Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

7 วันในสวิตเซอร์แลนด์ ดินเเดนสวรรค์บนดิน

7 วันในสวิตเซอร์แลนด์ ดินเเดนสวรรค์บนดิน

7 วันในสวิตเซอร์แลนด์ ดินเเดนสวรรค์บนดิน การได้นั่งพักในที่ที่เงียบสงบ ใช้เวลาอยู่กับ ตัวเอง กับครอบครัว ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เป็นการชาร์จแบตเตอรีของชีวิตได้ดีอีกวิธีหนึ่งเลยล่ะ

ถ้ามีเวลาอยู่ 7 วันอยากจะเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่เป็นจุดหมายแห่งการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม ทุ่งหญ้าสีเขียว กลิ่นหอมของดอกไม้นานาพันธุ์ เจือด้วยกลิ่นของหิมะจากเทือกเขาแอลป์

7 วันในสวิตเซอร์แลนด์ ดินเเดนสวรรค์บนดิน ไปที่ไหนได้บ้าง

ธรรมชาติที่สวยงามอย่างน่าทึ่งของที่นี่ เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวเข้าไปแวะเยี่ยมเยือนอยู่บ่อยครั้ง จนนักท่องเที่ยวต่างบอกว่า ประเทศนี้คือสวรรค์บนดินเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นเมืองไหน ความสวยงามมีอยู่ในทุกจุดหมายปลายทางจริงๆ แต่ถ้ามีระยะเวลาเพียงสั้นๆ สถานที่อาจจะลองเส้นทางที่จะแนะนำคือ

เริ่มต้นเดินทางจาก Geneva – Zermatt – Lauterbrunnen – Grindelwald – Lucerne – Zurich เป็นเมืองสุดท้าย  

7 วันในสวิตเซอร์แลนด์ ดินเเดนสวรรค์บนดิน

1. Geneva

เป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีการผสมผสานอย่างลงตัวของวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมกับความทันสมัย บรรยากาศของชุมชนเมือง ท่ามกลางหุบเขา บ้านเรือนที่น่ารัก ประกอบกับทัศนียภาพที่สวยงาม ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว

กรุงเจนีวาสามารถเดินเที่ยว หรือจะนั่งรถไฟ หรือรถบัส ไปลงยังจุดต่างๆก็ได้ เช่น Jet d’Eau เป็นน้ำพุขนาดใหญ่ที่ทะเลสาบเจนีวา หรือเที่ยวโบสถ์ St. Pierre Cathedral หรือ Palace of Nations ก็ได้หรือถ้าชอบงานศิลป์ก็ที่ Musée d’Art et d’Histoire และที่ Parc des Bastions ก็มีตารางหมากรุกยักษ์ตกแต่งสวนให้ดูน่าสนใจขึ้นไปอีก

7 วันในสวิตเซอร์แลนด์ ดินเเดนสวรรค์บนดิน ไปที่ไหนได้บ้าง

นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชม Lake Geneva ได้ ซึ่งที่ Lake Geneva ที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตประเทศสวิตเซอร์แลนด์และมีบางส่วน ที่อยู่ในเขตประเทศฝรั่งเศส เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง มีกิจกรรมหลายอย่างที่สามารถทำได้ ซึ่งการล่องเรือสามารถแวะตามจุดต่างๆที่เรือจะจอดให้ลงไปชม แวะถ่ายรูปได้นะ

2. Zermatt

การได้ไปเห็นความยิ่งใหญ่ของ “แมทเธอฮอร์น” ซึ่งเป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงมากในเทือกเขาแอลป์ ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร

รูปทรงปิรามิดที่งดงามตั้งอยู่บนพื้นที่ของเมือง Zermatt ในเขตแดนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อชมความงามและความยิ่งใหญ่ของที่นี่ไม่เว้นแต่ละวันเลยล่ะ เพราะที่นีมีความสวยงามจนไม่อาจละสายตา และมีเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอยู่บ่อยๆ  ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่ารูปร่างของภูเขาแห่งนี้ อยู่บนฉลากของ ช็อกโกแลตยี่ห้อดัง ยี่ห้อหนึ่ง

ในเมืองเล็กๆนี้เอง การเดินเที่ยวชมรอบๆเมือง ดูร้านขายของ ร้านอาหารเล็กๆ หรือเดินขึ้นเขาไปดูวิวมุมสูงของเมืองทั้งเมือง ที่โบสถ์เล็กๆบนยอดเขา ก็เป็นการใช้เวลาในเมืองนี้อย่างคุ้มค่าทีเดียว

อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดองค์ประกอบภาพสำหรับมือใหม่หัดถ่ายรูป

3. Lauterbrunnen

เป็นเมืองเล็กๆหนึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่งในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ มีน้ำตกไหลลงมาจากภูเขาใจกลางเมือง มีที่พักและรีสอร์ทอยู่อย่างมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเลือกพักได้ตามใจ ถนนสายหลักของหมู่บ้านเรียงรายไปด้วยโรงแรมร้านอาหารคาเฟ่

ร้านขายอุปกรณ์กลางแจ้งร้านขายของที่ระลึกและซูเปอร์มาร์เก็ตและใช้เวลาในการเดินเที่ยวเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เดินได้ทั้งเมืองแล้วล่ะ นอกจากนั้นสามารถเดินขึ้นเขาไปชมความสวยงามของธรรมชาติได้ มีป้ายทางเดินตลอดทาง ไม่ต้องกลัวหลงเลย

เช่นการเดินเที่ยวบนภูเขา Mürren ก็จะได้พบทัศนียภาพที่สวยงามน่าประทับใจเลย หรือถ้าไม่อยากเหนื่อยเดินถึงยอด ก็มี cable car ให้ขึ้นไปแบบสวยๆด้วยนะ

4. Grindelwald

จาก Lauterbrunnen สามารถเดินทางไปที่ Grindelwald  โดยใช้รถยนต์ (ประมาณ 20 นาที) หรือรถไฟ เปลี่ยนที่Zweilütschinen เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่อยากให้ขึ้นไปดู

ทัศนียภาพงดงามเกินที่จะบรรยายให้เห็นภาพจริงๆ พอได้ไปแล้วได้ใช้เวลากับที่นั่นแล้ว เอาเข้าจริงๆไม่อยากละสายตาไปจากความงามนั้นเลย บอกตัวเองว่าขออยู่ต่อเลยได้มั๊ย

5. Lucerne

ลูเซิร์นเป็นเมืองที่สำคัญทางเศรษฐกิจ การคมนาคม และทางวัฒนธรรม มีทะเลสาบที่สวยงาม สามารถล่องเรือเที่ยวชมทะเลสาบได้ หรือจะเดินเที่ยวภายในเมือง มี “สะพานคาเปล” เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่

มีอายุหลายร้อยปี และเป็นสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว แต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งภาพเขียนมีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปีเลยล่ะ

6. The Kapellbrücke

ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1333 เป็นสะพานไม้ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำ Reuss ในเมือง Lucerene ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่หลังโบสถ์ St. Peter’s Chapel เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ในตอนแรกมีความยาวกว่า 200 เมตร แต่มีการปรับปรุงอาคารต่างๆ จึงเหลือความยาวเพียง 170 เมตรเท่านั้น

โดยสะพานอันสวยงามเเห่ง นี้ถูกสร้างขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของป้อมปราการของเมือง Lucerene และเชื่อมต่อส่วนหนึ่งของเมืองเก่าทางฝั่งขวากับส่วนใหม่ทางด้านซ้ายและเพื่อป้องกันอันตรายจากการโจมตีที่อาจมาจากทะเลสาบตอนใต้

7. Lion Monument

เป็นอนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน สร้างเพื่ออุทิศให้กับทหารของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่เสียชีวิต อุทิศตนในหน้าที่ ในเหตุการ์ณปฏิวัติฝรั่งเศส โดยอนุสาวรีย์เเห่งนี้ได้ยกย่องด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์และจงรักภักดีของทหารเหล่านั้น โดยอนุสาวรีย์นี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลูเซิร์นเลย

เดินจากริมทะเลสาบ เขาไปอีกเพียงไม่กี่เมตรก็จะเจอสวนแห่งนี้ และเมื่อมองดูสิงโตหินตัวนี้ จะเห็นว่ามีลักษณะนอนหมอบ มีหอกปักอยู่กลางหลัง แสดงสีหน้าแห่งความเจ็บปวดและเศร้าสร้อยอย่างมาก เป็นอีกจุดหนึ่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยี่ยมชมกันไม่ขาดสาย

8. Zurich

เป็นศูนย์กลางของระบบการขนส่งมวลชนของประเทศ เช่นระบบขนส่งรถไฟ เส้นทางการคมนาคม การจราจรทางอากาศ โดยเป็นที่ตั้งของสนามบินและสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดและการจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศ ตั้งอยู่ทางภาคกลางตอนเหนือของประเทศ มีความเป็น “ตัวเมือง” อย่างชัดเจน

ถึงเเม้บ้านเมืองจะมีการพัฒนาเป็น ตัวเมือง เเต่ก็ไม่สามารถกลบความสวยงามของภูมิประเทศที่สวยงามได้เลย เพราะจากในเมืองสามารถเห็นภูเขาแอลป์ที่ทอดตัวยาวได้อย่างชัดเจน เเละซูริคมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม และดูมีมนต์ขลัง ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ของที่นี่เลย

นี่เป็นเพียงตัวอย่างการเดินทางคร่าวๆ สามารถปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละคนได้เลย เพราะแต่ละคนอยากดูอยากรู้ อยากเห็น อยากเที่ยวไม่เหมือนกัน ความชอบก็แตกต่างกันออกไป

One’s destination is never a place, but a new way of seeing things. “– Henry Miller

“จุดหมายปลายทางนั้นไม่ใช่สถานที่ใดที่หนึ่ง หากแต่เป็นการมองเห็นสิ่งต่างๆ ด้วยมุมมองใหม่ต่างหาก” – เฮนรี มิลเลอร์

รวมบทความท่องเที่ยวและถ่ายภาพที่น่าสนใจ

Exit mobile version