Site icon เว็บสอนถ่ายภาพ สอนถ่ายวิดีโอ และผลิตคอนเทนต์ ที่เข้าใจมือใหม่มากที่สุด

พรีวิว DJI Ronin 4D กล้องวิดีโอแห่งยุคที่รวบรวมเทคโนโลยี Cimatography ที่ดีที่สุด 4 ด้านเข้าด้วยกัน ออกแบบและใช้งานได้รู้ใจ Filmmaker ที่แท้จริง

พรีวิว DJI Ronin 4D กล้องวิดีโอแห่งยุคที่รวบรวมเทคโนโลยี Cimatography ที่ดีที่สุด 4 ด้านเข้าด้วยกัน ออกแบบและใช้งานได้รู้ใจ Filmmaker ที่แท้จริงเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา  DJI ได้สร้างความฮือฮาให้กับวงการภาพยนตร์และเรียกกระแสความน่าสนใจอย่างมาก โดย DJI Ronin 4D  กล้องวิดีโอแห่งยุคเป็นการรวบรวมและผสมผสานเทคโนโลยีด้าน Cinematography ที่ก้าวหน้าที่สุดของ DJI ทั้งงานภาพ กล้อง ระบบโฟกัส LiDAR กันสั่น 4 แกน อุปกรณ์เสริม จอมอนิเตอร์และอุปกรณ์เพื่อการควบคุมสื่อสารแบบ Wireless Transmission  จึงออกแบบมาอย่างเข้าใจคนทำงาน ตอบสนองการใช้งาน ลดข้อจำกัดและแก้ปัญหาการทำงานของ Filmmaker เพื่อให้งานเข้าใกล้จินตนาการและเป็นไปได้มากที่สุด 

พรีวิว DJI Ronin 4D กล้องวิดีโอแห่งยุคที่รวบรวมเทคโนโลยี Cimatography ที่ดีที่สุด 4 ด้านเข้าด้วยกัน ออกแบบและใช้งานได้รู้ใจ Filmmaker ที่แท้จริง

คุณสมบัติของ DJI Ronin 4D

กล้องวิดีโอที่รวบรวมเทคโนโลยีเพื่อการผลิตภาพยนตร์ได้อย่างครบถ้วน โดดเด่นทั้งงานภาพและอุปกรณ์เพื่อช่วยให้การทำงานของ Filmmaker ง่ายขึ้น 

DJI Ronin 4D เป็นกล้องวิดีโอที่ออกแบบมาอย่างเข้าใจ Filmmaker เพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานทั้งงานด้านภาพ ระบบโฟกัส ระบบกันสั่น และระบบการควบคุมแบบไร้สายเพื่อการทำงานที่คล่องตัว ทั้ง DL 35mm, Zenmuze X9-8K Gimbal camera,  High bright main monitor, Top handle, Hand Grip, 4D Expansion Plate (SDI/XLR/TC) , Battery, Video Transmitter, LiDAR range finder และ X9 Moter focus ลดเวลาการทำงาน และสนุกกับการสร้างสรรค์งานมากขึ้น

วัสดุในการผลิตทำจากวัสดุคุณภาพสูงที่ให้ทั้งความแข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบาเพื่อลดภาระเรื่องน้ำหนักแก่ผู้ใช้งาน

ผลิตทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ และอลูมินัมแมคนีเซียมคุณภาพสูงเพื่อให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศไม่หด หรือขยายตัวเมื่ออยู่ในสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง  ไม่เป็นสนิมและยังมีคุณสมบัติด้านการลดน้ำหนักของอุปกรณ์โดยรวมลง เพื่อการเคลื่อนไหวใช้งานได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น ลดภาระการแบกน้ำหนักของผู้ใช้ และยังช่วยลดเวลาการทำงานลงได้อีกด้วย

กล้องระดับเรือธงของ DJI ให้ทั้งคุณภาพสูงและความละเอียดสูง คมชัดสวยงาม

กล้อง Zenmuse X9 เป็นกล้องรุ่นเรือธงของ DJI ที่เป็นกล้องแบบ full-frame ที่ใช้ระบบปฏิบัติการล่าสุด CineCore 3.0 เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและแม่นยำ คุณภาพสีสันสวยงามคุมโทนแบบ Cinematic 

บันทึกผลแบบ ProResRaw และโปรไฟล์สีขึ้นสูงเพื่อการปรับแต่งงานให้ออกมาในแบบ Cinematic โดยเฉพาะ 

การบันทึกสามารถบันทึกผลได้แบบ Apple ProRes RAW, ProRes 422 HQ, และ H.264 video ทั้งยังสามารถบันทึกผลวิดีโอด้วยความละเอียด 8K/75fps และ 4K/120fps video เพื่อให้ Filmmaker ได้เลือกใช้ให้ตรงกับความต้องการด้านความเฉพาะ หรือรายละเอียดของแต่ละงาน

ถ่ายงานในที่มืดหรือที่แสงน้อยก็ยังให้รายละเอียดที่สมบูรณ์ถึงแม้จะเป็นการถ่ายทำโดยใช้แสงเทียนก็ตาม

ปรับค่า ISO (X9-8K: 800/4000; X9-6K: 800/5000 ไดนามิกเรนจ์ 14+ สตอป มีระบบการลดน็อยซ์เพื่อให้ภาพแสดงรายละเอียดที่ชัดและสมบูรณ์มากที่สุด ทั้งจุดมืดจุดสว่าง แสงเงาสวย ถึงแม้จะเป็นการถ่ายทำในที่ที่มีเพียงแสงเทียนก็ตาม 

รองรับการถ่ายทำเพื่อสร้างเอฟเฟกต์และสีสันของภาพที่สวยขึ้นด้วย ND filter ในตัว

ตัวกล้องมี 9-Stop ND Filters ในตัว (ND 2 ถึง ND 512 และ ND 0.3 ถึง ND 2.7) ซึ่งช่วยให้ปรับกับการทำงานด้านภาพและสีได้อย่างยืดหยุ่น เพื่อให้ได้รายละเอียดงานภาพที่สมบูรณ์ทั้งสีสันและแสง

กล้องเปลี่ยนเม้าท์ได้รองรับการใช้งานได้กับเลนส์หลายชนิด 

เลนส์ที่มากับตัวกล้องคือ DL Lenses จาก DJI เป็นเลนส์อเนกประสงค์ขนาดเล็กปรับการใช้งานได้ทั้งแบบออโต้โฟกัสและการกำหนดเอง ออโต้โฟกัสติดตามตัวแบบได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำเป็นแบบ DL mount 

ซึ่งตัวกล้องยังสามารถเปลี่ยนเม้าท์ได้ รองรับการทำงานกันเลนส์จาก third-party เช่น Leica M. Ultra-wide, f/0.95 large-aperture, electronic zoom, macro, และเลนส์ anamorphic เพื่อให้ได้ภาพในงานภาพยนตร์เป็นไปในแบบที่ต้องการมากที่สุดซึ่งในอนาคตอันใกล้ DJI ก็จะมีเลนส์ผลิตออกมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ในตลาดอีกหลายรุ่นให้ได้เลือกใช้กัน

ระบบโฟกัสแม่นยำขึ้นมากกว่าเดิม ทั้งยังจับระยะ ปรับความคมชัดได้อย่างฉลาดรวดเร็ว 

LiDAR เป็นระบบการจับโฟกัสที่แม่นยำมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว เป็นการใช้เซ็นเซอร์สแกนและจับตำแหน่งตัวแบบได้ 43,200 จุดที่ระยะห่าง 10 เมตร โดย LiDAR จะมองเห็นระยะโฟกัสจากรูปแบบที่เป็นกลุ่มคลื่น Waveform จับโฟกัสได้ถึงแม้ตัวแบบจะเคลื่อนที่ เปลี่ยนตำแหน่งเปลี่ยนยะยะความใกล้ไกล ตัวแบบก็ยังคงชัดเจน

ระบบโฟกัสเลือกได้ว่าจะจัดการแบบอัตโนมัติหรือการเลือกที่จะควบคุมโฟกัสเอง

เลือกที่จะใช้งานได้ทั้งแบบออโต้โฟกัสซึ่งมีความแม่นยำมาก แต่ก็เลือกที่จะโฟกัสเองได้ด้วยเช่นกัน โดยมีโหมด Automated Manual Focus (AMF) mode ใช้งานง่าย สะดวกได้แบบออโต้โฟกัสเลย เพียงการควบคุมผ่าน focus wheel ที่หมุนปรับได้ลื่นมือที่อยู่ทางด้านขวาของ hand grip จึงปรับได้ตามจังหวะที่ต้องการ

ระบบกันสั่นทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์จับความเคลื่อนไหว จึงได้ภาพเรียบลื่น ไม่สั่นถึงแม้จะเคลื่อนไหวระหว่างการถ่ายทำก็ตาม

ระบบกันสั่น 4 แกน เพื่อลดการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน โดยทำงานควบคู่ไปกับเซ็นเซอร์ควบคุมการสั่นไหว ToF sensor, dual-visual sensors, IMU และ barometer

จึงเป็นระบบกันสั่นที่ไม่ใช่กันสั่นแบบธรรมดาเพื่อปรับสมดุลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ลดการสั่นไหวทั้งจากแกน pan และ แกน Tilt ด้วยมอเตอร์ที่มีกำลัง ทำงานได้รวดเร็ว เพื่อช่วยในการทำงานที่ต้องมีการเคลื่อนไหวอยู่เสมอ 

การเชื่อมต่อแบบไร้สาย ควบคุมง่าย คล่องตัว

ระบบการเชื่อมโยงส่งผ่านข้อมูลแบบใหม่ DJI O3 Pro Video Transmission technology ที่มีระยะการส่งสัญญาณถึง  20,000 ฟุต หรือประมาณ 6 กิโลเมตรเลยทีเดียว สัญญาณส่งผ่านแบบไร้สายด้วยคลื่น 2.4GHz และ 5.8GHz รองรับความถี่ DFS frequency band และ  AES 256-bit encryption algorithm ซึ่งตัวกล้องและตัวควบคุมสามารถสั่งงานข้ามชั้น กว้างข้ามช่วงตึกทีเดียว

มีตัวรีโมทควบคุมเพื่อการควบคุมแบบไร้สาย High-Bright Remote Monitor จอสัมผัสกว้าง 7 นิ้ว สว่าง1,500 นิต ให้แสงสว่างพอดี  รองรับโปรไฟล์สี wide color gamut ต่อจอออก HDMI และ SDI ได้ใช้งานคล่อง ปรับตามรูปแบบการทำงานได้อย่างที่ต้องการ

พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแลกเปลี่ยนประสบการณ์การถ่ายภาพได้ที่ PHOTOSCHOOLTHAILAND

อ่านบทความสำหรับมือใหม่

Exit mobile version