3 เรื่องทำความรู้จักกับ P mode ที่หลายคนมักมองข้ามไป

Yochuwa Samarom

3 years ago

3 เรื่องทำความรู้จักกับ P mode ที่หลายคนมักมองข้ามไป Program mode หรือ P mode เป็นอะไรที่คนมักจะมองว่าแปลกแยกจากโหมดอื่นๆ และคนมักจะไม่ค่อยได้ใช้มันเพราะยังไม่รู้ว่ามันจะใช้ยังไงและช่วยเราให้ถ่ายภาพได้ยังไง แต่ถ้าเมื่อเรามีความเข้าใจแล้ว เราจะพบว่ามันมีประโยชน์และช่วยได้มากเลยทีเดียว ในบทความนี้เราจะทำความรู้จักกับ Program mode ให้มากขึ้นรวมไปถึงว่ามันคืออะไร วิธีการใช้งาน และใช้งานโหมดนี้ยังไงให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

5 เรื่องทำความรู้จักกับ P MODE ที่หลายคนมักมองข้ามไป

1. Program mode คืออะไร?

ก่อนอื่นเลยเราต้องทำความเข้าใจว่าโหมดการใช้งานของกล้องมี 2 โหมดหลักๆ คือ Manual mode ที่สามารถปรับตั้งค่ารูรับแสง (Aperture) ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter speed) และ ค่าความไวแสง (ISO) และในอีกโหมดหนึ่งคือ Auto mode ถ้าคุณใช้โหมดนี้คุณจะไม่สามารถปรับแต่งค่าใดๆได้เลย

2. Program mode ( P mode) ทำงานยังไงและทำอะไรได้บ้างกัน

P mode ทำงานของรูรับแสงและชัตเตอร์กับโหมดออโต้ ซึ่งการทำงานของ P mode จะเป็นในลักษณะที่เราตั้งค่าความไวแสง ตัวกล้องจะเซตค่ารูรับแสง (Aperture) และความเร็วชัตเตอร์ (Shutter speed) ให้โดยอัตโนมัติ (จำไว้ว่า ISO ขึ้นอยู่กับความไวของเซนเซอร์กล้อง , รูรับแสงก็ขึ้นอยู่กความสามรถของเลนส์ที่ใช้, ส่วนความเร็วชัตเตอร์ก็ขึ้นอยู่กับเวลาที่เราตั้งไว้) ซึ่งใน P mode นั้นสามารถตั้งค่าอื่นๆได้นอกเหนือจากฟีเจอร์ของกล้อง เช่น ค่า ISO ในบางครั้งเราอาจจะเรียก P mode ว่าเป็นโหมดการปรับค่า ISO หรือ ISO Priority

3. P mode มีประโยชน์อย่างไร

ในส่วนของ P mode อาจจะไม่ได้รับความสนใจเท่าความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสง แต่มันสามารถสร้างความแตกต่างให้กับรูปถ่ายของได้เพียงแค่ต้องใช้มันในเวลาที่เหมาะสม สาระสำคัญของใช้ P mode ให้เกิดประโยชน์สูงสุดคือการโฟกัสไปที่ ISO มากกว่าความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสง เพราะเรารู้ว่า กล้องจะปรับค่าความเร็วชัตเตอร์และรูรับแสงที่ดีที่สุด เราจึงแค่ปรับ ISO ตามความเหมาะสมแค่นั้นปล่อยให้กล้องได้ทำงานส่วนที่เหลือตามหน้าที่ของมันไป

ขอสรุปของการใช้ประโยชน์จาก P mode คือให้สนใจที่การปรับตั้งค่า ISO เพียงอย่างเดียว และการจัดวางเฟรมและองค์ประกอบของภาพมากกว่าความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง หรือภาพรวมของความสัมพันธ์ของแสง นอกจากนี้แล้ว P mode ยังสามารถเป็นจุดเปลี่ยนของคนที่ยังติดการใช้ Auto mode อยู่ ถ้าต้องการจะฝึกฝนหรือพัฒนาให้มากขึ้นก็ลองฝึกถ่ายใน P mode ดูบ้างว่าเราอาจจะได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อย

สรุป

ใน P mode สามารถตั้งค่าสำหรับชดเชยแสงได้กรณีที่แสงน้อย ที่ในโหมดออโต้ไม่สามารถทำได้ ซึ่งทำให้เราโฟกัสกับการจัดองค์ประกอบ หรือตั้งค่าอื่น ๆ เช่น การปรับสมดุลแสงสีขาว, โหมดการวัดแสง, จุดโฟกัส หรือแม้กระทั่งการใช้งานแฟลช เมื่อเทียบกับโหมดออโต้แล้ว เราจะเห็นประโยชน์ต่างๆมากมายของ P mode และแน่นอนว่า P mode ไม่ได้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานเสมอไป บางครั้งเราก็อยากที่จะปรับความเร็วชัตเตอร์หรือรูรับแสงบ้าง แต่ถ้านึกถึงการปรับ ISO แล้วอย่าลืมนึกถึง P mode ละกันครับ