Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

5 เทคนิคการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก ให้ดูโปรด้วยเลนส์ซูม

การถ่ายภาพดวงอาทิตย์ช่วงที่กำลังขึ้น และดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เป็นการถ่ายภาพที่เชื่อว่าช่างภาพทุกคนเคยผ่านการถ่ายภาพเหล่านี้มา ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายด้วยมือถือ หรือกล้องโปรก็ตาม เพราะภาพของดวงอาทิตย์ขณะนั้น ทำให้ภาพดูมีเสน่ห์ เเละมนต์ขลังของช่วงเวลาเหล่านั้นอย่าง บอกไม่ถูก เเละบทความนี้จะพูดถึงการถ่ายดวงอาทิตย์เช่นกัน เเต่เป็นการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ให้ดูโปร ด้วยเลนส์ซูม 

เลนส์ซูมหรือเทเลโฟโต้เลนส์ คือเลนส์ที่มีช่วงยาว อยู่ที่ประมาณ 200 หรือ 300 มิลลิเมตรด้วยเลนส์นี้ เราสามารถสร้างภาพดวงอาทิตย์ขึ้นเเละตกให้ดูโดดเด่นได้ 

5 เทคนิคการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ขึ้น และอาทิตย์ตก ให้ดูโปรด้วยเลนส์ซูม

1. เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และมีเเผนสำรองไว้เสมอ

นอกจากจะเป็นเลนส์ กล้อง การ์ด ขาตั้งกล้อง สายลั่นชัตเตอร์ เเล้ว ควรมีอาหาร หรือน้ำดื่มพกไปด้วย เพราะการถ่ายภาพปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ อาจจะต้องเผื่อเวลา เเละอาจจะต้องรอ ดังนั้นมีอาหารสำรองไปด้วยนิดหน่อย จะได้ไม่หิวระหว่างถ่ายภาพ เพลงโปรดที่ชอบฟัง หรือเพลงสร้างบรรยากาศก็เเล้วเเต่ และถ้าหากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ก็อาจจะต้องเผื่อใจไว้ถ้าหากว่า ไม่ได้ภาพอย่างที่ต้องการ หรือฝนอาจจะมาทำลายแผนการถ่ายภาพดวงอาทิตย์ก็ได้ 

2. หาสถานที่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นหรือตกที่คิดว่าสร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจ

ไม่ว่าจะถ่ายในเมือง หรือตามชนนบท การถ่ายภาพดวงอาทิตย์ก็ต้องอาศัยจังหวะ เเละการคำนวณเวลาด้วย เพราะต้องไปถึงสถานที่ก่อนเวลาและตั้งค่า ให้พร้อม เพื่อรอจังหวะดวงอาทิตย์อยู่บนเส้นขอบฟ้า อาจจะต้องหาข้อมูลว่า ดวงอาทิตย์ขึ้น หรือดวงอาทิตย์ตกเวลากี่โมง 

อีกประเด็นหนึ่งนอกจากจะรู้ว่าดวงอาทิตย์ขึ้น หรือตกกี่โมงแล้ว ต้องดูด้วยว่าฤดู หรือช่วงเดือนนั้น ดวงอาทิตย์จะขึ้นหรือตกองศาไหนของเส้นขอบฟ้า เพราะในฤดูกาลที่ต่างกัน ดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้นหรือลงในตำเเหน่งเดียวกัน อาจจะมีการเปลี่ยนตำเเหน่งไปบ้าง (เเต่ยังไงด้วงอาทิตย์ก็จะขึ้นทางทิศตะวันออก เเละตกทางทิศตะวันตกเหมือนเดิมนั่นเเหละ อาจจะต่างเพียงองศาที่ตกเพียงเล็กน้อยจ้า) 

3. ศึกษาการตั้งค่ากล้องก่อนออกทริป

การปรับตั้งค่าเพื่อจะถ่ายภาพดวงอาทิตย์ อาจจะเป็นเรื่องยุ่งยากสำกหรับมือใหม่ไปซักหน่อย ถ้าเลนส์ช่วง 200 มิลลิเมตร อาจจะตั้งค่า ค่ารูรับเเสง f/8 ความเร็วชัตเตอร์ 1/30 วินาที และปรับค่า ISO 200-300 เเละถ่ายด้วยโหมด HDR เพื่อจะเก็บภาพ 3 รูปแบบ คือ เเสงเข้าน้อย ปานกลาง เเละสว่าง ที่สำคัญ ต้องไม่ลืมที่จะตั้งกล้องบนขาตั้งกล้อง ถ่ายภาพด้วยRAW และถ่ายภาพด้วยไฟล์ RAW เพื่อจะได้นำมาปรับสี เเละเเสง ในกระบวนการ post – processing ด้วย Lightroom, Photoshop, Luminar ในภายหลัง เพื่อจะได้รายละเอียดของภาพครบถ้วน 

ดังนั้นก่อนจะออกทริป ควรจะลองศึกษาการถ่ายภาพ เเละลองจดการตั้งค่ากล้องจากหลากหลายเเหล่งเรียนรู้ เเล้วนำไปทดลองถ่ายด้วยตัวเอง เพื่อดูผลลัพท์ที่ได้

4. ตั้งค่ารูรับเเสงให้เเคบ

เพื่อภาพที่ได้จะมีความคมชัด เพราะการถ่ายภาพวิวต้องการให้เห็นรายละเอียดภาพระยะใกล้เเละไกลด้วย โบเก้ก็ทำได้ เเต่ว่า โบเก้ น่าจะเหมาะกับการถ่ายภาพบุคคล หรือสัตว์ หรือ การถ่ายเพื่อต้องการให้เน้นที่ตัวเเบบนั่นเอง การตั้งค่าอาจจะประมาธ  f/11-14 และเป็นการลดความจ้าของเเองอาทิตย์ที่จะเข้ามาสู่เซนเซอร์นั่นเอง เพราะการถ่ายเเบบส่องตรงไปยังดวงอาทิตย์ ไม่ต้องกังวลว่า เเสงจะไม่พอเเล้วล่ะนะ ในทางกลับกัน ต้องจำกัดประมาณเเสงที่เข้าต่างหาก 

5. ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูง

โดยค่าความเร็วชัตเตอร์อาจจะอยู่ที่ 1/ 250 – 500 ขึ้นอยู่กับความสามารถของกล้องอีกที ถึงเเม้ว่าภาพโดยรอบ อาจจะมืด เเต่การถ่ายเเบบไฟล์ RAW ก็จะช่วยดึงเเสงที่มืดให้สว่างขึ้นได้ 

source : digital-photography-school.com

รวมบทความถ่ายภาพ PORTRAIT เบื้องต้นสำหรับมือใหม่ ตั้งแต่ BASIC PHOTOGRAPHY และ PORTRAIT PHOTOGRAPHY แบบครบจบทุกหัวข้อ

Exit mobile version