Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

5 วิธีการถ่ายรูปมาโครให้สะกดสายตา (Macro Photography)

การถ่ายภาพมาโครสำหรับบางคนเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ต้องมีการคิดและจัดวางองค์ประกอบที่แตกต่างจากภาพถ่ายแนวอื่น และต้องใช้เลนส์ที่เฉพาะ เพื่อให้ได้รายละเอียดภาพที่สมบูรณ์ แต่การถ่ายมาโคร ก็เหมือนการเดินทางไปยังอีกโลกหนึ่ง โลกที่ทุกอย่างดูใหญ่โตมากขึ้น เห็นรายละเอียดบางอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนมาดูกันว่า 5 วิธีการถ่ายรูปมาโครให้สะกดสายตา มีอะไรบ้าง

5 วิธีการถ่ายรูปมาโครให้สะกดสายตา

1. ทำให้ภาพดูง่าย ด้วยการจัดองค์ประกอบ และการใช้สี

ภาพมาโครส่วนมากจะมีองค์ประกอบของภาพที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน โดยเริ่มจากการเลือกตัวแบบ ส่วนตัวแบบที่ดี คืออะไรก็ตามที่ทำให้เมื่อเรามองภาพ จะเป็นสิ่งนั้นเป็นสิ่งแรก

เมื่อได้ตัวแบบแล้ว ก็ทำการลบสิ่งรบกวนอื่นออกไป ไม่ว่าจะทำโดยการใช้ foreground หรือการเปลี่ยนมุม โดยมีจุดประสงค์เพื่อแยกตัวแบบ ออกมาให้เด่นชัดให้มากที่สุด และทำให้เมื่อมองภาพแล้ว จะรู้ว่าสิ่งใดที่จะต้องมองนั่นเองเมื่อทำการลบสิ่งรบกวนภาพแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่ต้องนำมาดูด้วย นั่นคือ มีสีของพื้นหลัง หรือสีของสิ่งอื่นดึงความสนใจไปจากตัวแบบหรือไม่

ในการถ่ายภาพมาโคร ปกติแล้วจะใช้สีที่อยู่ในภาพเพียง 3 สี หรือน้อยกว่านั้น ถ้า 4 สี จะเริ่มมีการรบกวนสายตาขึ้น และถ้าเยอะกว่านั้น ก็จะยุ่งเหยิง สายตาและสมองจะรู้สึกไม่ชัดเจนว่า จะต้องสนใจสิ่งใหน ดังนั้น ต้องพยายามทำให้ดูง่ายที่สุด

2. เพิ่มระยะทางระหว่างตัวแบบ และพื้นหลัง เพื่อจะได้พื้นหลังที่สวยงาม

หลังจากที่ทำให้ภาพดูไม่ซับซ้อน ดูง่าย ด้วยการเลือกตัวแบบและจัดองค์ประกอบแล้ว พื้นหลังก็สำคัญและพื้นหลังก็ต้องทำให้ดูสะอาด ไม่รกสายตาด้วย ภาพมาโครที่ดี พื้นหลังจะต้องไม่แย่งความสนใจไปจากตัวแบบ ในทางกลับกัน ต้องทำให้ตัวแบบมีความโดดเด่นขึ้น

เพิ่มระยะของตัวแบบออกจากพื้นหลังด้วยการเพิ่มค่ารูรับแสงให้กว้างขึ้น อยู่ที่ประมาณ f/2.8 ถึง f/4 แต่ก็ไม่มากเกินไป เพราะยังต้องการให้เก็บทุกอย่างอยู่ในโฟกัส ส่วนวัตถุที่อยู่ไกลออกก็จะฟุ้ง เบลอ สวยงาม พวกพื้นหลังฟุ้ง ๆ ที่เค้าเรียกกันว่า  โบเก้ (bokeh) นี่แหละจำไว้ว่า พื้นหลังเบลอ จะช่วยให้ตัวแบบเด่นขึ้น ดังนั้นใช้รูรับแสงกว้าง และเพิ่มระยะห่างระหว่างพื้นหลัง และตัวแบบ

3. ใช้ manual โฟกัส เพื่อให้ได้รายละเอียดที่ต้องการ

ปัญหาโดยทั่วไปคือ การใช้ระบบ Auto focus ทำให้บางจุดที่ต้องการหลุดโฟกัส และภาพที่มาก็ไม่ได้อย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดคือ ปรับโฟกัสด้วยมือนี่แหละนะ  

ปรับจุดโฟกัสด้วยการหมุนวงแหวนที่เลนส์ ปรับหมุนโฟกัสช้า ๆ หมุนซ้าย ขวา  เพื่อปรับดูว่า จุดไหนที่เราต้องการ อยู่ในโฟกัส หรือหลุดโฟกัสไปหรือไม่ ถ้ายังไม่คล่อง ลองเปิด autofocus ก่อน ลองดูไอเดียว่า น่าจะปรับโฟกัสตรงไหน จากนั้นก็ลองปรับหมุนให้ได้ตามนั้น อาจจะให้เวลาซักหน่อย และต้องฝึกฝนด้วยจนกว่าจะชำนาญ แต่ก็คุ้มค่ากับเวลาที่ใช้ไปในการฝึกฝนนะ

4. ถ่ายภาพย้อนไปที่แหล่งของแสง เพื่อให้ได้โบเก้ที่งดงาม

การถ่ายภาพมาโครก็มีหลากหลายแบบ หลายสไตล์กันไป แต่จะทำยังไงให้ภาพของเราดูสะดุดตามากกว่าของคนอื่น วิธีการหนึ่ง ก็คือการสร้างโบเก้ให้ดูสะดุดตา วิธีการง่าย ๆ คือ การถ่ายภาพย้อนเข้าไปที่ต้นกำเนิดแสง ที่จะถ่ายย้อนแสงดวงอาทิตย์ก็ได้ แต่ขอเป็นช่วงบ่ายแก่ ๆ หรือเวลาเย็นที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า หรือตอนเช้า ช่วงที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ที่เรียกกันว่า Golden Hour นั่นแหละ 

จากนั้นถ่ายภาพตัวแบบ โดยมีแสงอาทิตย์อยู่ด้านหลัง ขยับหามุมที่แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านออกมาอาจจะเป็นกิ่งไม้ ใบไม้ ก็แล้วแต่จะออกแบบเลยล่ะด้วยวิธีการนี้ จะได้ภาพพื้นหลังที่มีโบเก้สวยงาม และถ้าเป็นเลนส์ทางยาว ที่มีช่วงเลนส์ยาว จะยิ่งสร้างโบเก้ที่สวย และละมุนตามากขึ้นอีก

5. มองหามุมที่มีแสงและเป็นองค์ประกอบซึ่งกันและกัน

เมื่อดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งเส้นขอบฟ้า จะให้แสงและเงาที่ทำงานเป็นคู่ผสมอย่างลงตัว สีสันของต้นไม้ ต้นหญ้าก็จะเด่นชัดขึ้นด้วย แสงอาทิตย์สีทองก็จะสร้างโบเก้ที่งดงาม จึงเป็นองค์ประกอบที่เหมาะและส่งเริมกันและกันอย่างลงตัว

source : digital-photography-school.com

รวมบทความถ่ายภาพ PORTRAIT เบื้องต้นสำหรับมือใหม่ ตั้งแต่ BASIC PHOTOGRAPHY และ PORTRAIT PHOTOGRAPHY แบบครบจบทุกหัวข้อ


Exit mobile version