Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

Atomos Ninja V มีข้อดีอะไรบ้างที่จะช่วยให้การทำงานวิดีโอของเราดีมากยิ่งขึ้น

Atomos Ninja V มอนิเตอร์ขนาดเล็กเเละเบา แต่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการทำงานด้านวีดิโอ สีสันและรายละเอียดของภาพที่ชัดเจน พร้อมกันนี้ยังมีระบบป้องกันแสงจ้า เช็คภาพได้ในขณะที่ทำงานอยู่บริเวณแดดกลางแจ้ง พร้อมกับนี้หน้าจอรุ่นนี้ยังสามารถนำไฟล์ไปใช้ร่วมกับ คอมพิวเตอร์ PC และ Mac เพื่อปรับปรุงแก้ไฟตัดต่อหรืออื่นๆ อีกมากมายทำให้วีดิโอออกมาสมบูรณ์แบบ และยังรองรับการทำงานร่วมกับโปรไฟล์สีจากกล้องหลายๆ แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบเพื่อช่วยในการตรวจเช็คงานแบบเรียลไทม์ ทำให้การบันทีกวีดิโอเต็มไปด้วยความเพอร์เฟกต์

Atomos Ninja V มีข้อดีอะไรบ้างที่จะช่วยให้การทำงานวิดีโอของเราดีมากยิ่งขึ้น

หน้าจอละเอียดสีสันชัดเจนพร้อมระบบป้องกันแสงสะท้อน

การถ่ายวีดิโอจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำงานให้ออกมาเพอร์เฟกต์ที่สุดโดย Atomos Ninja V สามารถตอบโจทย์นี้ด้วยการที่เป็นอุปกรณ์ที่มีหน้าจอให้ความละเอียดถึง 1920×1080 เเละมีความละเอียดของพิกเซลที่ 427 พิกเซลต่อนิ้ว 10-Bit HDR ทำให้การมองเห็นทั้งภาพเเละสีชัดเจนสบายตา นอกจากนี้ยังสามารถเช็คภาพที่บันทึกเอไว้ในเวลากลางวันที่แสงจ้าได้ เนื่องจากมีระบบป้องกันแสงสะท้อน ขณะเดียวกันภาพยังมีความละเอียดสูงในขณะที่ทำการซูมขยายภาพเพื่อทำการเช็ครายละเอียดของงาน

สร้างภาพที่ออกมาสมบูรณ์แบบด้วยไฟล์ที่สามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ PC และ Mac

Atomos Ninja V ทำงานร่วมกับ คอมพิวเตอร์ PC และ Mac ได้อย่างลงตัว สามารถนำไฟล์ที่ได้จากมอนิเตอร์รุ่นนี้ไปใช้งานคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อที่จะทำการปรับปรุง แก้ไข ตัดต่อ ตกแต่ง หรืออื่นๆ ได้อีกมากมาย เพียงแค่โหลดซอฟท์แวร์อย่างเช่น Final Cut Pro, Media Composer, Edius 6.0+, Vegus, Lightwork และ Autodesk Smoke เป็นต้น เท่านี้ก็จะทำให้การบันทึกวีดิโอมีความสมบูรณ์แบบ ภาพที่ออกมาโดดเด่นและเต็มไปด้วยประสิทธิภาพสูงสุด

รองรับ ProRes และ ProRes RAW เพื่อให้การทำงานกับวีดิโอมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับมอนิเตอร์รุ่นนี้รองรับการบันทึกผลแบบ ProRes และ ProRes RAW รวมทั้งไฟล์สำหรับวีดิโอที่มีคุณภาพสูง ช่วยให้การควบคุมวีดิโอมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้อุปกรณ์รุ่นนี้ยังสามารถอ่าน ไฟล์ Lut สี (.cube format) ได้ด้วย ทำให้เวลาบันทึกวีดิโอคุณจะมองเห็นสีจริง

ซึ่งไม่ต้องนำไปผ่านซอฟท์แวร์การจัดสีก่อนก็ได้ จึงเหมาะกับการทำงานในกองถ่ายต่างๆ และการทำ Live Stream ที่สำคัญยังสามารถปรับสีเเละจัดการกับไฟล์ได้โดยตรงอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถทำ Grading สี หรืองานด้าน Visual effects ซึ่งควบคุมทุกแง่มุมของภาพวิดีโอได้อย่างแม่นยำเพื่อสร้างงานออกมาเนียบที่สุด และยังช่วยให้ work flow ดีขึ้นด้วย

ใช้ได้กับกล้องหลายเเบรนด์ รองรับการทำงานกับไฟล์วิดีโอระดับสูง

Atomos Ninja V สามารถทำงานและบันทึกกับกล้องที่ถ่ายวิดีโอแบบโปรไฟล์ HDR, HLG ไดนามิกเรนจ์หรือช่วงแสงของภาพได้มากถึง 10 สต็อปจากสัญญาณ Log / PQ / HLG พร้อมรองรับการทำงานร่วมกับโปรไฟล์สีจากกล้องหลายรุ่นหลายยี่ห้อทั้ง Sony, Canon, Panasonic, ARRI, RED, Nikon, FujiFilm และ JVC ถือเป็นข้อดีมากๆ ในการทำงานวีดิโอเพราะสามารถใช้กล้องที่หลากหลายเพื่อที่จะได้ภาพที่ออกมามีความสวยในสไตล์ที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกภาพวีดีโอ 4K ที่ 60p ได้ด้วย ซึ่งทำให้ภาพมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ส่งสัญญาณด้วยการผ่านพอร์ท HDMI และไม่มีการบีบอัดไฟล์ทำให้ภาพมีความละเอียดสูง

การที่มอนิเตอร์ Atomos Ninja V ไม่มีการบีบอัดไฟล์เป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับการถ่ายวีดิโอ เพราะทำให้คุณได้ภาพที่มีความละเอียดสูง เพื่อที่จะนำไปใช้ในกระบวนการหลังการผลิตได้อย่างไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเอาไปตัดต่อ ตกแต่ง แก้ไข หรือทำอะไรก็ตาม ไฟล์ภาพที่ไม่มีการบีบอัดจะทำให้ภาพมีความคมชัด นอกจากนี้ระบบการส่งสัญญาณทั้งเข้าเเละออกจากจอทำได้โดยผ่านพอร์ต HDMI ที่ทำให้ได้คุณภาพทั้งภาพเเละเสียงเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้การทำงานกับวีดิโอมีความสมบูรณ์แบบอย่างมาก

ช่องเสียบหูฟังช่วยให้คุณควบคุมเสียง และบันทึกไฟล์เสียงแยกได้ด้วย

การที่คุณสามารถควบคุมเสียงจากกล้องได้โดยตรงเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ทำให้คุณสามารถเลือกแหล่งสัญญาณเสียงแบบดิจิตอลผ่าน HDMI หรือแบบอะลาน็อกผ่านช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.ก็ได้ และก็ยังมีช่องเสียบหูฟังเพื่อให้เราสามารถควบคุมเสียง และบันทึกไฟล์เสียงแยกออกได้ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยในการตรวจสอบวีดิโอได้แบบเรียลไทม์

ทำให้ภาพที่บันทึกมีความสวยงามไม่มีข้อบกพร่อง และเป็นการลดความผิดพลาด ที่สำคัญคุณยังเช็คานได้ทั้งแบบสโลว์โมชั่นหรือเล่นแบบเฟรมต่อเฟรมได้ทันที เพื่อที่จะตรวจดูงานว่ามีอะไรต้องแก้ไขหรือเพิ่มเติม

บันทึกไฟล์ลงใน SSD ช่วยลดภาระของการบันทึกข้อมูล

สำหรับมอนิเตอร์รุ่นนี้สามารถบันทึกไฟล์แบบ 4K 60 เฟรมต่อวินาที ที่ 10-Bit HDR ผ่านช่อง HDMI 2.0 ลงไปใน SSD ได้ทันที ช่วยให้สามารถทำงานได้ยาวนานต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น ลดภาระของการในการบันทึกข้อมูล

พร้อมกันนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่ของ Sony รุ่น NP-F ขนาด 7800mAh ใช้งานได้สูงสุด 150 นาทีสำหรับการใช้งานโหมดบันทึกวิดีโอแบบ 4K และยังรองรับการต่อไฟจากภายนอกได้โดยตรง (DC) เนื่องจากมีหัวปลั๊กหลายแบบสำหรับต่อเข้ากับอะแดปเตอร์ เพื่อใช้ในการทำงานใน Studio

พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์การถ่ายภาพได้ที่ PHOTOSCHOOLTHAILAND

รวมบทความพื้นฐานสำหรับมือใหม่

Exit mobile version