที่ยอดเยี่ยม โดยหน้าจอแสดงภาพให้ความคมชัดในระดับ HDR 10 บิต สามารถแสดงภาพได้สว่างสดใส สู้แสงถึงแม้ว่าจะทำงานในเวลากลางวันก็สามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน

พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์การถ่ายภาพได้ที่ PHOTOSCHOOLTHAILAND

รวมบทความพื้นฐานสำหรับมือใหม่

Exit mobile version